Saturday, 4 May 2024
เที่ยวปีใหม่

เฮ! ปีใหม่รัฐเปิดเข้าเที่ยวชมแหล่งเรียนรู้เกษตรฟรี 

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอที่ประชุมครม. พิจารณาของขวัญปีใหม่ 2565 ให้เกษตรกรและประชาชน โดยเปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรให้ประชาชนเข้าชมฟรี หรือลดค่าบริการในช่วงเทศกาล อาทิ การเปิดศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม

อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้อนรับนักท่องเที่ยว เปิดสถานที่ให้เกษตรกรเข้ามาจำหน่ายสินค้า เปิดให้เยี่ยมชมนิทรรศการวันดินโลก ชมสวนดอกไม้ และทุ่งทานตะวัน ลดค่าบริการเข้าชมฟาร์มโคนมไทย - เดนมาร์ค จังหวัดสระบุรี เปิดพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนเข้าชม และกิจกรรมฉายภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ พิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตร และเส้นทางสืบสาน รักษาต่อยอด Wisdom Farm เปิดแหล่งท่องเที่ยวสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ

พร้อมทั้งเปิดสถานที่ราชการ ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมชมช่วงเทศกาล และแจกพันธุ์ไม้ อาทิ จุดบริการ ศูนย์วิจัยข้าว 3 แห่ง (จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่และสกลนคร) โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ 1 แห่ง (จังหวัดชุมพร) และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด 39 แห่ง 

ชัยภูมิ - ชวนเที่ยวเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” พร้อมโต้ลมหนาวชมธรรมชาติที่มอหินขาว จ.ชัยภูมิ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ เผยว่า จังหวัดชัยภูมิได้ร่วมกันจัดงานเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” ปี2564 และเทศกาลท่องเที่ยว “มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ” ปี 2564-2565 จังหวัดชัยภูมิ ได้ประสบภัยธรรมชาติจากอุทกภัยครั้งใหญ่ และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนทางสภาพกายและจิตใจ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 จังหวัดชัยภูมิ จึงได้อนุมัติให้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ยังคงมีมาตรการเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ซึ่งในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 15.30 น. จะมีการจัดงานเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” ปี2564 ณ วัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่มีการละเล่นสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานของชาวบ้านตำบลกุดตุ้ม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2489  “ตีคลีไฟ”  เป็นการละเล่นโดยใช้เหง้าไม้ใผ่ และท่อนไม้งิ้วเป็นอุปกรณ์ละเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 6 ทีม ทีมละ 4-12 คน ใช้กฎกติกาคล้ายกับการเล่นกีฬาฮอกกี้ เล่นในช่วงหัวค่ำเพราะลูกคลีไฟเป็นไม้งิ้วทำเป็นลูกกลม ๆ มาเผาไฟและมีน้ำหนักเบา เมื่อนำมาตีจะทำให้มองเห็นลูกคลีไฟพุ่งเป็นดวงอย่างสวยงามไม่ต่างจากไฟประทัด หรือไฟพะเนียง จังหวัดชัยภูมิได้เล็งเห็นความดีงามของประเพณีที่ประชาชนได้ร่วมกันสืบทอดมายาวนาน และมีความมุ่งหวังจะสืบทอดประเพณีให้คงอยู่และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งประชาชนทั่วไปในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงขยาย ผลถึงชาวต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักงานเทศกาล "มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟที่ชัยภูมิ" หนึ่งเดียวในโลก จึงได้ส่งเสริมและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามมาตั้งแต่เดิมให้อยู่คู่เมืองชัยภูมิตลอดไป

และอีกเทศกาลเด่น ที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศรู้จักกันดี ก็คือ เทศกาลท่องเที่ยว “มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ” อำเภอเมืองชัยภูมิร่วมกับส่วนราชการ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหินโงม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนตำบลท่าหินโงม ได้จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวมอหินขาว

โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ ประจำปี 2564-2565 โดยกำหนดเปิดงานในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณลานหินห้าแท่ง มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยแหล่งท่องเที่ยวมอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มหินในบริเวณนี้เป็นหินทรายสีขาวเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก การผุพังและกัดเซาะของทางน้ำ ลม และแสงแดด มาเป็นเวลานานนับล้านปี จนปรากฎเป็นหินรูปทรงต่าง ๆ แปลกตา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากมาก แหล่งท่องเที่ยว มอหินขาวได้ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2565

นายอนุชา เจริญรักษ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องมีมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด จึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ในช่วงเวลาเช้า-ค่ำไม่เกินเวลา 19.00 น. เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือมีการตรวจคัดกรองแบบ ATK (Antigen Test) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้มีการกางเต้นท์พักแรมในบริเวณของมอหินขาว หากต้องการพักค้างแรมหรือกลางเต้นท์นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปพักได้ที่บริเวณผาหัวนาค ซึ่งเดินทางขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

 

สวนดุสิตโพล สำรวจท่องเที่ยวหลังโควิดส่วนใหญ่มองว่าดีขึ้น สิ้นปี – ปีใหม่มอง ‘เชียงใหม่’ น่าไปที่สุด เน้นพักผ่อนนอนรร. มองปัจจัยค่าใช้จ่ายเหมาะสมเที่ยวในประเทศ แนะรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ

วันนี้ (30 ต.ค.) หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลประกาศให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนสามารถเดินทาง ไปเที่ยวใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการเปิดประเทศและการกระตุ้นเรื่องท่องเที่ยวในช่วงปลายปีน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้บรรยากาศในประเทศกลับมาคึกคัก เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องคำตอบท่องเที่ยวไทยหลังโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 1,148 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 23-28 ตุลาคม 2565 สรุปผลได้ ดังนี้

1. หลังจากประกาศยกเลิกโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ประชาชนคิดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในช่วงสิ้นปีนี้จะเป็นอย่างไร

ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 79.88% เหมือนเดิม 17.94% แย่ลงกว่าปีที่ผ่านมา 2.18%

2. ในช่วงสิ้นปี-ปีใหม่นี้ ประชาชนคิดว่าจังหวัดใดน่าท่องเที่ยวมากที่สุด
อันดับ 1 เชียงใหม่ 38.85%
อันดับ 2 เชียงราย 19.30%
อันดับ 3 น่าน 15.79%
อันดับ 4 ภูเก็ต13.28%
อันดับ 5 ประจวบคีรีขันธ์ 12.78%

3. ประชาชนสนใจการท่องเที่ยวแบบใด
อันดับ 1 เน้นการพักผ่อน พักโรงแรมที่สวยงาม สะดวกสบาย 55.62%
อันดับ 2 ไปทะเล ชายหาด 51.41%
อันดับ 3 เที่ยววัด ทำบุญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 45.43%

4. ปัจจัยใดที่จะทำให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น
อันดับ 1 ค่าใช้จ่ายเหมาะสม คุ้มค่า 71.65%
อันดับ 2 ความสะดวกในการเดินทาง 68.50%
อันดับ 3 มีโปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร เป็นต้น 46.98%


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top