Friday, 18 April 2025
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

‘รัฐบาล’ เดินหน้าด้านสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญ สร้างสุขภาพที่ดี เพื่อคนไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบทอดปณิธาน ในการทำความดี

(6 ก.ค.67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญต่อเรื่องสิ่งแวดล้อมที่จะสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยผ่านโครงการ 'คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข' เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อสืบทอดพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ช่วยกันทำให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในบ้านเมือง นำไปสู่ความสุขของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงของประเทศชาติ ดังที่ปรากฏในพระปฐมบรมราชโองการ ‘เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป’

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า ปัญหาความเสื่อมโทรมของแม่น้ำลำคลองและแหล่งน้ำต่าง ๆ รัฐบาลจึงต้องการพัฒนาแม่น้ำลำคลอง และแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่เกิดความเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ให้กลับมาสวยงาม และประโยชน์ที่จะได้รับจากแหล่งน้ำไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน เส้นทางคมนาคมสัญจร หรือประสิทธิภาพการระบายน้ำเพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วม พร้อมทั้งสร้างสังคมที่น่าอยู่ เข้มแข็ง และปลอดภัย อันเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ดังเช่น โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการดำเนินการพัฒนาคูคลอง และชุมชนโดยรอบตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“ปี 2567 นับเป็นปีมหามงคลสมัยพิเศษ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ รัฐบาลจึงได้น้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และ พระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด รัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ กทม.รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จัดทำโครงการ ดังกล่าว เพื่อเป็นกลไกในการบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วน ในการสืบสาน รักษา และพลิกฟื้นความสมบูรณ์ของคูคลองตลอดลำน้ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน”น.ส.เกณิกา กล่าวทิ้งท้าย

‘รัฐบาล’ เชิญชวนประชาชน รวมน้ำใจบริจาคโลหิต เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ครบ 6 รอบ 72 พรรษา

(7 ก.ค.67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บูรณาการร่วมกับสภากาชาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จัดทำโครงการ ‘รวมน้ำใจ บริจาคโลหิต 10,000,000 ซีซี ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์’ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเพื่อให้สภากาชาดไทยมีโลหิตสำรองสำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ เป็นการต่อชีวิตให้ผู้อื่น และผู้บริจาคโลหิตมีจิตสำนึกของการทำความดีด้วยหัวใจ รู้จักการเป็นผู้ให้ เป็นการสร้างจิตสำนึกสาธารณะในการช่วยเหลือสังคม

น.ส.เกณิกา ยังกล่าวต่ออีกด้วยว่า เนื่องด้วยโอกาสเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระราชนโบายเกี่ยวกับการแก้ไขและพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงการดำเนินโครงการที่เป็นการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาพรวม ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งการบริจาคโลหิตเป็นการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำรองของสภากาชาดไทย

ทั้งนี้ รัฐบาลของเชิญชวนประชาชนที่มีจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิตของท่าน เพื่อต่อชีวิตให้ผู้อื่นได้ ในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาลในส่วนของจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ จะมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ร่วมกันให้มีการบริจาคโลหิตตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2567

‘สภากาชาดไทย’ เชิญชวนคนไทย ร่วมจิตอาสาทำความดีบริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดเดือนมหามงคล

จากรายการ THE TOMORROW มหาชนต้องรู้ ออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ คุณปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ที่ได้มาเชิญชวนพสกนิกรทั่วประเทศ ร่วมเป็นจิตอาสา ทำความดีบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 67 โดยคุณปิยนันท์ ได้กล่าวถึงสาระสำคัญ ดังนี้…

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยมีพระราชประสงค์ทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาท เพื่อสืบสานรักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแด่อาณาประชาราษฎร์ 

โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ซึ่งล้วนมีการสร้างสรรค์ความผาสุขสงบแก่ประชาชน นำความเจริญไพบูลย์ และความมั่นคงมาสู่ประเทศ ดังพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

ทั้งนี้ ในด้านภารกิจของสภากาชาดไทย ทรงดำรงตำแหน่งพระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ทรงสนับสนุนงานบริการโลหิต โดยเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในการนี้ ทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็มที่ระลึก ผู้บริจาคโลหิต ครั้งที่ 6 เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2518 ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร ความว่า...

“โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งชีวิต การบริจาคโลหิต จึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิตเป็นทานซึ่งเป็นทานที่สูง ควรแก่การยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง”   

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ  สภากาชาดไทย  จึงได้จัดกิจกรรมเชิญชวน พสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศ ร่วมเป็นจิตอาสา ทำความดีบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมทั้งลงนามถวายพระพรออนไลน์ ตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 

โดยประชาชนสามารถ บริจาคโลหิต ได้ที่... 

- ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย   
- หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Stations) 7 แห่ง ได้แก่ สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค) เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ สาขาบางแค สาขาบางกะปิ สาขางามวงศ์วาน สาขาท่าพระ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม  และบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)

- ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต

- โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ 8 แห่ง ในกรุงเทพฯ ได้แก่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลรามาธิบดี  โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลตำรวจ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลราชวิถี และ โรงพยาบาลสิรินธร

- สาขาบริการโลหิต โรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทร. 0 2263 9600-99 ต่อ 1760, 1761

‘ทักษิณ’ เป็น ประธานอุปถัมภ์บรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติในหลวง ที่สุรินทร์  เผย!! มาวันนี้ ไม่มีประเด็นทางการเมือง ‘ปชช.-รมว.-รมช.-สส.’ ในพื้นที่ให้การต้อนรับ

(14 ก.ค.67) นายโรจนินทร์  หิรัญโชคอนันต์  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ในฐานะเป็นผู้ดำเนินการจัดงานบวชเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จเพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ได้จัดโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้มีผู้แสดงเจตจำนงขอเข้ารับการบรรพชาอุปสมบทจำนวน 334 รูป บวชพระ   บวชสามเณร 5 รูป โดยมีการบวชในวันนี้

นายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานอุปถัมภ์ในการอุปสมบท มีนายประเสริฐ จันทรวง  รวงทอง รมว.ดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม  นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กันตินันต์  รมช. มหาดไทย  และสส. ในพื้นที่ภาคอีสานมีหลายสิบคนและแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน หลาย จังหวัดที่มาร่วมงานบวชเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายโรจนินทร์  หิรัญโชคอนันต์  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อำเภอปราสาท ได้ถวายปัจจัย แด่พระสงฆ์ สามเณร ที่อุปสมบทในครั้งนี้รูปละ 13,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในขณะอุปสมบท โดยมีประชาชนเป็นจำนวนมากเข้าร่วมงานและมาให้การต้อนรับ  

ทั้งนี้ เมื่อทำการอุปสมบทในวันนี้เพื่อปฏิบัติศาสนกิจต่างๆในพระพุทธศาสนาแล้วบางรูปก็จะปฏิบัติธรรมอยู่จำพรรษาในพรรษาที่จะถึงนี้ บางรูปก็  และจะทำการลาสิกขา ในวันที่ 29 กรกฎาคม  2567นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองไม่มีการเมืองใดๆทั้งสิ้นเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อนายทักษิณ  ประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทแล้วเสร็จก็ไปทานอาหารกลางวันที่โรงสี ส ชัยเจริญ ไปทานข้าวกันเฉพาะคณะของท่านและผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น

ซึ่งนายโรจนินทร์  หิรัญโชคอนันต์  นายกเทศมนตรีตำบลกังแอน  อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นการจัดงานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯเท่านั้น

'บอสใหญ่ ปตท.' จัดกิจกรรม ‘เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ พร้อมเผยแพร่พระราชกรณียกิจสำคัญ เพื่อคนไทยได้ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

(25 ก.ค. 67) ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และพนักงานกลุ่ม ปตท. จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ

ดร.คงกระพัน เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ได้ร่วมกันผนึกพลังแห่งความจงรักภักดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยพร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ร่วมตักบาตรพระสงฆ์และสามเณรจากวัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดประจำในรัชกาลปัจจุบัน พร้อมด้วยวัดธรรมมงคลและวัดศรีเอี่ยม รวมจำนวน 73 รูป และได้ร่วมกันถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นพนักงานที่ดีและพลังของแผ่นดิน รวมทั้งมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ และร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาผลิต ‘ถุงมือพิทักษ์ Tub’ สำหรับใช้ป้องกันการดึงสายน้ำเกลือ สายยางให้อาหารและท่อช่วยหายใจ เพื่อส่งต่อให้กับผู้ป่วยในสถานพยาบาลต่าง ๆ ต่อไป

“โครงการและกิจกรรมพิเศษที่ กลุ่ม ปตท. ร่วมดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจและโครงการตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างสังคมไทยให้แข็งแรง สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ 'ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย' และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” ดร.คงกระพัน กล่าว

อนึ่ง ในปี 2567 นี้ กลุ่ม ปตท. ได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ประกอบไปด้วย 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่...

1.โครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 6  ปตท. จัดสรรพื้นที่จำนวน 10 ไร่ ขนานแนวโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรเฉลิมพระเกียรติฯ ดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งท่าเรือและพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน โดยการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ พร้อมลานกิจกรรมและเส้นทางจักรยาน รวมถึงจัดสร้างอาคารนิทรรศการ 'ชลวิถีธีรพัฒน์' บอกเล่าเรื่องราวการพัฒนาสายน้ำ เพื่อ 'สืบสาน รักษา และต่อยอด' ตามพระราชปณิธาน โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ต่อไป

2.โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาการปลูกและการผลิตกาแฟระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการหลวงเลอตอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก กลุ่ม ปตท. และโครงการหลวง ร่วมสืบสานพระราชปณิธาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ซึ่งถือเป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแห่งแรกในรัชสมัยของรัชกาลที่ 10

3.ปลูกป่า 72,000 ไร่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ แหล่งต้นน้ำ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยครอบคลุมพื้นที่ป่าทั่วประเทศ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 70,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

4.ผลิตหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล จำนวน 2 เรื่อง เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและผลสัมฤทธิ์ของโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตประชาชน ตามพระบรมราโชบาย จำนวน 10 โครงการทั่วประเทศ เผยแพร่ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 สิงหาคม 2567 ทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์

5.กิจกรรมแสดง แสง สี เสียง เฉลิมพระเกียรติ ‘ลำนำนที วารีสมโภช’ โดย ปตท. ได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ ณ สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00-21.00 น. โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ เปิดล่องเรือเส้นทางพิเศษ เยี่ยมชมการพัฒนาสายน้ำและวิถีชุมชนคลองบางลำพู ตามพระบรมราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ชมหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติฯ การแสดงแสง สี เสียง ‘พรจากสายน้ำ’ ด้วยเทคนิค Immersive 3D Mapping ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การละเล่นจากชุมชนบางลำพูและดนตรีในสวน พร้อมร่วมทำกิจกรรม Workshop ศิลปะบนผืนผ้าใบ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย อีกทั้งชิมช้อปอาหารเด็ดย่านบางลำพู และ Street food ระดับมิชลิน และร้านค้าชุมชนมากมาย

สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถร่วมกิจกรรมในวันและเวลาดังกล่าว พร้อมทั้งร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. ณ สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ

‘นายกฯ’ เชิญชวนปชช. สวมเสื้อสีเหลือง แสดงความภักดี-สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

(27 ก.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญชวนประชาชน สวมเสื้อสีเหลือง แสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ใจความว่า … 

ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า สวมเสื้อสีเหลือง เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม นี้ ส่วนกลาง ร่วมกิจกรรม ณ ท้องสนามหลวง ส่วนภูมิภาคสถานที่ตามแต่ละจังหวัดกำหนด

บุรีรัมย์ - ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(26 ก.ค.67) ที่ผ่านมา ณ บ้านกึ่งวิถีเพื่อการสงเคราะห์ วัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท  หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ นายโชคชัย  สว่างรัตน์ นายอำเภอชำนิ มอบหมายให้ นางสาวสุนันทา ละเอียด ปลัดอำเภอชำนิ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี กิจกรรมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว และ โครงการ ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ร่วมกับ พระครูปลัดวิชาญ ธัมมฺโชโต ดร. เจ้าอาวาสวัดพุทธบูชาป่าโคกปราสาท อาจารย์ วิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม นายสุนทร ฉายโอภาส ที่ปรึกษาประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม นายชัยสิทธิ์ เครือสูงเนิน ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง จิตอาสาพระราชทาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมหน่วยงานรายการกับผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ อาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่ายภาครัฐบาล และเอกชน  ประชาชนทั่วไป จำนวน100 คน

นายชัยสิทธิ์ เครือสูงเนิน กล่าวว่า ในนามของผู้เข้าร่วมโครงการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน โอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา๖ รอบ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ซึ่งสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง และอาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอชำนิ จัดขึ้นในครั้งนี้

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่๒๘ กรกฎาคม๒๕๖๗ รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมการแสดงพลังความดีของกลุ่มผู้ต้องขังและผู้กระทำผิด ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเป็นลักษณะงานบริการสาธารณะการดูแลรักษา และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม๒๕๖๗ 

เพื่อให้ผู้ที่เคยกระทำผิดได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ดี มีคุณค่า และเป็นประโยชน์การชดเชยความผิดที่เคยได้กระทำมาแล้วให้กับสังคม กรมคุมประพฤติ เป็นหน่วยงานหนึ่งในกลุ่มภารกิจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของกระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนให้กลับตนเป็นพลเมืองดี การทำงานบริการสังคมหรือการทำงานสาธารณประโยชน์เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ศาลกำหนดให้ผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในลักษณะงานที่มุ่งเน้นการแก้ไขฟื้นฟูและสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบต่อผู้อื่นและสังคมเพื่อชดเชยความผิดและความเสียหายที่ก่อขึ้น ซึ่งกรมคุมประพฤติได้จัดกิจกรรมทำงานบริการสังคมและงานสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่องตลอดมา เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ผู้ถูกคุมความประพฤติตระหนักและเห็นคุณค่าในตนเอง เกิดความภาคภูมิใจในการทำประโยชน์ให้แก่สังคม ตลอดจนก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้นสำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการฯประกอบด้วย จิตอาสาพระราชทาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ที่อยู่ในความดูแลของสำนักงาน คุมประพฤติ อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายคุมประพฤติ ภาคีเครือข่ายภาครัฐและ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป จำนวน ๑๐๐ คน

นางสาวสุนันทา ละเอียด  ปลัดอำเภอชำนิ เปิดเผยว่า ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอ ๒๘ กรกฎาคม๒๕๖๗ ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง และคณะอาสาสมัครคุมประพฤติอำเภอชำนิ จัดขึ้นในครั้งนี้

ตามที่ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอได้รายงานวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการนั้น นับว่าเป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งกรมคุมประพฤติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งในกลุ่มภารกิจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยขอกระทรวงยุติธรรม ที่มีภารกิจในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนให้กลับตนเป็นพลเมืองดี โดยจัดให้ผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมหรือการทำงาสาธารณประโยชน์ ด้วยการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกิจกรรมปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ อันเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่งกรมคุมประพฤติได้จัดกิจกรรมทำงานบริการ สังคมและงานสาธารณะประโยชน์ ในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ดีในการปลูกจิตสำนึกให้ผู้ถูกคุมความประพฤติได้ตระหนักและเห็นคุณค่าในตนเอง ตลอดจนสร้างจิตสำนึก รักษ์สิ่งแวดล้อมเกิดความภาคภูมิใจในการทำประโยชน์ให้แก่สังคม ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น อีกทั้งโครงการนี้ ได้มีจิตอาสาพระราชทาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาษีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย อันเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นสถาบันกษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติไทยเราสืบต่อมา

ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับ สังคมส่วนรวม และเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน และขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้ให้ความร่วมมือ และให้การสนับสนุนการจัดโครงการในครั้งนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top