Tuesday, 22 April 2025
เชนธนา

‘เชน ธนา’ ประกาศปิดตำนานคุณพ่อลูกดก ขอจบที่ 5 คน หลังขึ้นเตียงทำหมัน

(11 ก.ค. 66) เป็นอีกหนึ่งนักร้อง นักแสดง ที่ผันตัวมาทำธุรกิจส่วนตัว จนประสบความสำเร็จอย่างมาก สำหรับ ‘เชน ธนา’ ที่ได้ภรรยา เจมส์ -กณิการ์ ภูศรี สาวนอกวงการ ดีกรีนางงามเวทีดัง คนขยันมาช่วยสร้างเนื้อสร้างตัว ทั้งยังฟูมฟักความรักจนได้สร้อยทองคล้องใจ 5 คน สเปซ สเตล่า สตาร์รี่ สโนว์ และสกายเลอร์

ล่าสุด คุณพ่อลูกดก ก็ได้ประกาศผ่านอินสตาแกรมว่า “ทำหมันแล้ว” โดยเจ้าตัวโพสต์ภาพคู่ภรรยา พร้อมระบุว่า “#ปิดตำนานคุณพ่อลูกดก จบที่ 5 คนพอ ประสบการณ์ผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตก็ขึ้นเตียงทำหมันเลย เกร็งสุดชีวิต ขอบคุณคลินิกเวชกรรมชุมชน สุขุมวิท 12 (คลินิกมีชัย) คุณหมอเก่งมากๆ ขอบคุณทีมพยาบาลด้วยครับ รู้สึกเขินอายเล็กน้อยแต่ผ่านไปด้วยดี ใครสนใจเข้าแก๊งค์พ่อบ้านทำหมันโทร 02-2295803 ได้เลย ระวังไปผิดที่น้า”

ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปชื่นชมนักธุรกิจหนุ่มจำนวนมาก โดยบอกว่า “มีผู้ชายไม่กี่คน ที่จะยอมทำ เเทนภรรยา”, “ชื่นชมค่ะ คุณพ่อน่ารัก”, “เอ้าาาา พอแล้วหรออออ”, “ว้าว ชื่นชม”, “ยังไม่ครบทีมฟุตบอลเลยน้าาเฮีย”

‘เชน ธนา’ น้ำตานอง ยันใช้หนี้มาตลอด พร้อมยันเป็นลูกหนี้ที่ดี ลั่น! ใช้หนี้ไปแล้วกว่า 100 ล้าน

(18 พ.ย. 67) เมื่อเวลา 15.20 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนา กับ นางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดฉ้อโกง กรณีถูกบริษัทอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งเอาผิดฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้าจำนวน 79 ล้านบาท โดยตำรวจไม่มีการควบคุมตัว เนื่องจากมาตามหมายเรียกและมีการนัดหมายอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ย.

นายธนาตรัยฉัตร เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 กรณีที่ก่อนหน้านี้มีบริษัทอาหารเสริมเเห่งหนึ่งแจ้งความดำเนินคดีกับตนและภรรยาในเรื่องการฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้าจำนวน 79 ล้านบาท เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากสินค้าทั้งหมดยังอยู่ และตนไม่ได้นำไปขาย เดิมทีคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมองว่าเป็นคดีแพ่งตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.65 ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องทางธุรกิจ หากศาลแพ่งมองว่าตนเป็นหนี้ตนยินดีที่จะจ่าย

แต่ต่อมาทางอัยการกลับมีความเห็นสั่งให้ฟ้องในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งเป็นคดีอาญา ทางพนักงานสอบสวนจึงเรียกให้ตนมาเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ยอมรับว่าตนก็ตกใจที่กลายเป็นคดีอาญา โดยหลังจากนี้ตนจะทำตามขั้นตอน และจะนำพยานมาให้การยืนยันสนับสนุนว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะฉ้อโกง

ซึ่งจุดเริ่มต้นเรื่องนี้ คือตนสั่งสินค้าจากบริษัทผู้เสียหาย ซึ่งสินค้ามีทั้งหมด 2 ล็อต ล็อตแรกขายดีเพียง 7 วันแรก หลังจากนั้นได้รับแจ้งจากทาง อย.ว่ามีปัญหาในเรื่องการขออนุญาตโฆษณา กล่องผลิตภัณฑ์ไม่สามารถนำไปโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ที่ซื้อไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์หรือ Billboard ทำให้ต้องเรียกกล่องสินค้าคืนทั้งประเทศ นอกจากนี้สินค้าไม่ได้ตามที่ตกลง ตอนแรกที่สั่งผลิตภัณฑ์ไปเนื้อเป็นตัวสีเหลือง แต่ของที่ได้รับกลับเป็นสีส้ม ซึ่งตนไม่ได้มองว่ามันไม่ได้มีคุณภาพ แต่ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน สินค้าทั้งหมดจึงไม่ได้ถูกนำไปขายและไม่ได้นำเงินมาหมุนแต่อย่างใด ทุกชิ้นยังคงอยู่ที่โกดังสำนักงาน มูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท

โดยในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวนายธนาตรัยฉัตรได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ส่วนหนึ่งที่การขออนุญาตโฆษณามีปัญหา เพราะมีบุคคลหนึ่งได้แนะนำกับตนว่าให้โฆษณาเกินจริงไปเลย แล้วเดี๋ยวจะจ่ายค่าปรับให้ แต่มันทำไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ อย.ได้มีการตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ตนได้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนเป็นหนี้มาตั้งแต่ปี’64 ก็ทำงานหาเงินใช้หนี้มาโดยตลอด ซึ่งบริษัทอมาโด้ ตนเองเอาทั้งชีวิตใส่ไปแล้ว หากอมาโด้ตาย ตนก็ตายไปด้วย และจะไม่อนุญาตให้ตนเองมีความสุข ถ้ายังใช้หนี้ไม่หมด ยอมรับว่าเครียด และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธุรกิจ เป็นคดีแพ่ง ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมากดดันกัน และตนเองเป็นลูกหนี้ที่ดี ก็ควรได้รับความยุติธรรม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เตรียมใจแล้วหรือไม่ว่าคดีนี้เป็นคดีอาญาฐานฉ้อโกง นายธนาตรัยฉัตรกล่าวว่า เชื่อว่าตนมีพยานหลักฐานแน่นพอ มีสัญญาซื้อขาย ส่วนที่เลื่อนหมายเรียกมาหลายครั้งเพราะตนเองได้รับหมายกะทันหัน รวมทั้งต้องไปขอคัดเอกสารจากทางบริษัท เพราะเป็นคดีนิติบุคคล

ส่วนกรณีที่ตนเองถูกแฉว่าเคยโดนดำเนินคดีฉ้อโกงและ พ.ร.บ.เช็ค ก็อยากชี้แจงว่า ในส่วนคดีฉ้อโกงศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแล้ว แต่ว่ายังอยู่ในระหว่างกระบวนการอุทธรณ์ของโจทก์ แต่สื่อนำมาเล่นโจมตีเพียงด้านเดียว ส่วน พ.ร.บ.เช็คยอมรับว่าถูกศาลสั่งจำคุกจริง ขณะนี้เป็นการประกันตัวระหว่างสู้คดี

“ทุกบริษัทมีหนี้หลายสิบล้าน เราใช้หนี้หมดแล้ว 100 กว่าล้าน เวลาไกล่เกลี้ยหนี้ เราจะออกเอกสารกำลังทรัพย์ให้คู่ค้า ในวันนี้อยากบอกว่ายังสู้ และอยากให้อุดหนุนสินค้า กำลังใจที่ยังสู้ เพราะมีหนี้ จากนี้จะมารับข้อมูลฟ้อง ในวันที่ 26 พ.ย. เวลา 10.00 น.” เชนกล่าว

เปิดเส้นทาง 'เชน ธนา' หลังถูกกล่าวหา 'อมาโด้' ฉ้อโกง

(19 พ.ย.67) 'เชน-ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์' หรือที่รู้จักในชื่อ เชน ธนา อดีตศิลปินบอยแบนด์ยุคมิลเลนเนียมจากวง Nice 2 Meet U ได้ผันตัวจากวงการบันเทิงมาสู่วงการธุรกิจเต็มตัว ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของ แบรนด์อมาโด้ ที่ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมและสกินแคร์ครบวงจร ภายใต้บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดชื่อของเชนถูกโยงเข้าสู่คดีความ เมื่อบริษัท ไทยยินตัน จำกัด ผู้รับผลิตอาหารเสริมได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง โดยอ้างว่า อมาโด้กรุ๊ปไม่ยอมจ่ายค่าสินค้ามูลค่ากว่า 79 ล้านบาท พร้อมระบุว่าสินค้าไม่มีคุณภาพตามที่สั่ง  

ฝ่ายไทยยินตันระบุว่าเคยส่งสินค้าตามสัญญาให้กับอมาโด้กรุ๊ป แต่กลับไม่ได้รับชำระเงิน โดยเชนอ้างว่าสินค้าไม่เป็นไปตามข้อตกลง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนมองว่าคดีดังกล่าวเป็นข้อพิพาททางแพ่ง ทำให้ไทยยินตันต้องนำหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลเอง  

เมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้เชนและภรรยามาพบ แต่ทั้งคู่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนถึง 3 ครั้ง โดยอ้างปัญหาสุขภาพและติดธุระสำคัญ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกหมายเรียกครั้งที่สอง นัดในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาซึ่งเชนธนา ได้เข้าให้การกับตำรวจในวันดังกล่าว

เชนเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี ด้วยการเปิดร้านขายสินค้ากิ๊ฟต์ช็อปในสยามสแควร์ ก่อนจะล้มลุกคลุกคลานในธุรกิจอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าที่ประตูน้ำ และการนำเข้าสินค้าออนไลน์  

กระทั่งปี 2557 เขาก่อตั้งบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด  ด้วยทุนจดทะเบียน 43 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสกินแคร์เพื่อสุขภาพและความงาม ผ่านช่องทางออนไลน์  

อมาโด้เคยประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 2564 ด้วยรายได้รวมกว่า 2,426 ล้านบาท แม้ว่าจะขาดทุนในปีนั้น แต่ในปี 2566 บริษัทกลับมามีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท

ชีวิตส่วนตัวของเชน ธนา สมรสกับ เจมส์ กาลย์กัลยา รองอันดับหนึ่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์เมื่อปี 2560 ปัจจุบันมีลูกชายและลูกสาวด้วยกัน 5 คน 

ผลประกอบการของแบรนด์อมาโด้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ อมาโด้ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่มียอดขายสูงสุดกว่า 2,426 ล้านบาท แม้ว่าจะประสบภาวะขาดทุนในปีดังกล่าว รายได้และกำไรสุทธิย้อนหลัง 5 ปี มีรายละเอียดดังนี้:  

- ปี 2562  
- รายได้: 694,132,838 บาท
- กำไรสุทธิ: 41,413,159 บาท  

- ปี 2563  
- รายได้: 2,199,599,901 บาท  
- กำไรสุทธิ: 81,369,124 บาท

- ปี 2564
- รายได้: 2,426,861,701 บาท 
- ขาดทุนสุทธิ: -627,036,969 บาท  

- ปี 2565  
- รายได้: 0 บาท 
- กำไรสุทธิ: 0 บาท  

- ปี 2566  
- รายได้: 1,230,153,981 บาท
- กำไรสุทธิ: 36,919,268 บาท

‘เชน ธนา’ ประกาศขาย!! ตึกสำนักงาน ที่ลาดพร้าว ราคาแบบขาดทุน 58 ล้าน เผย!! ถึงเวลาต้องจากลา หลังคาน้อยที่พาโตจนเติบใหญ่ จะคิดถึงสุดหัวใจ

(21 ธ.ค. 67) ขอทำงานขายของเพื่อกู้วิกฤตให้กับบริษัท สำหรับผู้บริหารหนุ่ม ‘เชน ธนา’ หรือ ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หลังจากบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแจ้งความ ฐานฉ้อโกง ไม่จ่ายค่าผลิตสินค้าเสริมอาหาร มูลค่า 79 ล้านบาท

ทำให้ที่ผ่านมาจะเห็น ‘เชน ธนา’ ไลฟ์ขายของและขายสินค้าหลาย ๆ อย่าง เพื่อนำเงินมาชดใช้ในกรณีที่เกิดขึ้น

ล่าสุด เชน ธนา โพสต์ประกาศขายตึกสำนักงาน โครงการ WISE ลาดพร้าว 71 เป็นโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น 3 คูหา ในราคา 58 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท โดยระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า …

“ขายสำนักงาน 3 ตึก 58 ล้าน ลดค่าใช้จ่ายบริษัทครับ”

นอกจากนี้ เชน ธนา ยังแชร์โพสต์ดังกล่าวลงในสตอรี่ พร้อมข้อความด้วยว่า … 

“ถึงเวลาบอกกล่าวและจากลา หลังคาน้อยที่พาโตจนเติบใหญ่ จะคิดถึงในอดีตสุดหัวใจ สู้ต่อไป สู้สุดใจ สู้ทุกวัน”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top