ไม่เป็นธรรม ‘อรรถวิชช์’ ติง ‘กกต.’ เหตุชงเลือกแบ่งเขตแบบ 1 หรือ 2 ขู่!! ร้องศาลเมินคำเตือน ผิดกฎหมายทำปชช. สับสน
‘อรรถวิชช์’ ติง กกต.กทม.ชงเลือกแบ่งเขตแบบ 1, 2 ส่อผิดกฎหมาย-ทำปชช. สับสน-กระทบลต. ดักคอ กกต.ใหญ่ เคาะแบ่งเขตให้เป็นธรรม ขู่ ร้องศาลหากเมินคำเตือน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 12 มี.ค.ที่พรรคชาติพัฒนากล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าชาติพัฒนากล้า แถลงกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งของ
กทม.ว่า เดิมกทม.แบ่งการเลือกตั้ง 8 เขต และเปิดรับฟังความเห็นประชาชน แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ ตีความไม่นับรวมคนต่างด้าวในการคำนวณส.ส. จึงต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.)ได้แบ่งเขตเป็น 4 รูปแบบ และเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 13 มี.ค. และจะส่งให้กกต.ชุดใหญ่ พิจารณาสรุปในวันที่ 14 มี.ค.นี้
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ขอฝากกกต.ชุดใหญ่ ว่าหาก กกต.กทม.เลือกแบ่งเขตในรูปแบบที่ 1 หรือ 2 จะเป็นการแบ่งเขตที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการซอยแขวงมานับรวมเป็นเขตเลือกตั้ง ไม่ใช่การนับรวมอำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 27 ที่ระบุสองหลักการสำคัญ คือให้นับรวมอำเภอเป็นเขตเลือกตั้งและต้องเป็นการกำหนดเป็นเขตเลือกตั้งเดียวกัน แต่การนับแบบ 1 หรือ 2 เป็นการรวมแขวงแบ่งให้ลดเลี้ยวเคี้ยวคด มีการแทรกแขวงมานับรวม ซึ่งไม่เป็นธรรม เพราะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ สามารถระบุได้ว่าพรรคไหนจะชนะและได้จำนวนส.ส.เท่าไหร่ และยังทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่าอยู่ในเขตเลือกตั้งใด
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ต่างจากการแบ่งในรูปแบบที่ 3 หรือ 4 ที่นับอำเภอเป็นหลัก โดยการเลือกตั้งปี 2554 และ2557 เป็นการแบ่งเขตที่ลงตัว ไม่มีการแทรกเขตเข้ามานับรวม ต่างจากเมื่อปี 2562 และในครั้งนี้ ที่แบ่งแบบกิ้งก่ามีการแทรกเขต ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ นอกจากนั้นในจำนวน 33 เขตยังพบว่ามีการแยกแขวงมานับรวมถึง 27 เขต ในรูปแบบที่ 1 และ 30 เขต ในรูปแบบที่ 2 ทั้งนี้
