Monday, 29 April 2024
เมืองพัทยา

ชลบุรี - ‘นายกปลื้ม’ ห่วง! อสม .ปฏิบัติงานด่านหน้าป้องกันโควิด-19 เปิดโครงการตรวจสุขภาพฟรีกว่า 400 คน

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยนโยบายของเมืองพัทยาที่มีความห่วงใยสุขภาพและคุณภาพชีวิตของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) บุคลากรด่านหน้า และทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ที่เสียสละปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือชาวชุมชนเมืองพัทยาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เมืองพัทยาเข้มแข็งและมีสุขภาวะที่ดีมาจนถึงขณะนี้

จึงได้มอบให้สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับโรงพยาบาลเมืองพัทยา จัดโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี 2564 เป็นพิเศษให้แก่ อสม. เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และทีม SRRT เมืองพัทยากว่า 400 คน ในวันที่ 2-3 ธันวาคม 2564 นี้ ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า การตรวจสุขภาพประจำปีครั้งนี้เป็นการดูแลสุขภาพทางร่างกายและส่งกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่บุคลากรด่านหน้าทางด้านสาธารณสุข ทั้งเครือข่าย อสม. และ SRRT ทุกคน โดยทางโรงพยาบาลเมืองพัทยา ได้เตรียมความพร้อม ทีมแพทย์ พยาบาล และรถโมบายเคลื่อนที่ มาให้บริการตรวจสุขภาพในวันดังกล่าวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

หลังจากนี้ เมืองพัทยามีแนวคิดส่งเสริมบริการตรวจสุขภาพอย่างทั่วถึง โดยมุ่งเน้นกลุ่มประชาชนผู้สูงวัย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัว สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้เช่นเดียวกัน รวมถึงบริการตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ เพราะผู้ป่วยบางคนอาจอยู่ติดบ้านติดเตียง ไม่สะดวกในการเดินทางไปยังจุดบริการ หรือไปโรงพยาบาลเมืองพัทยาได้ จคงต้องมีทีมสาธารณสุขเคลื่อนที่แบบเพื่อเข้าถึงพี่น้องประชาชน

ด้าน นางมาลี รักษาราษฎร์ ประธาน อสม. หางใหญ่ 1 เมืองพัทยา กล่าวว่า โครงการตรวจสุขภาพ อสม.เมืองพัทยา นับเป็นนโยบายที่ดี เนื่องจาก อสม.ส่วนใหญ่ จะมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีรายได้มากนัก แต่ต้องทำงานลงพื้นที่ ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยตามชุมชนตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องตรวจร่างกายให้แข็งแรงก่อนจะไปดูแลผู้ป่วยคนอื่น

 

หอภาพยนตร์ (ประเทศไทย) จัดงานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมอนุรักษ์สื่อโสตทัศน์ตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (SEAPAVAA) ครั้งที่ 27 ที่เมืองพัทยา

(10 พ.ค.66) ณ ศูนย์ประชุมมหาไถ่ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดงานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมอนุรักษ์สื่อโสตทัศน์ฯ ครั้งที่ 27 โดยมี Ms.Karen Chan (มิส คาเร็น ชาน) ประธานสมาคมฯ และกรรมการบริหารพร้อมด้วยสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมงาน 

สืบเนื่องจาก ระหว่างวันที่ 8 - 13 พฤษภาคม 2566 หอภาพยนตร์ (องค์การมหาซน ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานประชุมสามัญประจำปีของสมาคมอนุรักษ์สื่อโสตทัศน์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (South Pacific Audio Visual Archive Associations หรือ SEAPAVAA) ครั้งที่ 27 ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 ของประเทศไทยที่ ได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO), เมืองพัทยา และองค์กรบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท, โดยเลือกศูนย์ประชุมมหาไถ่ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่จัดประชุม 

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เมืองพัทยา และขับเคลื่อนภารกิจเมืองพัทยาสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านภาพยนตร์ของยูเนสโก และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ตามยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่เมืองพัทยา และวัตถุประสงค์หลักเฉกเช่นทุกปีของการจัดประชุมสามัญประจำปีของสมาคมอนุรักษ์สื่อโสตทัศน์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (SEAPAVAA) ก็คือการสร้างความตระหนักรู้และความสำคัญของการอนุรักษ์ภาพยนตร์และสื่อโสตทัศน์ในสังคมไทย และสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ภาพยนตร์ สื่อโสตทัศน์ ตลอดจนสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ และเผยแพร่องค์ความรู้นั้นให้แก่สาธารณชนทั้งในระดับชาติและนานาชาติ พร้อมไปกับการสร้างเครือข่ายการทำงานด้านภาพยนตร์

ซึ่งในวันนี้ได้มีการจัดบรรยายในหัวข้อ Global audiovisual archive: a call forcollaboration and sustainabillty โดย Ms Giovana Fossati (มิส จิโอวาน่า ฟอสซาติ) จาก EYE Filmmuseum และหัวข้อ High Productivity Digitization โดย Jim Lindner and David Barnard ณ ศูนย์ประชุมมหาไถ่ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

‘เกาะล้าน’ เกิดปรากฏการณ์ ‘แพลงก์ตอนบลูม’ อีกครั้ง น้ำทะเลเริ่มเป็นสีเขียว แต่นักท่องเที่ยวยังคงเล่นน้ำตามปกติ

(20 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศชายหาดเกาะล้าน เมืองพัทยา ในวันนี้พบว่าน้ำทะเลเริ่มเป็นสีเขียวอีกแล้ว หลังเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่หาดตาแหวนและหาดตายาย ได้เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเขียวมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นน้ำทะเลเกาะล้านเกิดเป็นทะเลเขียวประมาณ 3-4 วัน โดยในวันนี้พบว่าที่เกาะล้านเริ่มมีน้ำทะเลเขียวอีก แต่นักท่องเที่ยวก็ยังเล่นน้ำตามปกติ

สำหรับน้ำทะเลเขียวนี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกว่า แพลงก์ตอนบลูม จึงทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติ ซึ่งปีหนึ่งจะเกิดขึ้น 2-3 วัน ในช่วงต้นฤดูฝน อาจทำให้น้ำทะเลเป็นสีเขียว เพราะมีน้ำจืดไหลลงทะเล จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยถือว่าไม่เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตามปกติ

‘ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา’ เกิดเหตุไฟไหม้ลุกลามทั้งตลาด ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย

(8 ก.ย.66) ศูนย์วิทยุสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้ตลาดน้ำ 4 ภาค ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงกว่า 20 คันระดมเข้าระงับเพลิงไหม้ ที่เกิดเหตุพบต้นเพลิงอยู่กลางตลาดน้ำ 4 ภาค โดยไฟลุกโชนอย่างต่อเนื่อง พนักงานบางคนกระโดดน้ำหนีไฟไหม้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วไม่มีท่าทีว่าจะดับได้ ด้านเจ้าหน้าที่ได้กระจายจุดให้รถดับเพลิงเข้า โดยจุดที่ไฟไหม้อยู่ใจกลางของตลาดน้ำ

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนต้นเพลิงนั้นไม่มีท่าทีว่าจะดับ บวกกับพื้นที่มีลมกระโชก มีฝนโปรยปราย นอกจากนี้ยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามในเบื้องต้น พนักงานบอกยังไม่รู้ว่าจุดไหนที่เป็นต้นเพลิง โดยพื้นที่ทั้งหมดส่วนใหญ่แล้วเป็นไม้ หลังคามุงจาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลาม จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย

‘กรมควบคุมโรค’ เผย พัทยา-บางละมุง มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อ ‘Mpox’ พุ่ง พบส่วนใหญ่เป็นชายรักชาย เตือน!! ให้งดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า

(23 ก.ย.66) โดยมีรายงานจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังในปัจจุบัน พบว่า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือโรคฝีดาษลิง (Monkeypox หรือ Mpox) แล้วจำนวนหนึ่ง และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งยังพบว่ามีผู้เสียชีวิต

และผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชายกลุ่มชายรักชาย ที่พักอาศัยในเขตเมืองพัทยา ซึ่งให้ประวัติสัมผัสโรคจากการมีเพศสัมพันธ์

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนเพศชายกลุ่มชายรักชายงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หรือเปลี่ยนคู่นอน หรืองดมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ตนเองหรือคู่นอนมีไข้ หรือผื่น หรือตุ่มน้ำที่ปรากฏในร่างกาย เนื่องจากอาการเหล่านี้เป็นอาการในระยะแพร่โรค

อย่างไรก็ตาม หากผู้ใดมีอาการสงสัยเป็นโรคฝีดาษวานร ให้เข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลบางละมุง หรือโรงพยาบาลเมืองพัทยา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยประชาชนสามารถติดตามรายละเอียดข้อแนะนำความรู้โรคฝีดาษวานรได้ตามลิงก์ https://ddc.moph.go.th/das/news.php?news=34402&deptcode=das 

ผบช.ทท.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม สร้างความมั่นใจเมืองพัทยา หลังรัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยว

เวลา 16.30 น.วันที่ 27 ก.ย.66 ที่ลานอเนกประสงค์ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยา (บาลีฮาย) จ.ชลบุรี พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้เดินทางมาเป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมเพื่อยกระดับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยยกเว้นวีซ่ามีระยะเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัย ให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในห้วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 

ดังนั้น กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี, สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, กองบังคับการตำรวจน้ำ, กองบังคับการตำรวจทางหลวง, เมืองพัทยา, ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง, เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี, อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว และภาคเอกชนในพื้นที่เมืองพัทยา

ทั้งนี้ เพื่อระดมสรรพกำลังร่วมปฏิบัติภารกิจกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

กฟผ. ทช. เมืองพัทยา สานพลังร่วมฟื้นฟูอ่าวไทย พร้อมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล ดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการประมง สร้างรายได้กระตุ้นเศษฐกิจ

วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2566) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ เมืองพัทยา จัดกิจกรรมจัดวางฐานลงเกาะปะการังจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้า โครงการบ้านปลา กฟผ. โดยมี นางจินตนา บำรุง ผู้แทนปลัดเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และกำหนดมาตรการจัดการทรัพยากรทางทะเล กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล (ทช.)  นางสาวสุมิตรา กาญจนมิตร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคกลาง กฟผ. หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดชลบุรี ชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวดำน้ำแบบเดินใต้ทะเล (Sea Walker) นักดำน้ำอาสาสมัคร เข้าร่วมกิจกรรมนำฐานลงเกาะปะการังจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้า กฟผ. กว่า 230 ชุด ไปวางบริเวณแนวปะการังพื้นที่เกาะสาก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

นางจินตนา บำรุง ผู้แทนปลัดเมืองพัทยา เผยว่า ทช. และ กฟผ. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นของประเทศไทย โดยฐานลงเกาะปะการังจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าจะเป็นแหล่งยึดเกาะปะการัง เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศใต้ทะเลได้รับการฟื้นฟูกลับมาอุดมสมบูรณ์ ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและการประมงที่จะช่วยสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.ชลบุรี ต่อไป  

นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และกำหนดมาตรการจัดการทรัพยากรทางทะเล กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล (ทช.) กล่าวว่า ทช. และ กฟผ. ได้ร่วมมือกันในการฟื้นฟูท้องทะเลไทยทั่วประเทศให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แก่สิ่งมีชีวิตบริเวณแนวปะการังในโครงการบ้านปลา กฟผ. โดย กฟผ. ได้ให้การสนับสนุนลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าที่ครบอายุการใช้งานมาทำเป็นฐานลงเกาะปะการังและนำไปวางในท้องทะเล เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล นับเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ทะเล และเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ในหลายพื้นที่ของ จ.ชลบุรี

นางสาวสุมิตรา กาญจนมิตร ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคกลาง กฟผ. เปิดเผยว่า ลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าเป็นหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในการส่งจ่ายกระแสไฟฟ้า ในแต่ละปีจะมีลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าที่ครบอายุการใช้งานเป็นจำนวนมาก กฟผ. ได้พิจารณาหาวิธีนำอุปกรณ์นี้มาใช้ประโยชน์โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงนำมาทำเป็นฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการังเพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล พร้อมประสานกับหน่วยงานทางทะเล และสถาบันการศึกษา เพื่อยืนยันลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ทั้งยังเกิดปะการังตามธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเลอย่างยั่งยืน

ที่ผ่านมา กฟผ. ร่วมกับ เครือข่ายพันธมิตร นำปะการังธรรมชาติจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้า ไปวางไว้ใต้ทะเลไทยทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2554 โดยวางครั้งแรกที่ ต.แสมสาร  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และกระจายไปในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สงขลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต รวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 ชุด พร้อมเดินหน้าโครงการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ได้แก่  ทช. กองทัพเรือ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 โดยร่วมกันพิจารณาเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อนำลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้ามาสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยและอนุบาลสัตว์ทะเล เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ทะเลตามแนวชายฝั่งให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน

นทท.ต่างชาติโชว์สยิวโจ่งครึ่มในไทย แม้รู้ผิดกฎหมาย แถมโบกไม้โบกมือให้กับคนที่ผ่านไป-มา ไร้ความละอาย

เมื่อไม่นานมานี้ นสพ. New York Post สหรัฐอเมริกา เสนอรายงานพิเศษ Sex-crazed tourists filmed making whoopie on Thailand beach as others look on and laugh ว่าด้วยพฤติกรรม ‘โชว์สยิว’ ในย่านชายหาดและแหล่งท่องเที่ยวของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ประเทศไทย ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งกรณีล่าสุด ปรากฏคลิปวีดีโอความยาว 1 นาที เป็นภาพคู่รักชาย-หญิงชาวต่างชาติ มีเพศสัมพันธ์กันแบบโจ๋งครึ่มไม่แคร์สายตาผู้พบเห็น บริเวณถนนริมชายหาด ขณะที่คนอื่นๆ ในบริเวณนั้นก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน

เมื่อคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกแชร์บนเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 มันได้ถูกตั้งคำถามจากชาวเน็ต เช่น “นี่เป็นเรื่องปกติของพัทยาหรือ?” / “ทำไมไม่ไปทำกันที่โรงแรม?” / “ต้องเป็นคนแบบไหนหรือถึงทำแบบนี้ได้?” เป็นต้น 

ขณะที่สื่อท้องถิ่นของประเทศไทยรายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณถนนริมหาดนาจอมเทียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของคอนโดมิเนียมสูง โรงแรม และร้านอาหาร และอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กีฬาทางน้ำพัทยา

โดยถนนเส้นดังกล่าวมีผู้คนพลุกพล่านทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวตลอดเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน แม้แต่ช่วงกลางดึกอย่างเวลา 02.00-04.00 น. ก็เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นจุดที่อาจพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายอนาจารในที่สาธารณะได้ แม้พฤติกรรมดังกล่าวจะมีความผิดตามกฎหมายไทยก็ตาม 

สำหรับกรณีล่าสุดที่เป็นข่าว เบื้องต้นตำรวจได้ทำการสืบสวน แต่ก็อาจช้าเกินไปเสียแล้ว เมื่อมีรายงานว่า แม้คลิปวีดีโอเพิ่งถูกแชร์เมื่อสัปดาห์ล่าสุด แต่เหตุการณ์ในคลิปที่ถูกบันทึกไว้น่าจะเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นเดือน ซึ่งคู่รักที่อยู่ในคลิปก็น่าจะออกจากพัทยาไปแล้ว

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า เรื่องทำนองนี้ในประเทศไทยไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนไปเมื่อปี 2566 มีกรณี ผู้หญิงรายหนึ่งถูกจับได้ว่าทำออรัลเซ็กซ์กับผู้ชายคนหนึ่งใต้เสาไฟถนนบนทางเท้าสาธารณะ ขณะที่คนงานกำลังจัดเวทีในบริเวณใกล้เคียง หรือเมื่อช่วงเทศกาลคริสต์มาสของปี 2565 ก็มีข่าวชาวต่างชาติสภาพเมา มีเพศสัมพันธ์กับหญิงขายบริการทางเพศในที่สาธารณะ แถมยังโบกไม้โบกมือให้กับคนที่ผ่านไป-มาอีกต่างหาก

ก็คงต้องตามดูกันต่อไป ว่าปัญหานี้ ทางภาครัฐจะเข้ามาจัดการแบบเข้มงวดแค่ไหน หลังกลายเป็นข่าวสะพัดไปในหน้าสื่อต่างชาติ จนอาจทำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเสื่อมเสียในจังหวะที่การท่องเที่ยวไทยกำลังบูม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top