Tuesday, 22 April 2025
เมืองทองธานี

‘Impact’ มั่น!! ‘สายสีชมพู-เมืองทอง’ พร้อมเปิดปี 68 พ่วง Sky Entrance 195 ล้าน เชื่อม ‘อิมแพ็ค-สีชมพู’

(20 ต.ค. 66) นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ‘อิมแพ็ค เมืองทองธานี’ กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานี ปัจจุบันดำเนินงานก่อสร้างไปแล้วเกือบ 30%

โดยรายละเอียดโครงการก่อสร้างแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 จากสถานีเมืองทองธานี บริเวณห้างแม็คโคร ถนนแจ้งวัฒนะ ต่อเข้ามายังเมืองทองธานี ช่วงที่ 2 งานก่อสร้างสถานี MT-01 บริเวณวงเวียนหน้าอิมแพ็ค และช่วงที่ 3 ระหว่างสถานี MT-01 ถึง MT-02 บริเวณลานริมทะเลสาบเมืองทองธานี โดยภาพรวมงานก่อสร้างยังคงตรงตามกำหนดระยะเวลา และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการได้ในปี 2568

นอกจากงานโครงสร้าง 2 สถานีหลักแล้ว ทางอิมแพ็คได้เตรียมแผนงานก่อสร้าง ‘Sky Entrance’ เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี) และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ โดยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท หรือ ‘IMPACT’ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการ Sky Entrance มีการเข้าทำบันทึกข้อตกลง เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานี ซึ่งมีแนวเส้นทางโครงการเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และเส้นทางของรถไฟฟ้าสายดังกล่าวจะเป็นเส้นทางขนานทางด่วนอุดรรัถยา ผ่านบริเวณด้านข้างอาคาร อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ และสิ้นสุดโครงการที่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี

สำหรับโครงการ Sky Entrance จะใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นรวม 195 ล้านบาท เป็นการดำเนินงานก่อสร้างสะพานทางเชื่อม และพื้นที่ล็อบบี้ด้านข้างอาคารชาเลนเจอร์เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งโครงการ Sky Entrance ทางกองทรัสต์ฯ มีความจำเป็นต้องให้การสนับสนุนการก่อสร้างเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสถานี MT-01 กับอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินหลักที่กองทรัสต์เข้าลงทุน สามารถต่อยอดธุรกิจ และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ทั้งนี้ ตามประกาศรถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นทางหลักแคราย-มีนบุรี จะเปิดบริการช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ทาง อิมแพ็ค ได้เตรียมรถรับส่งจากสถานีศรีรัช เข้าสู่ศูนย์ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าเบื้องต้นจนกว่าสถานีส่วนต่อขยายจะเปิดบริการ

นายวัชระ จันทระโสภา หัวหน้าฝ่ายบริหารโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการ Sky Entrance เป็นการดำเนินงานก่อสร้างโดยทีมอิมแพ็ค ค่าใช้จ่ายเป็นงบประมาณในส่วนของ อิมแพ็ค โกรท รีท ถือเป็นโครงการต่อเนื่องในการสร้างสะพานทางเชื่อม (Link Bridge) รอบศูนย์ฯ โดยเป็นการเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานี สถานี MT-01 (อิมแพ็ค เมืองทองธานี) ตรงวงเวียนหน้าอิมแพ็ค ไปยังอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ระยะทางรวม 230 เมตร พร้อมพื้นที่ล็อบบี้เชื่อมอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1 และจะติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่ภายนอก สามารถมองเห็นได้จากรถไฟฟ้า และทางด่วน อีกทั้งติดตั้งจอทันสมัยภายในล็อบบี้ด้วย

อาคารนี้ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ทันสมัยเป็นอาคารแห่งอนาคต พร้อมนวัตกรรมที่ก้าวล้ำโดดเด่นเรื่องของความยั่งยืน ทั้งการออกแบบด้านสิ่งแวดล้อม และทางพลังงาน โดยจะเริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี 2567 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 14 เดือน แล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2568 รอเปิดบริการรองรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเมืองทองธานีแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างงานก่อสร้างโครงการทั้งหมด ทีมวิศวกรของอิมแพ็คจะเข้มงวดทำหน้าที่ตรวจสอบสัญญาจ้าง ประสานงานบริษัทก่อสร้างเพื่อดูแลผลกระทบ เช่น การจราจร ทัศนียภาพ ความสะดวก และความปลอดภัยในพื้นที่จนกว่าจะเสร็จสิ้นส่งมอบโครงการทั้งหมดราวเดือนกรกฎาคม 2568

เปิดฉาก!! ‘Motor Expo 2023’ ระดมค่ายรถ 63 แบรนด์ดัง พ่วงจัดแสดง ‘เรือ-อากาศยาน’ ห้ามพลาด 30 พ.ย.-11 ธ.ค.นี้

(29 พ.ย.66) กระหึ่มแล้ว!! งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 โดยปีนี้จัดงาน ภายใต้แนวคิด ‘ยานยนต์ : ความหมายที่มากกว่า-Mobility : Imagination and Beyond’ มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมงานทั้งหมด 40 แบรนด์ จาก 11 ประเทศ รถจักรยานยนต์ 23 แบรนด์ จาก 7 ประเทศ รวมถึงมีธุรกิจ เรือ และเพิ่มการจัดแสดงอากาศยาน ทำให้งานมีความสมบูรณ์แบบจากการแสดงยานยนต์ครบวงจรทั้งทางบก เรือ และอากาศเป็นครั้งแรก

รถยนต์ 40 แบรนด์ ได้แก่ AION, AUDI, BENTLEY, BMW, BYD, CHANGAN, FORD, GWM, HONDA, HYUNDAI,ISUZU, JEEP, KIA, LEXUS, LOTUS,MASERATI, MAZDA, MERCEDES-BENZ, MG, MINI, MITSUBISHI, MOKE, NETA, NEX, NISSAN, PEUGEOT, POCCO, PORSCHE, SMOGO, SUBARU, SUZUKI, TATA, TESLA, TOYOTA,VOLVO, WULING รวมถึงชุดแต่ง และรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ ได้แก่ BMW MPERFORMANCE, CARLSSON, M’Z SPEED และ SWIFT

รถจักรยานยนต์ 23 แบรนด์ ได้แก่ ALPHA VOLANTIS, BMW, CINECO, CYCLONE, EM EV BIKE THAILAND, FELO, HANWAY, HARLEY-DAVIDSON, HONDA, I-MOTOR, KAWASAKI, LAMBRETTA, LYVA, RAPID, ROYAL ALLOY, ROYAL ENFIELD, SCOMADI,SMOGO, SOLAR, SUZUKI, TRIUMPH, YAMAHA และ ZEEHO

นอกเหนือจากนี้ ยังมีรถมือสอง 4 แบรนด์ ได้แก่ BMW PREMIUM SELECTION, JUST CAR,MERCEDES-BENZ CERTIFIED, PRE-OWNED VEHICLES และ VOLVO SELEKT รวมทั้งพื้นที่ JOIN BOAT PLATFORM โดยงาน MOTOR EXPO 2023 ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเรือจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเรือ และการท่องเที่ยวทางน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยจัดแสดงเรือมากกว่า 10 ลำ

นอกจากนี้ ยังจัดแสดงโซนอากาศยานเป็นครั้งแรก โดยร่วมกับ สถาบันการเรียนการสอน เทคโนโลยี นวัตกรรม บริการภาคพื้น และเช่าเหมาลำรวม 14 องค์กร ได้แก่ โรงเรียนการบินไทยอินเตอร์ไฟลอิ้ง, สมาคม Blue Bird, สมาคมกีฬาทางอากาศ,สถาบันการบินพลเรือน, EASY 2018, PULSE SCIENCE, TOP Engineering, MU Space and Advanced Technology, YAMAHA, SIT, AAS, สยาม ซีเพลน, First Global Jet และ SAVIATION

สำหรับกิจกรรมคืนกำไรให้ผู้ชมทั้ง ซื้อรถ...ชิงรถ/ซื้อบัตร...ชิงรถ/ซื้อสินค้า...ชิงรถ/ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิงบิ๊กไบค์/ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล มีรายละเอียดดังนี้

‘ซื้อรถ...ชิงรถ’ เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงานมีสิทธิ์ชิงรถยนต์ NEW MG HS PHEV Dมูลค่า 1,299,000 บาท

‘ซื้อบัตร...ชิงรถ’ ผู้ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า NETA V มูลค่า760,000 บาท

‘ซื้อสินค้า...ชิงรถ’ เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านค้าที่ร่วมรายการตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป (ยกเว้นการจอง/ซื้อรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และรถใช้แล้ว) มีสิทธิ์ชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ MITSUBISHI ATTRAGE 1.2 ACTIVE CVT A/T ราคา 529,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

‘ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิงบิ๊กไบค์’ เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงาน มีสิทธิ์ชิงรถจักรยานยนต์HONDA รุ่น XL750 TRANSALP 2023 มูลค่า 394,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

‘ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล’ ผู้ชิงโชคต้องลงทะเบียนใน MOTOR EXPO APPLICATION โดยกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566-31 ธันวาคม 2566 มีสิทธิ์ชิงรถจักรยานยนต์ ALPHA VOLANTIS รุ่น HORIZON300 มูลค่า 129,900 บาท จำนวน 1 รางวัล

พิเศษสำหรับผู้ชมงานมีบริการ ‘MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR’ เป็นแพ็กเกจชมงานแบบวีไอพี เพียง 700 บาท รับสิทธิพิเศษ ที่จอดรถ VIP ณ ลานจอดรถ P1 (1 คัน/1 สิทธิ์) ฟรีค่าจอด 3 ชม. พื้นที่รับรองพิเศษ EXCLUSIVE VISITOR LOUNGE บัตรเข้าชมงาน ULTIMATE VIP 2 ใบ บริการนำชมรถโดยพนักงานขายของแบรนด์ที่ลูกค้าสนใจ และซื้อสินค้าที่ระลึก MOTOR EXPO ลด 10%

ทั้งนี้ งาน ‘มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40’ จัดระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2566 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม motorexpo.co.th,FB : MotorExpo, IG : Motorexpoth, YouTube : IMCOnlineTH, Line : Motorexpo และ Twitter : MotorExpoTH

'มิตซูบิชิ' ยกทัพ ยานยนต์รุ่นใหม่ บุกมอเตอร์โชว์ จัดใหญ่ทั้งบูธ ขนทัพ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์-ปาเจโร’ ดึงดูดสายลุยทุกเส้นทาง

เมื่อไม่นานมานี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขนทัพยานยนต์รุ่นใหม่คุณภาพสูง ภายใต้แนวคิด ที่มุ่งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำโดย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ร่วมด้วย มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นพิเศษ ดอกเบี้ย 0% และข้อเสนออื่น ๆ อีกมากมายที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 พร้อมตอกย้ำ ดีเอ็นเอผู้นำด้านมอเตอร์สปอร์ตและจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันแรลลี่ ด้วยการจัดแสดงรถแข่ง ออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ พร้อมลงสู้ศึกเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ หรือ ‘AXCR 2024’

ไฮไลท์ภายในงานปีนี้ ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี รถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด รุ่นแรกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ใหม่ในแบบ Mitsubishi e:MOTION เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง จากการผสาน 3 สุดยอดเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้นเร้าใจ ให้ความคล่องตัว ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ ได้ตามต้องการ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน และ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบการขับขี่ที่ปลอดภัยและมั่นใจ ควบคุมรถได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะขณะเข้าโค้ง 

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการนำเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดที่อยู่ภายในรถยนต์เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี และ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี มาจัดแสดงให้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย การจัดแสดงนี้ จะเผยให้เห็นความประณีตในการออกแบบเครื่องยนต์ มอเตอร์ ชุดแบตเตอรี่ และชิ้นส่วนขับเคลื่อนที่มอบสมรรถนะขับขี่และการควบคุมอันเหนือชั้น ในแบบ Mitsubishi e:MOTION

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้ ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ รุ่นปี 2024 มาพร้อมขุมกำลังใหม่ 'ไฮเปอร์พาวเวอร์' (Hyper Power) เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ ทรงพลังและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5) สร้างพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 - 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ใหม่ ประสานการทำงานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดง รถออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ ที่ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท จะใช้ลงแข่งในการแข่งขัน เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ หรือ AXCR 2024 เพื่อท้าทายความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยสถิติแชมป์อันดับ 1 การแข่งขัน AXCR 2022 และรางวัลชนะเลิศประเภททีม ในปี 2023 โดย รถแข่ง ออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ สร้างขึ้นจากรถกระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ผลิตในไทย รุ่นเดียวกับที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ผู้สนใจสามารถชมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทุกรุ่นได้ที่บูธ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย A09 ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี 

‘อีซูซุ’ จัดเต็ม ‘รถแต่ง-รถแข่ง-รถโมดิฟาย’ ในงาน ‘Auto Salon’ เอาใจสายมอเตอร์สปอร์ตในคอนเซ็ปต์ ‘Racing Spirit’ ที่เมืองทองธานี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่บูธ ‘อีซูซุ’ ภายในงาน ‘Bangkok Auto Salon 2024’ กลุ่มตรีเพชร โดยคุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า Bangkok Auto Salon 2024 เป็นมหกรรมแสดงและจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในปีนี้อีซูซุได้นำรถมาจัดแสดงมากมาย 

นำทีมโดย รถอเนกประสงค์ NEW! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ ที่เพิ่งออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา กับรุ่น RS ที่มาพร้อมชุดแต่ง RS Design รอบคัน ผ่านเส้นสายที่มีความ Dynamic สปอร์ต หรูหรา มาโชว์ ในงาน พร้อมด้วยรถแต่งพิเศษจากโรงงานและโมดิฟายช็อปชั้นนำ เอาใจสายเรซซิ่งไปอีก ด้วยรถแข่งแชมป์ 2 ปีซ้อน รุ่น Super Truck ในรายการแข่งขัน Thailand Super Series และ PT Maxnitron Racing Series มาจัดแสดงในงานเพื่อต่อยอดสำหรับประชาคมอีซูซุที่ชื่นชอบการแต่งรถและสร้างสรรค์การทำงานแบบเป็นทีมในกิจกรรมรูปแบบมอเตอร์สปอร์ต

ทั้งนี้อีซูซุได้นำทัพยนตรกรรมแต่งพิเศษและแบบมาตรฐาน มาร่วมจัดแสดงในงาน Bangkok Auto Salon 2024 รวมทั้งสิ้น 9 คัน

รถแต่งพิเศษ 6 คัน ได้แก่

• รถแข่งจากสนามเซอร์กิต รถแข่งคันแรกผลงานแชมป์ประเทศไทย 2 ปีซ้อน ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 รายการ Thailand Super Series รุ่น Super Pick-up ทีม Nexzter MK Sport HYB BRC Flex Speedoil Repsol Motul โดย อู๊ด & อ๋อง ระยอง โดยมี NEW! ISUZU D-MAX SPARK ขับโดยเบสท์เทอร์โบยำ แท็กทีมมาพร้อมกับ NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB จากหนุ่ม เม้งการยาง ชลบุรี รถแข่งทั้ง 2 คันโมดิฟายจัดเต็มแพ็คคู่ แต่งสเต็ปเดียวกัน เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ปรับให้มีกำลังสูงสุดถึง 524 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตัน-เมตร จุดประกายความแรงด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop หัวฉีดแต่งจากโอ๊ต-อู่ช่างขวัญ เทอร์โบ Flex ชุดลูกสูบ ก้านสูบ ข้อเหวี่ยง MRX คลัชต์ BRC เพิ่มความมั่นใจด้วยชุดช่วงล่าง Penske setup บุญยางชลบุรี ล้อMK SPORT หนุ่มเม้ง การยางชลบุรี พร้อมยาง Hankook 275/40 R18 ระบบเบรก Nexzter ส่วนบอดี้จัดสเต็ปแต่งเต็มรอบคันด้วยชุดกันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า แก้มหน้าซ้าย-ขวา ประตูซ้าย-ขวา สเกิร์ตรอบคัน ฝาปิดท้ายกระบะ ปีกหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์เป็นงานคาร์บอนคอมโพสิตที่ออกแบบและสร้างทั้งคันโดย ปืน AKANA CARBON เบื้องหลังการทำรถแข่งทั้ง 2 คันโดย อู๊ด & อ๋องระยอง และควบคุมการสร้างรถแข่งโดย โน๊ต & นัท ออโต้คาร์ ระยอง

• ใหม่! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ รุ่น ACTIVE เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน /เมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed พร้อมโหมด Rev Tronic เสริมลุคสไตล์สปอร์ตด้วยล้ออัลลอย MK Sport M-1 ขนาด 9.5x20 นิ้ว คู่กับยางสปอร์ต Toyo Tires รุ่น ST-3 ขนาด 265/50 R20 เพิ่มความหนึบด้วยชุดโช้คอัพ และสปริงโหลด Profender รุ่น Tune Series พร้อมชุดปีกนกบน Profender รวมมูลค่าชุดแต่ง 191,899 บาท

• NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกรด S สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) เพิ่มพลังให้ขับสนุกขึ้นด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า Alpha Tech ทำให้เครื่องยนต์เดิมมีแรงม้าสูงสุดที่ 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 530นิวตัน-เมตร ตกแต่งพิเศษด้วยฝากระโปรงหน้าคาร์บอนคอมโพสิตจาก Monza Factory เสริมความเท่ด้วยล้ออัลลอย MK Sport M-10 ขนาด 9.0x18 นิ้ว คู่กับยางสปอร์ต Nitto Tires รุ่น NT-420SD ขนาด 255/50 R18  จัดทรงด้วยชุดโช้คอัพ สปริงโหลดจาก Profender รุ่น Queen Series รวมมูลค่าชุดแต่ง 110,590 บาท

• NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สีส้มนามิบูไมก้า (Namibu Orange Mica) จัดเต็มสไตล์แคมปิ้งด้วยชุดแต่ง TJM รอบคัน เท่ลงตัวด้วยชุดแต่งจาก TJM ยกคัน ดุดันด้วยล้ออัลลอย TJM รุ่น KONG ขับสนุกทุกสภาพถนนด้วยยาง BRIDGESTONE Dueler AT002 ขนาด 265/60 R18 เพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้า AEROKLAS E-ROLLER LID รวมมูลค่าชุดแต่ง 384,820 บาท

• NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกรด M สีเทาไอลาย์ โอเพค (Islay Gray Opaque) มาพร้อมชุดแต่ง IRONMAN 4×4 ตอบโจทย์นักเดินทางสายลุย ด้วยชุดแต่ง ดังนี้  กันชนหน้าแบบสามเขาพร้อมไฟสปอร์ตไลท์ LED รอกไฟฟ้าขนาด 9,500 ปอนด์ ไซเรียลการ์ดพร้อมบันไดข้าง กันชนหลังแบบเต็มรองรับเซ็นเซอร์และโซน่าด้านหลัง  ชุดขาจับพร้อมแร็คหลังคาอะลูมิเนียม Atlas  ชุดขาจับพร้อมไฟสปอร์ตไลท์รอบคัน  หลังคาอะลูมิเนียม Alu Cab คุณภาพสูง  ขาจับพร้อมแม่แรงไฮลิฟท์แจ็ค เต๊นท์หลังคาอะลูมิเนียม Orion  ยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 285/60 R18 และล้อ Lenso รุ่น MX Cezar ขนาด 18 นิ้ว โดยรถคันดังกล่าวโชว์ ณ โซน Camping

พร้อมด้วยรถอีซูซุมาตรฐานทั้งหมด 3 คัน ได้แก่

• ISUZU X-SERIES รุ่น SPEED 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด สีขาวไซบีเรียน (Siberian White) ปิกอัพสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ชุดแต่ง The X Package กระจังหน้าโทนเข้มตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์ Dual Stripes คาดหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated สเกิร์ตข้างดีไซน์เฉพาะตัว ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี Gloss Black พร้อมดีไซน์หน้าปัดแสดงข้อมูลสไตล์เรซซิ่ง สะท้อนตัวตนผ่านโลโก้ X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส ดีไซน์สปอร์ตโทนแดง รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay คอนโซลดีไซน์แบบ Flaming Wing ให้ความเร้าใจ

• ISUZU X-SERIES รุ่น HI-LANDER 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สีดำบาวาเรียน (Bavarian Black Mica) ปิกอัพสปอร์ตยกสูง กระจังหน้าโทนเข้มตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์ Dual Stripes คาดหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated พร้อม Aerodynamic Sport Bar เหนือกระบะท้าย ล้ออัลลอย 18 นิ้ว สี Gloss Black ห้องโดยสารโทนดำ-เทา หน้าจอแสดงข้อมูล Integrated MID 7 นิ้ว โทนแดงให้อารมณ์สปอร์ตพรีเมียม พร้อมโลโก้ X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay พร้อม Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย

• NEW! MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน/เมตร สุดยอดรถอเนกประสงค์ ใหม่ภายใต้นิยาม ‘จุดสูงสุดใหม่...กับชีวิตที่เหนือกว่า’ ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกจดภายใน พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา (360° Surround View Camera) เพิ่มความมั่นใจเหนือกว่าด้วยมุมมองใต้ท้องรถ ขับสบาย มั่นใจด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยเหนือขั้น ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS Generation ล่าสุด! มาพร้อมกับระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKAS) ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า (TJA) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB) และระบบอื่นๆมากถึง 17 ระบบ

ผู้ที่สนใจสามารถมาชมไอเดียการแต่งรถ สัมผัส และทดลองขับรถสปอร์ตตัวจริงจากอีซูซุได้ในงาน ‘บางกอก ออโต ซาลอน 2024’ มหกรรมแสดงและจัดจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถ ระหว่างวันที่ 26 – 30 มิถุนายน นี้ ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

‘แอ๊ด คาราบาว’ พร้อม ‘ล้อมวงมันส์’ เนรมิตแคมป์ปิ้งคอนเสิร์ต ที่ธันเดอร์โดม จัดเต็มกว่า 40 เพลง ย้ำ!! ‘สนุก-เป็นกันเอง-มีแดนซ์สามช่า’ พบกันวันที่ 5 ต.ค.นี้

(15 ก.ค.67) ที่ล้อมวงมันส์ สตูดิโอ ‘แอ๊ด คาราบาว’ แถลงข่าว ‘แอ๊ด บาว อะคูสติก คอนเสิร์ต’ คอนเสิร์ตอะคูสติกเต็มรูปแบบ ในสไตล์สุดชิลล์ ให้ผู้ชมได้ใกล้ชิดติดขอบเวที ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง เหมือนได้ร่วมเดินทางไปแคมป์ปิ้ง ร่วมกับศิลปินระดับตำนานเพลงเพื่อชีวิต 

ซึ่งตั้งใจคัดสรรบทเพลง มาทำดนตรีใหม่ พิเศษสุดในครั้งนี้ ที่ ‘แอ๊ด คาราบาว’ รับหน้าที่เป็น Music Director ด้วยตนเอง เพื่อให้แฟนเพลงได้ประทับใจ

อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ตนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี พิเศษสุด!! สำหรับแฟนเพลงที่ซื้อบัตรล่วงหน้า จะได้รับเสื้อที่ระลึกทุกที่นั่ง จัดส่งฟรีถึงที่บ้าน 

โดยมีการเปิดจำหน่ายบัตรล่วงหน้า 25-31 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00-21.00 น. ทาง Line : @ล้อมวงมันส์ 

และเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ Counter Service Al Ticket ในร้าน 7-Eeven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ AllTicket ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

บัตรราคา 1500, 3000 และ 4000 บาท พิเศษเฉพาะ บัตร 4000 จะได้รับเสื้อที่ระลึกที่หน้างาน  

‘กฟผ.’ จัดนิทรรศการ ‘โลกไฟฟ้ายั่งยืน Into Sustainable World’ พร้อมชวน ‘เยาวชน’ พิชิตภารกิจสร้างโลกไฟฟ้ามั่นคง เพื่อโลกยั่งยืน

เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.67) นายสมศักย์ ปรางทอง ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมเป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการ ‘โลกไฟฟ้ายั่งยืน Into Sustainable World’ ที่ กฟผ. จัดขึ้นภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 16 – 25 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ อาคาร 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

นายสมศักย์ ปรางทอง ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม กฟผ. กล่าวว่า การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ กฟผ. ได้นำเสนอแนวคิดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และความเข้าใจในภารกิจหลักของ กฟผ. ที่มุ่งสร้างไฟฟ้ามั่นคง เพื่อโลกและอนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืน หรือ Mission To Sustainability ภายใต้กลยุทธ์ Triple S  ได้แก่ Sources Transformation : การปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตไฟฟ้า, Sink Co-creation : การเพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอนอย่างมีส่วนร่วม, Support Measures Mechanism : การสนับสนุนโครงการชดเชยและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ผ่านรูปแบบนิทรรศการผสมผสานที่สนุก น่าสนใจ เข้าใจง่าย รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนได้ร่วมมือกันอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าและสิ่งแวดล้อม

ภายในนิทรรศการ ‘โลกไฟฟ้ายั่งยืน Into Sustainable World’ ประกอบด้วย 4 โซน โดยเริ่มต้นการผจญภัย ด้วยการลงทะเบียนเพื่อรับพาสปอร์ตสะสมแต้มจากภารกิจในแต่ละโซนเพื่อแลกรับของรางวัลสุดพิเศษจาก กฟผ. และออกผจญภัยไปยังโซนต่างๆ ได้แก่

โซนแรก เรียนรู้ Sources Transformation การเปลี่ยนผ่านพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เป็นเชื้อเพลิงสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้า และเทคโนโลยีให้ทันสมัย การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Modernization) รองรับพลังงานหมุนเวียนซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ลดความผันผวน และสร้างความมั่นคงต่อระบบไฟฟ้าของประเทศ

โซนที่ 2 ทำความรู้จัก Sink Co-creation การเพิ่มแหล่งดูดซับกักเก็บคาร์บอนอย่างมีส่วนร่วม ผ่านการเรียนรู้ประโยชน์ของต้นไม้ และรู้จักเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture Utilization and Storage) ที่มีส่วนสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 

โซนที่ 3 สนุกกับ Support Measures Mechanism : การสนับสนุนโครงการชดเชยและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่าน 3 เรื่องราว 1) ทำความรู้จักห้องเรียนสีเขียว แหล่งเรียนรู้ด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  2) เรียนรู้ความสำคัญของฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 พร้อมตัวอย่างอุปกรณ์ที่ได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 3) ผจญภัยในโลกไฟฟ้ายั่งยืนยุคใหม่กับ EV STATION สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EleX by EGAT เรียนรู้การใช้แอปพลิเคชัน EleXA ที่พร้อมให้บริการและสร้างความมั่นใจในทุกการเดินทาง

โซนสุดท้าย  ตะลุยค้นหาศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ทั่วประเทศ เพื่อสื่อสารพันธกิจ กฟผ. และต่อยอดเรียนรู้การอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้า รวมทั้งปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชน

นอกจากนี้ ภายในบูทนิทรรศการของ กฟผ. ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ บนเวที อาทิ การแข่งขัน E- Sport พร้อมร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมายจากการสะสมแต้มตลอดการจัดงาน ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูทนิทรรศการของ กฟผ. ได้ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 16 – 25 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ อาคาร 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

‘อีซูซุ’ ยกขบวน!! ยนตรกรรม สุดล้ำ ขุมพลังดีเซล แห่งอนาคต 2.2 Ddi MAXFORCE โชว์ตัวครั้งแรก ในงาน Motor Expo 2024

(30 พ.ย. 67) อีซูซุจำลองบรรยากาศสนามแข่งรถ ยกขบวนยนตรกรรมสุดยอดสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก โดยนำ อีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ ใหม่!! ภายใต้ชื่อเครื่องยนต์  MAXFORCE ร่วมโชว์งานแรกใน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (The 41st Thailand International Motor Expo 2024) ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์  เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2567 

กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า อีซูซุได้เปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่!! ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก ซึ่งเป็นขุมพลังที่แรงขึ้น เร็วขึ้น ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม และมีค่า CO2 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือทำงานควบคู่กับพลังงานทางเลือกอื่น ๆ ในอนาคต พร้อม ใหม่! ISUZU 3.0 Ddi MAXFORCE ที่มี ใหม่!! ECM แบบ MULTI-CORE โดยมีให้เลือกทั้งในอีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายวันแรกในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 และได้นำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE และ ใหม่!! 3.0 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก ร่วมโชว์ครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024 โดยจำลองบรรยากาศของสนามแข่งรถ พร้อม ISUZU SAFETY CAR และกิจกรรม MAXFORCE 360° XPERIENCE ผ่าน VR มุมมอง 360 องศา เพื่อสัมผัสประสบการณ์ความแรงและเร็วเสมือนนั่งกับนักแข่งรถในสนามจริง นอกจากนี้ยังได้นำอีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 Ddi Blue Power ไลฟ์สไตล์ปิกอัพสายพันธุ์สปอร์ต และรถแต่งหลากหลายสไตล์มาร่วมโชว์ รวมทั้งสิ้น 15 คัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลของโลก และตอบโจทย์ครบครันด้านความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่าทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์

ใหม่! ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก ได้รับการพัฒนาใหม่ ให้เป็นเครื่องยนต์แห่งอนาคต ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงขึ้นแรงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที  ออกตัว เร่งแซงเร็วขึ้น กับแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้นถึง 56%  แต่ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิมสูงสุด 10% และมีค่า CO2  ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน  ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอีซูซุเป็นระยะทางเทียบเท่า 2.2 ล้านกิโลเมตร จนมั่นใจว่าเครื่องยนต์นี้มีความแรง ทนทาน และประหยัดน้ำมันเหมาะสมกับตลาดรถยนต์เมืองไทยมากที่สุด พร้อมที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน ถือเป็นเทคโนโลยีดีเซลที่จะกำหนดอนาคตแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง

‘มาสด้า’ เปิดตัว!! ปิกอัพทรงพลัง BOLD NEW MAZDA BT-50 เครื่องยนต์ใหม่ เกียร์ใหม่!! ไปดูได้ในงาน Motor Expo 2024

(30 พ.ย. 67) นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว Bold New Mazda BT-50 ในประเทศไทยครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญยิ่ง เนื่องจาก มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญต่อฐานการผลิตและส่งออกในประเทศไทย เลือกประเทศไทยเพื่อแนะนำและวางจำหน่ายที่แรกของโลก มาพร้อมความสดใหม่หลากหลายด้าน โดยเฉพาะการออกแบบที่มาสด้าบรรจงสรรสร้างอย่างพิถีพิถัน สวยสง่างามจาก โคโดะ ดีไซน์ ภายในเพิ่มความหรูหราพรีเมี่ยมอีกระดับ ภายนอกแข็งแกร่งดุดันในสไตล์ญี่ปุ่น มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ล่าสุด ขนาด 2.2 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้พละกำลังแรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น รวมถึงการใส่อุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น ใส่ระบบอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มาให้อย่างครบครัน โดยรวมเอาจุดเด่นสำคัญ ๆ ของรถมาสด้า มาผนวกเข้ากับจุดแข็งที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตร ทำให้กลายเป็นรถปิกอัพที่มีความสมดุลในทุก ๆ ด้านอย่างลงตัว ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหารถกระบะที่ให้ทั้งสมรรถนะสูงแรงและดีไซน์ที่โดดเด่นแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะ  สามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง หรือการเดินทางไปทำกิจกรรม Outdoor ที่ต้องการทั้งสมรรถนะและความอเนกประสงค์ของรถปิกอัพเพื่อตอบสนองการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

แม้มาสด้าจะมีรถยนต์หลากหลายรุ่นวางจำหน่ายในตลาด แต่รถปิกอัพเป็นหนึ่งในโมเดลสำคัญ ถือกำเนิดขึ้นจากเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่ปี 1961 คือ มาสด้า B1500 บี-ซีรีส์ ซึ่งรุ่นนี้เปรียบเสมือนจุดกำเนิดของยานพาหนะที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ช่วยให้ทุกช่วงเวลาบนท้องถนนเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญสูงสุดกับตลาดประเทศไทย และประเทศไทยคือฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์และรถปิกอัพที่ใหญ่สุดของมาสด้า ดังนั้น การเปิดตัว Bold New Mazda BT-50 แห่งแรกของโลก โดยเฉพาะคนไทยจะได้เป็นเจ้าของคนแรก การเปิดตัวปิกอัพ Bold New Mazda BT-50 ‘Dignity into Power’ จะเป็นการกลับมาอีกครั้งแบบ Revolutionary Change เพื่อสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้ตลาดรถปิกอัพเมืองไทย ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่น ด้วยสไตล์ที่แตกต่าง สง่างามทรงพลังทุกมุมมอง จากการออกแบบของ โคโดะ ดีไซน์ จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นจากการผนวกคุณสมบัติที่ดีที่สุดของรถปิกอัพ ด้วยจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า ผสานอย่างลงลงตัวกับจุดเด่นที่ดีที่สุดจากความร่วมมือกับพันธมิตร

‘Bold New Mazda BT-50’ มาพร้อมแนวคิด ‘Dignity into Power’ พลังแกร่ง สะท้อนตัวตน’ ดึงเอาความแข็งแกร่ง ความเป็นตัวตนที่แท้จริง ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณให้ออกมาโลดแล่นบนเส้นทางของการใช้ชีวิตที่ไร้ลิมิต เป็นการนำเสนอรถปิกอัพที่มีภาพลักษณ์ แกร่ง เข้ม ดุดัน เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มองหาปิกอัพที่มาพร้อมอรรถประโยชน์การใช้งานด้วยปิกอัพที่มีสมรรถนะสูง แต่ก็ยังต้องการปิกอัพที่มีดีไซน์สง่างามสไตล์ญี่ปุ่น โดยไม่ซ้ำแบบใคร เพื่อสะท้อนถึงบุคลิกอันโดดเด่นเป็นตัวของตนเอง ‘Bold New Mazda BT-50’ จะมาเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ โดยจัดเต็มมาด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย มาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่แบบรถปิกอัพเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 ที่มาพร้อมเฟืองท้ายแบบ Diff-lock รวมถึงระบบการขับขี่แบบออฟโร้ด (Off-Road Mode) ในขณะที่ยังคงมอบความนุ่มสบายให้กับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเสมือนรถยนต์นั่งตามแบบฉบับรถยนต์มาสด้า 

‘กรังด์ปรีซ์’ เดินหน้า!! ‘ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว’ มุ่งกระตุ้น!! จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

(22 ก.พ. 68) บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท อิมแพค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เดินหน้าสนับสนุนแนวคิด ‘ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว’ ผ่านกิจกรรม Sustainable Herbal Station Campaign 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2568 ภายในบริเวณพื้นที่รับรองของงาน “แถลงข่าวและประชุมผู้เข้าร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46”

แคมเปญนี้มุ่งเน้นการกระตุ้นจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานพก ขวดน้ำแบบพกพา มาใช้แทนขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เพียงแสดงขวดน้ำของท่าน ก็สามารถรับเครื่องดื่มสมุนไพรสดชื่น ฟรี! ทันทีที่จุดให้บริการภายในบริเวณงาน

การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ และอีเวนต์ ที่ต้องการร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน เพราะทุกการเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นที่ตัวเรา มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญรักษ์โลก Sustainable Herbal Station Campaign 2025ร่วมกันการสร้างโลกที่ดีขึ้น ด้วยการพกขวดน้ำ ลดขยะพลาสติก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนต่อไป

สำหรับงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่  24 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ที่จะถึงนี้  ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

‘กรังด์ปรีซ์ฯ’ ผนึกพันธมิตร 54 แบรนด์ดัง ปลุก!! อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ให้คึกคัก ไฮไลต์!! พื้นที่โซนใหม่ จัดแสดงอะไหล่รถ ‘อีวี-สันดาป’ ในงาน ‘บางกอกมอเตอร์โชว์’

(8 มี.ค. 68) บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์ดัง จัดงาน ‘บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ ครั้งที่ 46 ภายใต้ธีม ‘The Talk of Sensuous Automotive’ หรือ ‘สนทนาภาษายานยนต์’ ชูไฮไลต์พื้นที่โซนใหม่จัดแสดงอะไหล่รถอีวีและสันดาป หลังปิดดีลเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายจากประเทศจีน โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน พ.ศ.2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน ‘บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ ครั้งที่ 46 กล่าวว่า สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม ‘The Talk of Sensuous Automotive’ หรือ ‘สนทนาภาษายานยนต์’ สื่อถึงปรัชญาแนวทางการออกแบบในโลกยานยนต์ที่สื่อสารเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ความปรารถนา แรงบันดาลใจ สื่อสารเป็นภาษาของยานยนต์ เพื่อสะท้อนแนวคิด การสร้างสรรค์พัฒนา และประสบการณ์สุนทรียภาพทางอารมณ์อย่างมีคุณค่า

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานกล่าวว่างานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้มีผู้ประกอบการยานยนต์จากยุโรปและเอเชียตอบรับเข้าร่วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54 ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 ถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกงานอย่างเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย อาทิ ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO , RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยีระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย

ส่วนในไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ประกอบการยานยนต์แล้ว บริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยในปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบูธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสันดาปที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเห็นโอกาสและศักยภาพของงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับสากล

“จึงได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตรภายในฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2568 มั่นใจได้ว่า จะได้สินค้าที่ตรงตามคุณภาพ ราคาจากผู้ประกอบการโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรี่ รวมถึง สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สินค้ามูเตลู การแข่งขันชิงรางวัล พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ภายในฮอลล์อีกด้วย” นายจาตุรนต์กล่าว

และอีก 1 งานที่แต่งเติมสีสันให้ล้อกันไปกับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ คือ MU-NIVERSE “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมืองไทยในแบบที่เข้าถึงง่าย เชื่อมโยง ความเชื่อม ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ระหว่าง วันที่ 2-6 เมษายน 2568 ที่บริเวณฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พบปะกับอ.ลักษณ์ โหราธิบดี และแขกรับเชิญสายมูชื่อดังมากมาย พร้อมกิจกรรมดูดวง ปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล สินค้าเครื่องรางวัตถุมงคล กิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลของดีของสะสมสายมู พร้อมรับสติ๊กเกอร์เสริมดวงรุ่นพิเศษเฉพาะงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เท่านั้น

นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับกิจกรรมในปีนี้ นอกจากกิจกรรม E-Racing ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันรถยนต์เสมือนจริงผ่านเครื่องเล่น Simulator แล้ว ทางผู้จัดยังได้รับความร่วมมือจาก R.C.S. (Runbike Championship Series) ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมการแข่งขันจักรยานทรงตัวรายการ “Grandprix Runbike Championship With R.C.S.” ขึ้นภายในงาน โดยเป็นการจัด Pre-Event จำนวน 2 สนาม ซึ่งการจัดการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันวงการกีฬาสำหรับเยาวชนในประเทศไทย รวมถึงบูธแสดงสินค้าเกี่ยวกับเด็ก กีฬา และไลฟ์สไตล์ ตลอดจนโซนกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกด้วย”

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน และผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี digital transformation เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเข้าชมงาน”

“เราได้พัฒนาบัญชี LINE Official Account หรือ Line OA ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกใช้ในการลงทะเบียน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างบริษัทฯ กับผู้บริโภคในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Auto และ กลุ่ม Lifestyle ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ”

“นอกจากนี้ เรายังได้จัดทำโปรแกรม Fullloop ที่สามารถเก็บข้อมูลฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมได้ในรูปแบบที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เข้าชมสามารถกรอกแบบสอบถามสั้นๆ เพื่อประเมินการจัดงาน ช่วยให้ผู้จัดงานสามารถรวบรวมข้อมูลได้ทันทีและวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการเก็บฟีดแบ็กจากผู้เข้าชมในงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถปรับปรุงการจัดงานในหลายๆ ด้าน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าชมได้ดียิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง

สำหรับบัตรเข้าชมงานฯ มีจำหน่ายบริเวณด้านหน้างาน และ ทางออนไลน์ ผ่านไลน์แอปพลิเคชั่น ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์จากการร่วมลุ้นรางวัลรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว สามารถนำบัตรเข้าชมงานแบบซื้อที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว มาร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลต่างๆมากมายได้ที่ บูธกิจกรรมพิเศษ ภายในอาคารฟอรั่ม ฮอลล์4 และ สำหรับการจัดงานฯ ครั้งนี้ ผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมรถshuttle ไว้อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู สามารถลงที่สถานีศรีรัช แล้วต่อรถ shuttle ที่ผู้จัดงานฯได้เตรียมไว้ เพื่อเข้าสู่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เส้นทางศรีรัช - ACTIVE HALL 4 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ประการใด

งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เริ่มวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ อันดับ 1 ของเมืองไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top