Friday, 30 May 2025
เรียนต่ออเมริกา

‘ทรัมป์’ บีบ ‘ฮาร์วาร์ด’ เปิดรายชื่อนักศึกษาต่างชาติ ตั้งคำถามประเทศต้นทาง ‘ไม่ช่วยจ่าย ทำไมได้เรียนฟรี’

(26 พ.ค. 68) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเปิดเผยรายชื่อนักศึกษาต่างชาติพร้อมสัญชาติของแต่ละคน โดยอ้างว่าเป็น “คำขอที่สมเหตุสมผล” เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ มอบเงินสนับสนุนจำนวนมากแก่สถาบันนี้ ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังตั้งคำถามว่าทำไมประเทศต้นทางเหล่านี้ ซึ่งบางแห่งไม่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ ถึงไม่ต้องจ่ายอะไรเลยให้กับนักศึกษาของตนเอง

ข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งต่อเนื่องระหว่างทรัมป์กับฮาร์วาร์ด โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับความพยายามของฝ่ายบริหารที่ต้องการสั่งห้ามไม่ให้นักศึกษาต่างชาติเรียนที่ฮาร์วาร์ด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยระบุว่าเป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ

อลัน การ์เบอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แถลงตอบโต้ว่า การกระทำของรัฐบาล “ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไร้เหตุผล” พร้อมเตือนว่า นี่อาจเป็นผลกระทบจะรุนแรงต่ออนาคตของนักศึกษาและนักวิจัยนับพันคนทั้งในและนอกประเทศ และยังเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพของสถาบันการศึกษาทั่วสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับฮาร์วาร์ดทวีความรุนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ระงับงบวิจัยกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ และข่มขู่จะยกเลิกสิทธิ์ยกเว้นภาษีของมหาวิทยาลัย พร้อมเรียกร้องให้จัดทำการตรวจสอบ “ความหลากหลายทางแนวคิด” ภายในองค์กรอีกด้วย

‘ทรัมป์’ สั่งระงับสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนต่างชาติ พร้อมตรวจเข้ม!!..บัญชีโซเชียลมีเดียของผู้สมัคร

(28 พ.ค. 68) รัฐบาลทรัมป์มีคำสั่งให้สถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯ ทั่วโลกหยุดเพิ่มนัดสัมภาษณ์สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการขอวีซ่าเข้าศึกษาในสหรัฐฯ โดยมีผลทันที เพื่อเตรียมขยายมาตรการตรวจสอบข้อมูลโซเชียลมีเดียของผู้สมัคร ซึ่งคำสั่งนี้ออกโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ และถูกเผยแพร่ไปยังทุกหน่วยงานทางการทูต

เอกสารภายในระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน การจัดสรรทรัพยากร และกระบวนการของแผนกกงสุล โดยจะให้ความสำคัญกับการบริการสำหรับพลเมืองสหรัฐฯ วีซ่าผู้อพยพ และการป้องกันการฉ้อโกงเป็นอันดับแรก ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าการตรวจสอบโซเชียลมีเดียจะดำเนินการอย่างไร

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา วีซ่าของนักเรียนต่างชาติหลายพันคนถูกเพิกถอน โดยรัฐบาลทรัมป์อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและการต่อต้านแนวคิดหัวรุนแรง นอกจากนี้ยังมีคำสั่งห้ามนักเรียนต่างชาติลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปีการศึกษาหน้า ส่งผลให้อนาคตของนักเรียนเหล่านี้ตกอยู่ในความไม่แน่นอน

ขณะที่ องค์กรด้านการศึกษานานาชาติและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เตือนนักเรียนต่างชาติให้หลีกเลี่ยงการเดินทางกลับถิ่นฐานในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เนื่องจากอาจไม่สามารถกลับเข้าประเทศได้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามาตรการใหม่นี้อาจกระทบทางการเงินต่อมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่พึ่งพานักเรียนต่างชาติเป็นจำนวนมาก

‘ม.ฮาร์วาร์ด’ อาจถูกตัดงบ 100 ล้านดอลลาร์ หลังถูกกล่าวหาเลือกปฏิบัติ-ต่อต้านชาวยิว

(28 พ.ค. 68) รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมให้หน่วยงานรัฐทบทวนเงินทุนที่มอบให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยอาจยุติหรือโอนงบประมาณไปยังหน่วยงานอื่น หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดในการกดดันสถาบันการศึกษาชั้นนำแห่งนี้

สำนักงานบริหารบริการทั่วไป (GSA) เตรียมส่งจดหมายถึงหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ระบุสัญญาที่ทำไว้กับฮาร์วาร์ด ซึ่งคาดว่ามีมากถึง 30 ฉบับ รวมมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,650 ล้านบาท) ขณะที่ร่างจดหมายฉบับนี้กล่าวหาว่าฮาร์วาร์ดมีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติและต่อต้านชาวยิว

แม้รัฐบาลจะยังไม่ตัดงบทันที แต่จะเริ่มกระบวนการประเมินว่าเงินทุนใดจำเป็นต่อผลประโยชน์ของรัฐ โดย GSA จะเสนอให้ยกเลิกสัญญาที่ไม่ผ่านเกณฑ์ พร้อมโยกงบประมาณไปยังโครงการอื่น ด้านฮาร์วาร์ดยังไม่ออกแถลงการณ์ แต่เตือนว่าการวิจัยสำคัญ เช่น มะเร็งและโรคติดเชื้อ อาจหยุดชะงักหากขาดเงินสนับสนุน

ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลทรัมป์กับฮาร์วาร์ดทวีความรุนแรงขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งจากการอายัดงบวิจัย 2.2 พันล้านดอลลาร์ และคำสั่งระงับสิทธิ์รับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งสร้างความโกลาหลให้กับนักเรียนหลายพันคน ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งชะลอการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวชั่วคราว

สหรัฐฯ เตรียมยกเลิกวีซ่านักเรียนจีนจำนวนมาก มุ่งเป้า!!..ผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์

(29 พ.ค. 68) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่าสหรัฐฯ จะเริ่ม 'ยกเลิกวีซ่าอย่างเข้มงวด' สำหรับนักเรียนจีนที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศ โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือกำลังศึกษาในสาขาที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ พร้อมทั้งจะเพิ่มมาตรการคัดกรองในการอนุมัติวีซ่าของนักเรียนจากจีนและฮ่องกงในอนาคต

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยเฉพาะหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง และกล่าวหาจีนว่าเอาเปรียบทางการค้าต่อสหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู่สงครามภาษีที่ทวีความรุนแรงขึ้น

นอกจากจีนจะเป็นประเทศต้นทางอันดับสองของนักเรียนต่างชาติในสหรัฐฯ แล้ว นักเรียนจีนยังมีจำนวนมากกว่า 270,000 คนในปีการศึกษา 2023-2024 คิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของนักเรียนต่างชาติทั้งหมด การยกเลิกวีซ่าครั้งนี้จึงสร้างความไม่แน่นอนอย่างมากในแวดวงการศึกษา

นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังสั่งระงับการดำเนินการออกวีซ่านักเรียนชั่วคราว และเตรียมขยายมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของผู้ยื่นขอวีซ่า รวมถึงมีความพยายามยกเลิกวีซ่าของนักเรียนที่มีบทบาททางการเมืองหรือแสดงออกสนับสนุนปาเลสไตน์ ซึ่งรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นการยุยงความเกลียดชัง แม้นักเคลื่อนไหวและนักกฎหมายจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ก็ตาม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top