Friday, 5 July 2024
เดโมแครต

เปิดประวัติ ‘อเล็กซานเดอร์ โซรอส’ ทายาทผู้รับช่วงต่อจาก ‘จอร์จ โซรอส’ พ่อมดแห่งโลกการเงิน

จอร์จ โซรอส เจ้าของฉายาพ่อมดการเงินโลกวัย 92 ปี ได้ประกาศวางมืออย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ และได้เลือก อเล็กซานเดอร์ โซรอส ลูกชายคนที่ 3 ของเขาเข้ามารับช่วงต่อ มูลนิธิ Open Society Foundations  มูลค่ามากกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ กองทุนที่ถูกใช้สนับสนุนองค์กรไม่แสวงกำไร และ สถาบันการศึกษามากกว่า 100 ล้านแห่งทั่วโลกที่มีพันธกิจในการขับเคลื่อนสังคม และการเมืองตามอุดมคติของจอร์จ โซรอส ที่หลายครั้งกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในหลายประเทศเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ จอร์จ โซรอส ได้วางแผนถ่ายทอดกิจการมูลนิธิให้กับทายาทคนหนึ่งของเขา และได้โดนทรัพย์สินจากครอบครัวโซรอส เข้ากองทุนในมูลนิธิ Open Society Foundations ไป 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 2017 ที่ทำให้กลายเป็นกองทุนการกุศลที่มีมูลค่าสูงที่สุดกองหนึ่งของโลก และได้แต่งตั้ง อเล็กซานเดอร์ โซรอส ลูกชายนั่งในตำแหน่งประธานมูลนิธิแห่งนี้ ทำให้สังคมเริ่มเห็นภาพชัดแล้วว่า จอร์จ โซรอส ได้เลือกใครเป็นทายาทสืบทอดเจตนารมย์ต่อจากเขา 

จอร์จ โซรอส มีบุตรทั้งหมด 5 คน โดยลูก 3 คนแรกที่เกิดกับ แอนนาลีส วิทส์แชค ภรรยาคนแรกของเขา คือ โรเบิร์ต, แอนเดรีย และ โจนาธาน โซรอส แต่หลังจากที่เขาได้หย่าขาดกับนาง แอนนาลิส ในปี 1983 จอร์จ โซรอส ได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับ ซูซาน เว็บเบอร์ และมีลูกด้วยกันอีก 2 คนคือ อเล็กซานเดอร์ และ เกรกอรี เจมส์ โซรอส

และในบรรดาลูกๆ ทั้ง 5 คนของ จอร์จ โซรอส อเล็กซานเดอร์ เป็นลูกชายที่มีความหลงใหลทางการเมืองสูงมากที่สุดคนหนึ่ง อเล็กซานเดอร์เคยให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าเขามีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนทิศทางการเมืองแรงกว่าพ่อของเขาเสียอีก และยังบอกใบ้อีกด้วยว่าจะได้เห็นบทบาทด้านการเงินขององค์กรครอบครัวโซรอสในงานเลือกตั้งผู้นำสหรัฐในสมัยหน้า (2024) อย่างแน่นอน

อเล็กซานเดอร์ โซรอส เกิดที่นิวยอร์ค ในปี 1985 ปัจจุบันอายุ 37 ปี เขาจบปริญญาตรีด้านประวัติศาสตร์ ที่ New York University  และเรียนจบระดับปริญญาเอกที่ University of California, Berkeley แล้วก็ทำงานในองค์กรด้านสังคมมาโดยตลอด และในทุนสนับสนุนกิจกรรมในการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม สิทธิแรงงาน และ การเมืองสายเสรีนิยมแบบอเมริกัน 

เช่นเดียวกับจอร์จ โซรอส พ่อของเขา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้บริจาคเงินสนับสนุนพรรคเดโมแครตรายใหญ่ที่สุดของพรรค อเล็กซานเดอร์ โซรอส ก็ทุ่มเทให้กับกองทุนช่วยเหลือชุมชมชาวยิวในสหรัฐ อาทิ Jewsish Fund for Justice, Progressive Jewish Alliance และ Jewish Council for Education and Research ที่มักอยู่เบื้องหลังแคมเปญหาเสียงของพรรคเดโมแครต ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา 

ในปี 2012 อเล็กซานเดอร์ ได้ก่อตั้งมูลนิธิภายใต้ชื่อของตัวเอง Alexander Soros Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่มอบรางวัลให้แก่นักเคลื่อนไหวทางสังคม และสิ่งแวดล้อมในแต่ละปี ที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จนมาวันนี้ เขาได้รับช่วงต่อ Open Society Foundations หนึ่งในมูลนิธิที่มีกองทุนสนับสนุนมากที่สุดในโลก และ มีประเด็นขัดแย้งมากมายด้วยเช่นกัน 

ในปี 2018 Open Society ถูกบีบให้ย้ายสำนักงานออกจากกรุงบูดาเปสต์ ของฮังการี ไปยังกรุงเบอร์ลิน ในเยอรมันแทน หลังจากที่ข่าวความขัดแย้งกับ วิกเตอร์ ออร์บาน ผู้นำฮังการีฝ่ายขวา ซึ่งเตรียมจะออกร่างกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศ ที่มักถูกเรียกว่าเป็นร่างกฎหมาย "Stop Soros Bill" นอกจากนี้ Open Society ยังถูกแทรกแซงจนต้องปิดสำนักงานในปากีสถาน และ ตุรกี เมื่อมีข่าวว่าสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในประเทศ

จึงเป็นที่น่าสนใจว่า กิจกรรมของ Open Society Foundations ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่รุ่นลูก อเล็กซานเดอร์ โซรอส ที่ได้ชื่อว่ามีไฟในการผลักดันกระแสการเมืองยิ่งกว่ารุ่นพ่อ จะสร้างความเปลี่ยนแปลง จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่จอร์จ โซรอส มักถูกโจมตีมาตลอดชีวิตการทำงานของเขาหรือไม่

‘เดโมแครต’ เครียด!! ‘ไบเดน’ สภาพแย่ ‘ดีเบตรอบแรก’ ทั้ง ‘ไอ-เสียงแหบ-พูดซ้ำคำเดิม’ ส่ง ‘ทรัมป์’ ชนะใส

(28 มิ.ย. 67) บลูมเบิร์กของสหรัฐฯ รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตแสดงความผิดพลาดมากมายระหว่างการดีเบตรอบแรก ยิ่งเป็นแรงส่งให้เกิดความวิตกมากขึ้นถึงอายุที่สูงวัยของเขาและการที่เขาจะทำให้การหาเสียงประสบความสำเร็จและเอาชนะในการเลือกตั้งปลายปีได้อย่างไร

บนเวทีบลูมเบิร์กชี้ว่า ไบเดนนั้นทั้งไอ เสียงแหบ พูดซ้ำประโยคเดิม หยุดนิ่งไม่ไหวติง และเขายังพูดติด ๆ ขัด ๆ เมื่อกล่าวถึงตัวเลขเป็นต้นว่า จำนวนของงานที่สร้างใหม่ในสมัยของเขา การจำกัดเพดานจำนวนเงินสูงสุดที่ประชาชนอเมริกันต้องจ่ายสำหรับค่ายารักษาโรคและอินซูลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของไบเดนในการให้ได้รับเลือกกลับเข้ามา ซึ่งในสหรัฐฯ ดินแดนเสรีนิยมที่มีค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูง

การแสดงออกของไบเดนซึ่งเป็นที่น่าผิดหวังของไบเดนยิ่งทำให้ฝ่ายพรรครีพับลิกันลิงโลด และกระพือไฟโหมความอ่อนแรงและชราภาพของไบเดนให้ปรากฏ

ทรัมป์ฮุกหมัดใส่ไบเดนระหว่างเขาพลาดในประเด็นผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ

ทรัมป์กล่าวว่า “ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเขาได้พูดอะไรออกมาในสิ่งนี้ และผมไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่าถึงในสิ่งที่เขาได้เอ่ย”

บลูมเบิร์กรายงานว่า แต่ใช่ว่าทรัมป์จะทำผลงานดี เพราะเมื่อผู้จัด CNN ถามเขาเกี่ยวกับปัญหาโอปิออยด์ (opioid) ที่กำลังทำร้ายอเมริกันชน อดีตผู้นำสหรัฐฯ โบ้ยตอบเรื่องนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลถูกรัสเซียควบคุมตัวแทน และโกหกคำโตด้วยการกล่าวอ้างบรรดาผู้สนับสนุนกบฏบุกรัฐสภา 6 ม.ค. ปี 2021 นั้นได้รับเชิญให้เดินเข้าไปภายในรัฐสภาสหรัฐฯ

โพลด่วนของ CNN จัดทำโดย SSRS ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ชมการดีเบตส่วนใหญ่ลงความเห็นให้ทรัมป์ชนะเหนือไบเดน

โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ลงทะเบียนและได้ชมการดีเบตรอบแรกคืนวันพฤหัสบดี (27) 67% ต่อ 33% ชี้ว่า ทรัมป์แสดงความสามารถในการดีเบตได้ดีกว่า

ซึ่งก่อนการดีเบต พบว่ากลุ่มผู้ร่วมแบบสอบถามคนเดิมกล่าวว่า 55% ต่อ 45% ที่คาดว่าทรัมป์จะแสดงความสามารถในการดีเบตได้ดีกว่าไบเดน

และโพลด่วนของ CNN พบว่าผู้ชม 8 ใน 10 หรือราว 81% ต่างชี้ว่า การดีเบตไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ส่วนอีก 14% ชี้ว่าการดีเบตทำให้คนเหล่านี้กลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งแต่ไม่เปลี่ยนใจ ส่วนอีก 5% กล่าวว่าเปลี่ยนใจจากผู้สมัครที่ตั้งใจจะเลือกก่อนหน้า

เดอะการ์เดียนชี้ว่า อดีตผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของไบเดน เคท เบดิงฟิลด์ (Kate Bedingfield) แสดงความเห็นต่อผลงานของไบเดนว่า ‘มันเป็นการแสดงความสามารถดีเบตที่น่าผิดหวังของประธานาธิบดีโจ ไบเดน’

ขณะที่อดีตนักวางแผนทางยุทธศาสตร์ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา เดวิด แอ็กเซิลร็อด (David Axlerod) กล่าวว่า พวกเดโมแครตพากันวิตกเป็นอย่างมากและกำลังสงสัยว่าประธานาธิบดีไบเดนสมควรไปต่อในการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top