(7 ธ.ค. 67) พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ตำรวจมือปราบผู้ซื่อสัตย์และเที่ยงตรง ได้โพสต์คลิป โดยมีใจความว่า ...
ผมได้รับการติดต่อจาก ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ติดต่อทาบทามมาขอให้ผมเป็นประธาน
สอบสวนเกี่ยวกับการไม่ชอบมาพากลของการ จัดซื้อจัดจ้าง ของหน่วยงานในสังกัดดูแลของท่าน
สืบเนื่องมาจากในการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จะจ้างบริษัทมาขนถ่านหิน เงินงบประมาณ 7,250 ล้าน แล้วมันจัดซื้อจัดจ้างกันยังไงไม่รู้ ไปจัดวิธีพิเศษ จัดวิธีพิเศษไม่มีการประมูลแข่งขันกันอะไรกัน
ผมก็ยินดีทําเพื่อประเทศชาติ แล้วมันจะทําให้ผลประโยชน์ตกแก่ประชาชน จะได้ประหยัดงบประมาณ อาจจะทําให้ค่าไฟฟ้าถูกลง
ผมยินดี และเต็มใจ ท่านก็บอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้าคงจะเซ็นแต่งตั้งให้ผมเป็นประธานตรวจสอบ
แต่ผมก็กราบเรียนท่านว่า ถ้าตั้งผมแล้วเนี่ยอย่าให้ใครมาขอนะ ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิดนะ ใครถูกก็ว่าไปตามถูกนะ
ใครผิดก็ต้องรับกรรมไปนะ
ผมไม่ไปสนใจทั้งนั้น ว่าใคร จะเป็นอะไรยังไง ถ้าผิดก็ต้องว่าตามผิด ถูกก็ว่าตามถูก ท่านบอกท่านตัดสินใจเลือกผมเพราะรู้ว่าผมเป็นคนไม่ยอมใคร ถูกก็ถูกผิดก็ผิด
มันก็เป็นนิสัยของผมมาตั้งแต่ผมยังเป็นดํารงตําแหน่งแค่เป็นสารวัตร
ตอนนั้นเป็นสารวัตรตลาดไร่เก่าปี 2537 มันก็มีการจัดประมูลงานของแขวงการทางที่แขวงการทางที่ชายทะเล ผู้รับเหมามากันหลายร้อยเลยต่างคนต่างขนอาวุธยุทธภัณฑ์กันมาข่มขู่กัน มาล็อกงาน ล็อกกันไม่ให้บริษัทอื่น มาซื้อซองเข้าประมูลได้
ผมเห็นคนมันมาผิดปกติ ผมก็เอากําลังตํารวจไปปิดล้อม ตรวจค้น ผมจับหมด ได้ข้าวหลามเนี่ย!! ใช้คําว่าเป็นร้อยกระบอกครับ เป็นเข่งนะครับ ผมไม่ยอม แล้วผมก็อยู่ในที่ประมูลด้วย ประมูลแข่งกันไปผลประโยชน์ตกแก่แผ่นดิน
อย่ามาล็อกกัน จับดําเนินคดีหมดนะครับ
ถือว่าพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติ
หลังจากนั้น นายช่างมันรู้กัน มันไม่กล้ามาประมูลกันในเขตผมเลยนะครับ ไม่กล้ามาประกวดงาน ในเขตผมเลยนะครับ
อีกครั้งหนึ่งผมมาเป็นผู้กํากับที่บ้านโป่ง ก็มีการประมูลงานกัน ของกรมชลประทาน
ผมจับดําเนินคดีหมดครับ ผมไม่ยอมหรอกครับ
เอาแฟร์แฟร์กัน!!