Sunday, 19 May 2024
เด็ก14

'พิยดา' ซัดทอดบ้านแฟนหนุ่มตัวการตุ๋นขายมือถือ ยันตัวเองไม่รู้เห็น แต่ 'ถูกหลอกใช้'

'พิยดา' สาววัย 19 เปิดปากซัดทอดครอบครัวแฟนหนุ่มเป็นตัวการใหญ่แก๊งหลอกขายโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ยืนยันตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถูกแอบอ้างชื่อนำไปใช้ตุ๋นเหยื่อและโยนความผิดให้เพียงผู้เดียว ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว 'น้องก้อง' ผู้เสียหาย ขณะที่ ตร.ทำเรื่องฝากขังที่ศาลคัดค้านประกันตัวเนื่องจากหวั่นเกรงจะหลบหนี

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงเที่ยงวันนี้ (29 ก.ย. 64) ที่สถานีตำรวจภูธรนาหวาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พนักงานสอบสวนควบคุมตัว นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเหตุให้เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เครียดจนเส้นสมองแตกเสียชีวิต ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อทำสำนวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน จากนั้นได้นำตัวนางสาวพิยดาออกจากสถานีตำรวจนาหวาย ไปควบคุมตัวต่อไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่พนักงานสอบสวนไปศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังนางสาวพิยดา โดยที่ทนายความของนางสาวพิยดาตามไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวด้วย

ทั้งนี้ นางสาวพิยดาเปิดเผยระหว่างที่เดินลงจากสถานีตำรวจไปขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาว่า รู้สึกเสียใจที่ตกเป็นเครื่องมือถูกหลอกใช้จากครอบครัวของแฟนหนุ่มในการก่อเหตุกระทำความผิดหลอกขายโทรศัพท์มือถือจนมีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นเลย แต่ถูกแอบอ้างนำชื่อไปใช้ในการก่อเหตุและโยนความผิดมาให้รับคนเดียว โดยในกรณีของ 'น้องก้อง' เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปีที่เสียชีวิตนั้น ตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เป็นคนหลอกขายโทรศัพท์ให้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นคดีและมีชื่อตนตกเป็นผู้ต้องหาแล้วก็รู้สึกเสียใจและขอโทษครอบครัวของผู้เสียหายด้วย

‘ตำรวจ’ คุมตัว ‘มือปืนอายุ 14’ ไล่ยิงคนในพารากอนแล้ว พบผู้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บกำลังตรวจสอบ

(3 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุระทึกกลางห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทำให้ประชาชนที่อยู่ภายในห้าง ต่างวิ่งแตกตื่นหนีตายกันออกมา เจ้าหน้าที่ของห้างได้รีบอพยพคนออกมาภายนอกห้างอย่างเร่งด่วน

ขณะที่คนร้ายแต่งกายมิดชิด สวมหมวกแก๊บเดินถือปืนอยู่ในห้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเข้าพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์

สำหรับผู้บาดเจ็บล่าสุด พบว่ามี 4 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้าง ถูกนำตัวส่ง รพ.หัวเฉียว ส่วนอีก 2 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้แล้ว เป็นเด็กชาย อายุ 14 ปี โดยคนร้ายยอมมอบตัวภายในโรงแรมชื่อดัง ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างนำตัวไปสอบปากคำ พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบหาตัวผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับผู้เสียชีวิตล่าสุดมีรายงานว่า ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และกำลังตรวจสอบหาผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมภายในห้างพารากอน

‘แม่เด็ก 14’ อึ้ง!! เจอซองผงขาว-ไฟแช็กในถุงเสื้อผ้าลูกชาย ลั่น!! เชื่อ 50/50 แต่ถ้าเป็นของลูกจริง จะพาไปตรวจหาสารเสพติด

(15 พ.ค. 67) ภายหลังจากเเม่ของเด็กชายอายุ 14 ปีที่สูบบุหรี่ในห้องน้ำโรงพยาบาล เเล้วถูกหมอชื่อดังตบหน้า เข้าให้ปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง เด็กชายวัย 14 ปี พร้อมมารดาเดินทางไปที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อขอรับทรัพย์สินคืน หลังขึ้นไปบนชั้น 8 ในระหว่างการตรวจรับสิ่งของเจ้าหน้าที่ได้หยิบเสื้อผ้า มือถือ สิ่งของ ออกมาจากถุงพลาสติกสีฟ้า 

จากนั้นแม่เด็กก็ได้ตรวจสอบ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ทักว่า ยังมีสิ่งของในถุงอีกแล้วเทออกมา ปรากฏว่า มีไฟแช็ก ซองถุงซิปล็อกสีขาวตกลงมา ลักษณะเป็นผงสีขาว หลอดตักยา และไฟเเช็กที่ปะปนอยู่กับเสื้อผ้า ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจ เเละพยายามจะไม่เชื่อว่าเป็นของเด็ก มีการถามว่ามาจากไหน เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทราบ แต่พบในเสื้อเด็ก

เมื่อถามว่า มีคลิปวีดีโอ ตอนที่เก็บเสื้อผ้าเด็กไว้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็ยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล จากนั้นทางโรงพยาบาลได้ประสานไปที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้มาตรวจสอบว่า วัตถุที่อยู่ในถุงซิปล็อกคืออะไร

เมื่อตำรวจมาถึงได้นำถุงทั้งหมดกลับไปให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ ระบุมีซองพลาสติกสีขาวจริง ต้องส่งให้พฐ.ตรวจพิสูจน์ต่อไป ส่วนจะเชิญแม่กับเด็กให้สอบปากคำอีกหรือไม่ ต้องรอพนักงานสอบสวนแจ้ง

ด้าน แม่เปิดเผยภายหลังว่า ยอมรับว่าตกใจที่เห็นถุงซิปล็อกที่มีผงสีขาวอยู่ในถุงเสื้อผ้าของลูก ซึ่งตอนแรกยังไม่เห็น แต่พอเทถุงแล้วพบว่าเจออยู่ในก้นถุง ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนี้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และยังไม่ได้คุยกับลูกชาย แต่ถ้าหลังจากนี้ตรวจสอบแล้วหากเป็นของลูกชายก็จะพาไปตรวจหาสารเสพติด

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาน้องเคยมีประวัติเสพสารเสพติดหรือไม่ แม่บอกว่าไม่รู้เลย และถ้าผลตรวจออกมาว่าลูกชายเสพสารเสพติดก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย

‘หมอเหรียญทอง’ ยัน!! ไม่ได้ยัดยาใส่ถุงเสื้อผ้าเด็ก 14 ปี จ่อดำเนินคดีผู้ที่แพร่ข่าว-ใส่ร้าย เหตุทำให้เสียชื่อเสียง

(16 พ.ค.67) จากกรณี นพ.พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ตบหน้าเด็กอายุ 14 ปี หลังฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และทนายรัชพล พาแม่และเด็กไปวัย 14 ปี เข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา หลังเรียกเด็กวัย 14 ปี ว่า ‘ไอกุ๊ย’ แล้วนั้น กระทั่งเมื่อวานนี้พบยาเสพติดบรรจุใส่ถุงใส อยู่ในถุงเสื้อผ้าของเด็กวัย 14 ปี จนกลายเป็นกระแสขึ้นมาบางส่วนว่าหมอยัดยาหรือไม่

ล่าสุดวันนี้ นพ.พล.ต.เหรียญทอง กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ประชาชนบางราย ตั้งข้อสงสัยว่าทางโรงพยาบาลยัดยาเสพติดใส่ถุงเสื้อผ้า ของเด็กวัย 14 ปี นั้น ยืนยันไม่ได้ยัดยา ซึ่งส่วนตัว รู้สึกโกรธกับเรื่องดังกล่าวเพราะถือเป็นเรื่องเท็จ เสมือนใส่ร้ายหมิ่นประมาท

ซึ่งจากนี้เตรียมดำเนินคดีกับบุคคลที่เผยแพร่ข่าวและใส่ร้าย เพราะทำให้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะและตนเองรวมถึงบุคลากรเสียหาย

ซึ่งต้นตอของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมีความผิดมาจากการเลี้ยงบุตรดูที่ไม่ถูกวิธี และทอดทิ้งไม่ใส่ใจลูกของแม่เด็ก จนส่งผลทำให้เด็กเยาวชนวัย 14 ปี มาสร้างความเดือดร้อนให้สังคม

อาทิ เรื่องครอบครองยาเสพติด และสูบบุหรี่ในสถานพยาบาล ซึ่งแม่เด็กต้องมีส่วนรับผิดชอบ และยืนยันว่าจากนี้จะเริ่มปฏิบัติการโต้ตอบแม่เด็กอย่างรุนแรง ซึ่งจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ยอมความ หรือเจรจาไกล่เกลี่ยแน่นอน

ส่วนประเด็นที่ ทนายรัชพล ศิริสาคร จะพาแม่และเด็กไปวัย 14 ปี เข้าแจ้งความฐานหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา หลังตัวเองเรียกเด็กวัย 14 ปี ว่าไอกุ๊ย นั้นนายแพทย์เหรียญทอง บอกว่า ไม่กังวลใจ และยินดีให้ดำเนินการตามกฎหมาย

โดยสาเหตุที่เรียกเพราะไม่รู้จักชื่อ อีกทั้งความหมายของคำว่า กุ๊ย คือ คนพาล คนไม่รู้กาลเทศะ ซึ่งก็ตรงกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้ ส่วนบุคคลที่แสดงความเห็นถึง คำว่า ไอกุ๊ย หรือขยะสังคม ไม่เหมาะสม ส่วนตัวไม่สนใจ

นายแพทย์เหรียญทอง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นที่มีบุคคลอยากให้ตนติดคุก ออกหมายจับ โดยไม่ออกหมายเรียก ส่วนตัวไม่รู้สึกกลัว หากตัวเองทำผิดจริง ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ด้านของ สส.พรรคก้าวไกล ที่มาช่วยแม่เด็กและเยาวชนวัย 14 ปี จะเข้าข่ายโจมตีตัวเองหรือไม่ นั้น ยอมรับ น่าสงสัย หลังพรรคการเมืองนี้ มีอุดมการณ์ต่างจากตัวเอง และส่วนตัวก็ไม่ได้ใส่ใจกับพรรคการเมืองดังกล่าว

ยืนยันไม่ได้กล่าวหา สส.พรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลัง สส.พรรคก้าวไกล อาจต้องการช่วยประชาชน พร้อมเตือนนักการเมืองกลุ่มนี้ว่า ต้องการช่วยสังคมหรือช่วย บุคคลที่เปรียบเสมือนขยะสังคม ให้มีมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายที่ผ่านมา กลุ่มเพื่อนนายแพทย์เหรียญทองจำนวนมาก ได้นำดอกไม้ มามอบให้ นายแพทย์เหรียญทอง เพื่อให้กำลังใจ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top