'เมียนมา' เจอพิษเศรษฐกิจ อาหารขาดแคลน-ราคาพุ่ง ชาวเมียนมาหลายร้อยชีวิต ต้องต่อคิวรับของบริจาค
เอเอฟพี - ท่ามกลางสายฝนโปรายปรายในฤดูมรสุม ชาวพม่าหลายร้อยชีวิตกำลังต่อแถวซื้อน้ำมันพืชราคาถูกที่รัฐอุดหนุนในนครย่างกุ้ง ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของพม่า หนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ประสบปัญหาขาดแคลนในประเทศ
เศรษฐกิจของพม่าตกต่ำลงหลังการรัฐประหารของกองทัพเมื่อปีก่อน และยังถูกซ้ำเติมจากความพยายามของรัฐบาลทหารที่จะยึดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตลอดจนกฎเกณฑ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ในการกำกับธุรกิจและการนำเข้า
มาตรฐานการครองชีพกำลังได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากต้องดิ้นรนเพื่อให้ผ่านพ้นและพึ่งพาการอุดหนุนจากรัฐ หรือการกุศลเพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้
“ผู้คนไม่สามารถใช้จ่ายรายได้ของพวกเขาไปกับอาหารได้มากนักเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น” ขิ่น ขิ่น ธัน แม่บ้านวัย 55 ปี กล่าว ขณะรอเติมน้ำมันลงในขวดพลาสติกที่สมาคมท้องถิ่นนำออกขาย
ราคาตลาดสำหรับน้ำมันพืชราว 1.6 กิโลกรัม พุ่งเป็น 9,000 จ๊าต จาก 5,000 จ๊าต ขิ่น ขิ่น ธัน ระบุ
“ถ้ามีคนทำงานเพียงคนเดียว ครอบครัวจะไม่มีเงินเหลือพอสำหรับค่าอาหาร” ขิ่น ขิ่น ธัน กล่าว
ในเดือน ก.ค. ธนาคารโลกกล่าวว่า ราว 40% ของประชากรอาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนแห่งชาติ
ราคาข้าวก็ทะยานขึ้นเช่นกันโดยเป็นผลจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นและจากการที่ทหารและนักสู้ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเปลี่ยนพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสนามรบ
แม้แต่หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ที่รัฐให้การสนับสนุนก็รายงานข่าวเกี่ยวกับราคาข้าว ไข่ ผัก ค่าเดินทาง และค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกวัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดีเซล 1 ลิตร พุ่งขึ้นประมาณ 6 เซนต์ในชั่วข้ามคืน ไปแตะระดับสูงสุงที่ 2,440 จ๊าตต่อลิตร (1.15 ดอลลาร์) ตามการรายงานของสื่อของรัฐ จากในวันก่อนหน้าการรัฐประหารเมื่อปีที่ผ่านมา ลูกค้าในย่างกุ้งจ่ายเงินเพียง 695 จ๊าต ที่ปั๊มน้ำมัน
ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลทหารได้ประกาศว่าได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากรัสเซีย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการจัดซื้อนั้นจะเริ่มเมื่อใดหรืออย่างไร
