Friday, 18 April 2025
เบนจามินเนทันยาฮู

‘เนทันยาฮู-ผู้นำฮามาส’ โดนคู่!! ‘ไอซีซี’ โร่ขอหมายจับ ข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม-อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

(21 พ.ค.67) คาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) กล่าวว่า เขาได้ขอหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายยูอาฟ กัลลันท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล และผู้นำฮามาสอีก 3 คน ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม

แถลงการณ์ของข่านถูกเผยแพร่หลังสงครามในฉนวนกาซายืดเยื้อมานานกว่า 7 เดือน โดยระบุว่า เขามีเหตุผลอันสมควรที่ทำให้เชื่อว่า ชายทั้ง 5 คนนี้ต้องรับผิดทางอาญาต่อข้อกล่าวหาว่าได้ก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ข่านกล่าวด้วยว่า เขาได้ยื่นขอหมายจับเนทันยาฮูและกัลลันท์ ที่ดูแลการรุกรานของอิสราเอลต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา หลังจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสได้โจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน

ขณะเดียวกันก็ยังได้ยื่นขอหมายจับยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส โมฮัมเหม็ด อัล-มาสรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เดอีฟ และอิสมาอิล ฮานีเยห์ หัวหน้าสำนักการเมืองของกลุ่มฮามาสด้วย

ข่านระบุว่า อิสราเอลก็เหมือนรัฐอื่น ๆ ที่มีสิทธิที่จะดำเนินการเพื่อปกป้องพลเมืองของตน แต่สิทธิดังกล่าวไม่ทำให้อิสราเอลหรือรัฐใด ๆ พ้นจากพันธกรณีในการปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

“อาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการโดยอิสราเอลนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีพลเรือนชาวปาเลสไตน์อย่างกว้างขวางและเป็นระบบตามนโยบายของรัฐ และจากการประเมินของเรา อาชญากรรมเหล่านี้ยังคงดำเนินอยู่ต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้” ข่านกล่าว

หลักฐานที่สำนักงานของเขารวบรวมมาได้แสดงให้เห็นว่า อิสราเอลได้กีดกันพลเรือนจากสิ่งของที่ขาดไม่ได้สำหรับการอยู่รอดของมนุษย์อย่างเป็นระบบ ซึ่งรวมถึงอาหาร ยารักษาโรค และพลังงาน ซึ่งเนทันยาฮูและกัลลันท์ต้องรับผิดชอบ เพราะอิสราเอลจงใจก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง และการสังหารซึ่งเป็นอาชญากรรมสงคราม

ขณะที่ผู้นำกลุ่มฮามาสเผชิญข้อกล่าวหาว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่กลุ่มฮามาสก่อขึ้น รวมถึงการทำลายล้างและฆาตกรรม การจับตัวประกัน การทรมาน การข่มขืน และการกระทำรุนแรงทางเพศอื่น ๆ

หลังจากนี้องค์คณะผู้พิพากษาก่อนพิจารณาคดีจะตัดสินว่า หลักฐานที่อัยการได้นำเสนอนั้นเพียงพอที่จะให้ไอซีซีออกหมายจับหรือไม่ อย่างไรก็ดี ไอซีซีไม่มีอำนาจให้การบังคับให้มีการดำเนินการตามหมายจับแต่อย่างใด

การสอบสวนในกรณีสงครามฉนวนกาซาโดยไอซีซีถูกต่อต้านจากทั้งสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ขณะที่ผู้นำของทั้งสองประเทศได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมสงคราม และยังมีการวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของข่านอีกด้วย

เนทันยาฮู กล่าวว่า การตัดสินใจของข่านเป็นการบิดเบือนความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับปฏิเสธการที่อัยการไอซีซีนำเอาอิสราเอลที่เป็นประชาธิปไตยไปเปรียบเทียบกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นฆาตกรสังหารหมู่

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เรียกการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายดังกล่าวว่าเป็นเรื่องรับไม่ได้ พร้อมกับย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ไบเดนกล่าวว่า การสนับสนุนของสหรัฐต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของอิสราเอลนั้นแข็งแกร่ง เรายืนหยัดร่วมกับอิสราเอลเพื่อกำจัดฮามาส เราต้องการให้ฮามาสพ่ายแพ้ และเรากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลเพื่อทำให้มันเกิดขึ้น

ขณะที่นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การดำเนินการนี้ถือเป็นอันตรายต่อการเจรจาข้อตกลงตัวประกันและการหยุดยิง

ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส กล่าวว่า การตัดสินใจของอัยการในการออกหมายจับผู้นำฮามาสทั้ง 3 คน ก็เท่ากับว่าเหยื่อมีสถานะเป็นผู้ประหัตประหาร พร้อมกับเรียกร้องให้มีการยกเลิกหมายจับผู้นำของตนด้วย

ด้านเบนนี เกนต์ซ สมาชิกคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล กล่าวว่า การเปรียบเทียบผู้นำประเทศประชาธิปไตยที่มุ่งมั่นจะปกป้องตนเองจากความหวาดกลัวอันน่ารังเกียจต่ผู้นำองค์การก่อการร้ายกระหายเลือด ถือเป็นการบิดเบือนความยุติธรรมอย่างลึกซึ้ง และเป็นการล้มละลายทางศีลธรรมอย่างโจ่งแจ้ง

‘เนทันยาฮู’ ประณามผู้ประท้วงให้หยุดยิงในกาซา ต่อสภาคองเกรส พร้อมวอนสหรัฐฯ หนุนสงคราม ลั่น!! ศัตรูของเรา คือศัตรูของคุณ

เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 67) เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประณามพวกผู้ประท้วงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงในกาซา และเรียกร้องจัดให้พันธมิตรโลกต่อต้านระบอบอิหร่าน ที่เขากล่าวหาว่าเป็นผู้ให้เงินทุนสนับสนุนบรรดาผู้ชุมนุมเหล่านั้น ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหน่วง หลังวอชิงตันแสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรม อันสืบเนื่องจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 9 เดือน ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านทั้งในอิสราเอลและสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ใช้โอกาสกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส ตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ และกล่าวหาเตหะรานให้เงินทุนและสนับสนุนการประท้วงต่อต้านอิสราเอลในสหรัฐฯ และเรียกบรรดานักเคลื่อนไหวเรียกร้องสันติภาพในกาซาว่าเป็น ‘พวกงี่เง่าที่ทำตัวเป็นประโยชน์กับอิหร่าน’

"อเมริกาและอิสราเอล ในวันนี้สามารถหล่อหลอมพันธมิตรด้านความมั่นคงในตะวันออกกลาง เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่มากขึ้นเรื่อย ๆ จากอิหร่าน" เขากล่าวกับสมาชิกสภาคองเกรส ในขณะที่อีกด้านหนึ่งบรรดาผู้ประท้วงได้ทำการเผาหุ่นของเขาบนถนนที่อยู่ด้านนอกอาคารรัฐสภา

"ทุกประเทศที่ล้วนมีสันติกับอิสราเอล และทุกประเทศเหล่านี้ที่จะสร้างสันติภาพร่วมกับอิสราเอล ควรได้รับเชิญเข้าร่วมพันธมิตรนี้" เขากล่าว

นอกจากนี้ เนทันยาฮู ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าอิหร่านคือ ‘อักษะก่อการร้าย’ ที่อยู่เบื้องหลังนิกายเข่นฆ่าเกือบทั้งหมดในตะวันออกกลาง พร้อมกับเรียกร้องสหรัฐฯ และอิสราเอลต้องยืนหยัดร่วมกันเพื่อต่อกรกับอิหร่านและเหล่ากลุ่มตัวแทนของเตหะราน

"ศัตรูของเราคือศัตรูของคุณ การต่อสู้ของเราคือการต่อสู้ของคุณ และชัยชนะของเราคือชัยชนะของคุณ" เนทันยาฮูกล่าว

อย่างไรก็ตาม การเชิญเนทันยาฮูในครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความเห็นต่างอย่างรุนแรงในหมู่ประชาชนชาวอเมริกาต่อการกระทำของอิสราเอลในกาซา ท่ามกลางจำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูง โดยการชุมนุมบริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภา มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะหลักหลายพันคน ก่อนหน้าที่นายกรัฐมนตรีจะปรากฏตัว

บรรดานักเคลื่อนไหวถูกตำรวจสกัดให้อยู่ห่างออกไปอย่างน้อย 1 ช่วงตึก ก่อนถูกพวกเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ จนท้ายที่สุดก็สลายตัวไป ส่วนภายในอาคารสภาผู้แทนราษฎร ซีกหนึ่งของอาคารรัฐสภาหลักมีผู้ประท้วง 6 คนถูกจับกุม ก่อน เนทันยาฮู เริ่มกล่าวปราศรัย

การเดินทางเยือนของผู้นำอิสราเอล มีขึ้นตามหลังเหตุมือปืนพยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี และประธานาธิบดี โจ ไบเดน ถอนตัวจากการเลือกตั้ง และหันไปรับรอง กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแทน

ไบเดน และแฮร์ริส ต่างมีกำหนดพบปะกับ เนทันยาฮู แยกกันในวันพฤหัสบดี (25 ก.ค.) แต่กระนั้นฝ่ายรีพับลิกันวิพากษ์วิจารณ์แฮร์ริส ที่ไม่เข้าร่วมรับฟังการกล่าวสุนทรพจน์ของเนทันยาฮูในวันพุธ (24 ก.ค.) แม้ว่า เจ.ดี.แดนซ์ คู่ชิงรองประธานาธิบดีของรีพับลิกันเอง ก็ไม่ได้เข้าร่วมเช่นกัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เนทันยาฮู จะพบกับ ทรัมป์ ในฟลอริดา ในวันศุกร์ (26 ก.ค.)

กระนั้น สำหรับการปราศรัยของเนทันยาฮูในวันพุธ (24 ก.ค.) ทำให้นายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของอิสราเอลรายนี้ กลายเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่ได้กล่าวทุนทรพจน์ต่อที่ประชุมร่วมของสภาคองเกรส 4 ครั้ง แซงหน้า วินสตัน เชอร์ชิลล์ ของอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาสูญเสียแรงหนุนหลังจากบรรดาสมาชิกสภาหัวเสรีหลายสิบคนและจากเดโมแครตประมาณ 68 คน ในนั้นบางส่วนเป็นแกนนำระดับสูง ที่บอกว่าพวกเขาจะไม่เข้าร่วม

เนทันยาฮู อ้างว่ามีเพียงแรงกดดันทางทหารเท่านั้นที่จะสามารถปลดปล่อยตัวประกันและเอาชนะฮามาส ซึ่งเปิดฉากจู่โจมอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,197 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

ทั้งนี้ เนทันยาฮู แสดงความเชื่อมั่นต่อความพยายามช่วยเหลือตัวประกันราว 114 คน ที่ฮามาสยังคงควบคุมตัวในกาซา ดินแดนที่อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทางทหารแก้แค้น สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วอย่างน้อย 39,145 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

สหรัฐฯ แสดงความกังวลใหญ่หลวงต่อการทิ้งบอมบ์ถล่มพื้นที่พลเมืองพักอาศัยอยู่หนาแน่นในกาซา แต่ขณะเดียวกันก็ปกป้องผลประโยชน์ของอิสราเอล พร้อมรับบทบาทสำคัญในความพยายามเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลไบเดน เปิดเผยในวันพุธ (24 ก.ค.) การเจรจาสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและปล่อยตัวประกัน อยู่ในขั้นสุดท้ายแล้ว

แต่ในสภาคองเกรส เนทันยาฮู เรียกร้องวอชิงตันให้เร่งรัดมอบเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่ประเทศของเขา เพื่อทวีความรวดเร็วในการยุติสงครามในกาซาและป้องกันไม่ให้เกิดสงครามลุกลามบานปลายในตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องของเขาโหมกระพือไฟย้อนศรจากบรรดาสมาชิกเดโมแครตผู้โกรธกริ้ว ที่แสดงความไม่พอใจต่อเนื้อหาสาระในคำกล่าวสุนทรพจน์ของเนทันยาฮู ซึ่งแทบจะไม่พูดถึงการรับประกันสันติภาพใด ๆ เลย

ด้าน แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงอิทธิพล เรียกคำกล่าวสุนทรพจน์ของเนทันยาฮู ว่าเป็น ‘การนำเสนอที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา จากแขกผู้ทรงเกียรติต่างชาติรายหนึ่งรายใดที่ได้รับเชิญให้มากล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส’

‘อิสราเอล’ ทิ้งระเบิดใส่!! ‘กาซา’ ดับอนาถ 73 ราย ‘เลบานอน’ โต้กลับยิงถล่ม!! ใส่บ้าน ‘เนทันยาฮู’

(20 ต.ค. 67) อิสราเอลได้ออกปฏิบัติการทิ้งระเบิดถล่มเมืองเบตลาฮิยา ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 73 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หลังจากอิสราเอลเพิ่งปลิดชีพ ยาห์ยา ซินวาร์’ ผู้นำของกลุ่มฮามาสได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

รายงานระบุว่าเมื่อวานนี้ ยังมีเครื่องบินอิสราเอลโปรยใบปลิวไปทั่วพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซา โดยเป็นรูปภาพของซินวาร์ที่เพิ่งถูกสังหารไปพร้อมกับข้อความว่า ‘ฮามาสจะไม่ได้ปกครองกาซาอีกต่อไป’

ทั้งนี้ สำนักข่าวของกลุ่มฮามาสแถลงว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าวอย่างน้อย 73 ราย แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะยังไม่ได้เผยแพร่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แต่กองทัพอิสราเอลแถลงว่ากำลังตรวจสอบเหตุการณ์ โดยเชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่รายงานนั้นสูงเกินจริง และไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่กองทัพมี รวมถึงชนิดของอาวุธที่ใช้และความแม่นยำในการโจมตี ซึ่งกองทัพอิสราเอลยืนยันว่าเป้าหมายคือฐานที่มั่นของฮามาส

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์เผยว่า การปิดระบบโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตเป็นวันที่สองส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่ชาวบ้านและบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่รายงานว่า กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มความเข้มงวดในการปิดล้อมค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ซึ่งเป็นค่ายที่ใหญ่ที่สุดจากทั้งหมด 8 แห่งในกาซา โดยส่งรถถังเข้าควบคุมเมืองใกล้เคียงอย่างเบตฮานุนและเบตลาฮิยา พร้อมทั้งออกคำสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่

ในวันเดียวกัน มีรายงานว่าอิสราเอลได้เข้าโจมตีพิ้นที่ทางตอนใต้ของกรุงเบรุต ในเลบานอน โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่คลังเก็บอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เพื่อตอบโต้กรณีที่ฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธเข้าถล่มตอนเหนือของอิสราเอลเมื่อวานนี้ และฝ่ายอิสราเอลอ้างว่ายังมีการยิงโดรนหมายถล่มบ้านพักตากอากาศของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูด้วย แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่บ้านดังกล่าวขณะโจมตีก็ตาม และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าตัวบ้านได้รับความเสียหายหรือไม่ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top