การเลือกครั้งที่ 9 ของประเทศไทย ที่ได้ชื่อว่า "สกปรกที่สุด" ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดตามวาระ ภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 โดยรัฐบาลแปลก พิบูลสงคราม หรือจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศให้มีเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 โดยเป็นการเลือกตั้งแบบรวมเขตจังหวัด ซึ่งเป็นการช่วงชิงเก้าอี้ในสภาทั้งสิ้น 160 ที่นั่ง และมีพรรคการเมืองลงสนามเลือกตั้งถึง 23 พรรค เป็นการเลือกตั้งที่ได้ชื่อว่า สกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์
พลเอก บัญชร ชวาลศิลป์ นายทหารนักประวัติศาสตร์ กล่าวในงานเสวนาเรื่อง ‘การเมืองเบื้องหลัง เลือกตั้ง สกปรก 2500’ จัดโดยนิตยสารศิลปวัฒนธรรม โดยได้หยิบคำฟ้องของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมทย์ ที่เขียนคำฟ้องในนามนายควง อภัยวงศ์ และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์รวม 9 คน ทั้งก่อนวันเลือกตั้งและวันเลือกตั้ง สรุปได้ดังนี้
>> ก่อนการเลือกตั้ง
1.) พลเอกตำรวจเอก เผ่า จัดเลี้ยงพวก ‘ผู้กว้างขวาง’ หรือพวกอันธพาล รวมถึงนายตำรวจผู้ใหญ่ให้ช่วยเหลือพรรคเสรีมนังคศิลาที่มีจอมพล ป. เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
2.) มีการเพิ่มชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างผิดปกติ และติดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งล่าช้าหรือไม่ติดเลย
3.) ตรวจจับบัตรเลือกตั้งโกงได้จำนวนมาก เรียกว่า ‘ไพ่ไฟ’ คือบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์จากโรงพิมพ์โดยกากบาทเบอร์ผู้สมัครไว้เรียบร้อยแล้ว
4.) การใช้ ‘พลร่ม’ คือใช้กลุ่มบุคคลเวียนลงคะแนนให้พรรคเสรีมนังคศิลาหลายรอบ
5.) คูหาลงเลือกตั้งแต่ละหน่วยอยู่ห่างจากสถานที่รับบัตรมาก
