Tuesday, 20 May 2025
เยเมน

กองทัพ 'อเมริกา+อังกฤษ' โจมตี 'เยเมน' หวังถล่มฐานทัพ 'ฮูตี' เปิดฉากสมรภูมิใหม่เต็มสูบ 'ทางอากาศ-ทางเรือ-เรือดำน้ำ'

(12 ม.ค.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเริ่มปฏิบัติการโจมตีเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพวกฮูตีในเยเมน เจ้าหน้าที่อเมริกา 4 รายเปิดเผยกับรอยเตอร์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดปฏิบัติการกับพวกติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ นับตั้งแต่ทางกลุ่มเริ่มเล็งเป้าโจมตีเรือขนส่งสินค้าต่างๆ ในทะเลแดงในช่วงปลายปีที่แล้ว

ฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมน เล็งเป้าเล่นงานเส้นทางเดินเรือสินค้าในทะเลแดง เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มนักรบอิสลามิสต์ปาเลสไตน์ ‘ฮามาส’ ท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซา การโจมตีก่อความปั่นป่วนแก่การค้าระหว่างประเทศ ในเส้นทางขนส่งสำคัญที่เชื่อมระหว่างยุโรปกับเอเชีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของการขนส่งสินค้าทางเรือทั่วโลก

ปฏิบัติการครั้งนี้เชื่อว่าเป็นปฏิบัติการโจมตีครั้งแรกของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2016 ที่ลงมือเล่นงานพวกกบฏฮูตีในเยเมน

เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าคาดหมายว่าจะมีการเผยแพร่ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการในไม่ช้านี้ ซึ่งจะให้รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตี

ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (10 ม.ค.) ผู้นำกลุ่มฮูตี บอกว่าการโจมตีใดๆ ของสหรัฐฯ ที่เล่นงานทางกลุ่ม การโจมตีเหล่านั้นจะไม่ถูกปล่อยให้ผ่านพ้นไปเฉยๆ โดยปราศจากการตอบโต้ใดๆ

พวกฮูตี ซึ่งยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมน ในสงครามกลางเมือง ได้ประกาศโจมตีเรือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล หรือมุ่งหน้าสู่ท่าเรือของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม จำนวนมากของเรือที่ตกเป็นเป้าหมายนั้นพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับอิสราเอล

กองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าพวกฮูตีได้ลงมือโจมตีเล่นงานการเดินเรือครั้งที่ 27 นับตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ด้วยการยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือเข้าใส่เส้นทางการเดินเรือในอ่าวเอเดน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กองทัพเรือสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรได้สอยร่วงโดรนและขีปนาวุธจำนวนหลายสิบ ที่กบฏฮูตียิงเข้าใส่ทางใต้ของทะเลแดง

‘พวกฮูตีจำเป็นต้องหยุดการโจมตีเหล่านี้ พวกเขาต้องแบกรับผลสนองกลับ หากว่าไม่ยอมทำตาม’จอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวระบุในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

บรรณาธิการข่าวการเมืองของหนังสือพิมพ์เดอะไทม์ส ของอังกฤษ ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กล่าวอ้างก่อนหน้านี้ไม่นานว่า สหราชอาณาจักรคาดหมายว่าจะร่วมกับสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นทางทหารที่เป็นของพวกฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน ‘ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า’

เดอะไทม์ส ของอังกฤษรายงานว่าก่อนหน้านั้นในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาซูแน็ก ได้บรรยายสรุปกับคณะรัฐมนตรี ต่อการขยับเข้าใกล้การเข้าแทรกแซงทางทหาร และสื่อมวลชนอังกฤษแห่งนี้รายงานด้วยว่า บุคคลทางการเมืองอื่นๆ ในนั้นรวมถึง เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายค้านของสหราชอาณาจักร เช่นเดียวกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฟังรายงานสรุปจากรัฐบาลเช่นกัน

ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรของ ริชี ซูแน็ก ไม่ตอบคำถามของรอยเตอร์ ที่สอบถามขอความคิดเห็น ส่วนกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และทำเนียบขาวก็ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว ในขณะที่ปกติแล้ว อเมริกาจะไม่แสดงความคิดเห็นต่อแนวโน้มปฏิบัติการทางทหารใดๆ ในอนาคต

สหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีทางอากาศเยเมน ฮูตีดับ 9 ศพ ทำเนียบขาวส่งสัญญาณเตือนอิหร่าน

(17 มี.ค. 68) สำนักข่าวสปุตนิก รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้กองทัพเปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย รวมถึงพลเรือนหลายคน โดยการโจมตีครั้งนี้เป็นปฏิบัติการตอบโต้หลังจากที่กลุ่มฮูตีได้โจมตีเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การโจมตีของสหรัฐฯ มุ่งเป้าไปที่คลังอาวุธและฐานปฏิบัติการหลักของกลุ่มฮูตี เพื่อทำลายขีดความสามารถในการก่อเหตุโจมตีต่อไป พร้อมกันนี้ ทรัมป์ยังได้ออกคำเตือนถึงอิหร่านให้ยุติการสนับสนุนกลุ่มฮูตีทันที มิฉะนั้น สหรัฐฯ อาจใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้น

ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน สหรัฐฯ และอิรักเปิดเผยข้อมูลตรงกันว่า ผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถูกสังหารจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รายงานระบุว่าการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ทางตอนเหนือของอิรัก และถือเป็นความสำเร็จสำคัญในการกวาดล้างเครือข่ายก่อการร้ายของไอเอส

ด้าน อิซา บลูมี (Isa Blumi) ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านตะวันออกกลาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน เป็นมากกว่าการตอบโต้เชิงยุทธศาสตร์ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายอิทธิพลของอิสราเอลในภูมิภาค

“การตัดสินใจของทรัมป์คือการปกป้องและช่วยขยายอำนาจของอิสราเอลให้ครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่” บลูมี กล่าวพร้อมชี้ว่าการโจมตีดังกล่าวอาจมีเป้าหมายเพื่อทำลายกลุ่มต่อต้านอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

ทั้งนี้ การโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ ต่อกลุ่มฮูตีในเยเมน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต รวมถึงพลเรือน หลายราย และก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับเป้าหมายและผลกระทบของปฏิบัติการนี้

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ อาจทำให้ความขัดแย้งในภูมิภาครุนแรงขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่มฮูตี และอาจทำให้ตะวันออกกลางกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของการเผชิญหน้าในระดับนานาชาติ

สหรัฐฯ เผลอเผยแผนโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในแชต เจ้าหน้าที่มะกันยอมรับความผิดพลาดและเตรียมตรวจสอบภายใน

(25 มี.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดเผยแผนการรบที่กำหนดไว้ในเยเมนในแชตกลุ่มที่มีนักข่าวอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่แผนนั้นจะถูกนำไปใช้ในการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนในเวลาต่อมา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้อภิปรายแผนการทางทหารในเยเมนในกลุ่มแชตที่มีผู้เข้าร่วมหลากหลาย รวมถึงนักข่าวที่ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์ต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวสู่สาธารณะ 

โดยหนึ่งในนักข่าวที่อยู่ในกลุ่มแชตดังกล่าวคือ เจฟฟรี่ย์ โกลด์เบิร์ก จากนิตยสาร The Atlantic ซึ่งเขาอ้างว่าได้ถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มลับที่มีรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ และรัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ  อยู่ด้วย โดยไม่ได้ตั้งใจ

โกลด์เบิร์กกล่าวอีกว่า เขาเห็นแผนการทางทหารลับของสหรัฐฯ สำหรับการโจมตีกลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งรวมถึงชุดอาวุธ เป้าหมาย และกำหนดเวลา สองชั่วโมงก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิด

และเพียงไม่นานหลังจากแผนรบถูกเปิดเผยในแชต กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนก็ถูกโจมตีตามแผนที่ถูกเปิดเผย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของข้อมูลลับ และการควบคุมข้อมูลภายในรัฐบาลสหรัฐฯ

“มันเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างแน่นอน และดูเหมือนว่าจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น” นายโรเจอร์ วิกเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการกองทัพวุฒิสภา ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันของรัฐมิสซิสซิปปี้กล่าว

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องได้แถลงการณ์ขอโทษเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ โดยยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารที่ไม่ระมัดระวัง และยืนยันว่าจะมีการตรวจสอบภายในเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์ว่า “การโจมตีกลุ่มฮูตีประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผลเป็นอย่างมาก ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงมีความเชื่อมั่นสูงสุดต่อทีมความมั่นคงแห่งชาติของเขา รวมถึงที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ ไมค์ วอลทซ์”

ขณะที่แผนการโจมตีฮูตีในเยเมนยังคงเป็นประเด็นที่มีความสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ และพันธมิตรในตะวันตกมองว่า กลุ่มฮูตีมีบทบาทสำคัญในการปั่นป่วนเสถียรภาพของเยเมนและภาคพื้นใกล้เคียง

ขณะเดียวกัน กลุ่มฮูตีและพันธมิตรของพวกเขาในเยเมนได้ตอบโต้การโจมตีครั้งนี้ด้วยการประณามการกระทำของสหรัฐฯ และกล่าวหาว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นการแทรกแซงที่ไม่เป็นธรรมในกิจการภายในของประเทศ

ทั้งนี้ การเปิดเผยแผนการทางทหารในแชตกลุ่มนี้สร้างแรงกระเพื่อมในแวดวงการทูตและความมั่นคงทั่วโลก โดยมีการเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เข้มงวดขึ้นในการรักษาความลับ และข้อมูลทางทหารในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top