Friday, 3 May 2024
เครื่องบินรบพม่า

'ไพศาล' แฉ!! ไอโอนักล่าอาณานิคม เสี้ยม!! 'ไทย-พม่า' เปิดศึกสงคราม

(1 ก.ค. 65) นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า นักล่าอาณานิคมอยากให้ไทยทำสงครามกับพม่าเต็มทีแล้วใช่ไหม?

1. ตั้งแต่เมื่อวานนี้บรรดาโซเชียลที่ประเทศตะวันตกมาจัดตั้งขึ้นในประเทศไทยและบรรดากองเชียร์ ได้โหมกระแส ว่าชายแดนไทยพม่าระอุตึงเครียด เพราะพม่าส่งเครื่องบินรบ 2 ลำรุกน่านฟ้าไทย 5 กิโลเมตร

และกล่าวหาว่ากองทัพอากาศไม่สามารถปกป้องน่านฟ้าไทยได้

ปั่นหัวให้คนไทยโกรธกองทัพอากาศ และเรียกร้อง ให้ประนามพม่าว่ารุกรานประเทศไทย

ทำกันอย่างเป็นกระบวน

ล่าสุดกองทัพอากาศก็แถลงแล้วว่า ไทย-พม่าเป็นมิตรประเทศอยู่ข้างเคียงกัน ไม่มีเหตุที่จะเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย และเครื่องบินพม่าก็ไม่ได้โฉมหน้าเข้ารุกล้ำเขตแดนไทยแต่ประการใด
 
นี่คือถ้อยแถลงและท่าทีของกองทัพอากาศ ซึ่งดูแลรับผิดชอบอธิปไตย และด้วยการตระหนักถึงความเป็นมิตรไมตรี บ้านพี่เมืองน้องกัน

2. เขาปั่นกระแสเรื่องนี้ก็เพราะต้องการให้ไทยทำสงครามกับพม่า!!!!

ถ้าไทยทำสงครามกับพม่าหรือเกิดการปะทะกันขึ้น #นาโต้2 ก็จะแผลงฤทธิ์ทันที!!!

โดยพันธมิตรยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกก็จะอ้างว่าประเทศไทยซึ่งเป็นภาคีสมาชิกถูกรุกราน

ก็จะยกกองทัพ ส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามา อ้างว่าช่วยประเทศไทยรบพม่า

และเมื่อมีการปะทะกันขึ้น พันธมิตรของพม่าทั้งจีน รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ก็จะเข้าช่วยพม่า ก็จะเกิดเป็นสงครามใหญ่ โดยไทย-พม่าจะเป็นสนามรบ!!!!

พี่น้องประชาชนในภาคเหนือทั้งหมดก็จะอยู่ในภัยของสงคราม ขีปนาวุธจะถล่มลงมาสักเท่าใดใครจะรู้?

ให้ดูยูเครนเป็นตัวอย่าง แล้วเราจะอพยพหลบภัยไปอยู่ที่ไหน?

‘ก้าวไกล’ กังขา รบ.ปล่อยบินรบรุกล้ำน่านฟ้าไทย จี้ ตอบให้ชัด เกี้ยเซี้ยะ ‘มิน อ่อง หล่าย’ หรือไม่

‘ก้าวไกล’ กังขา รัฐบาลไทยปล่อย มิก-29 บินล่วงล้ำน่านฟ้าไทย หลังแม่ทัพภาค 3 ประชุมร่วม มิน อ่อง หล่าย จี้ตอบให้ชัด กองทัพอากาศไทยและรัฐบาลปล่อยให้ลุกล้ำอธิปไตยไทยได้อย่างไร

มานพ คีรีภูวดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนชาติพันธุ์ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย คำพอง เทพาคำ ,องค์การ ชัยบุตร และ ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลรับผิดชอบและชี้แจงเหตุการณ์เครื่องบินรบมิก-29 รุกล้ำน่านฟ้าของไทย บริเวณบ้านวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เป็นระยะเวลากว่า 20 นาที เมื่อวันที่ (30 มิ.ย. 65) ผ่านมา  

มานพ กล่าวว่า กรณีนี้มีประเด็นสำคัญ 3 ข้อ ที่รัฐบาลและกองทัพไทยต้องให้ความสำคัญและตอบคำถามต่อประชาชน ประการแรก ในระยะเวลา 3 รอบ ที่มีการบินเข้ามารุกล้ำอธิปไตยและน่านฟ้าไทย ใช้เวลารวมกันนานถึง 20 นาที ต่างจากที่กองทัพอากาศชี้แจงว่าส่งเครื่องบินไปลาดตระเวนตอบโต้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่กองทัพมักประกาศตนเสมอว่า มีแสนยานุภาพและมีศักยภาพในการป้องกันความมั่นคงของประเทศเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่กลับปล่อยให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุการณ์นี้ทำให้ต้องมีการอพยพนักเรียนและประชาชนในพื้นที่เข้าสู่หลุมหลบภัย หมายความว่า กองทัพได้ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในความเสี่ยง โดยต่อมา มีการชี้แจงจากกองทัพไทยว่า การรุกล้ำน่านฟ้าของกองทัพเมียนมาร์ มีเหตุผลมาจากเขาไม่สามารถบินในพื้นที่เมียนมาร์ได้ เนื่องจากติดภูเขาและสภาพภูมิศาสตร์ จึงจะต้องบินอ้อมผ่านเข้ามาในประเทศไทย คำถามสำคัญที่มีต่อเหตุการณ์นี้คือ กองทัพไทยเปิดโอกาสให้กองทัพเมียนมาร์มีการบินเข้ามาเพื่อโจมตีกลุ่มผู้ต่อต้านโดยรุกล้ำน่านฟ้าไทยได้ถึง 3 ครั้งได้อย่างไร 

ประการที่ 2 มีข้อสังเกตว่า ก่อนมีการโจมตีดังกล่าว 1 วัน มีภาพของแม่ทัพภาคที่ 3 ประชุมพูดคุยกับผู้นำรัฐบาลเมียนมาร์ ที่ กรุงเนปิดอว์ จึงชวนให้สงสัยว่า มีการรู้เห็นเป็นใจปล่อยให้เครื่องบินรบของเพื่อนบ้านรุกล้ำอำนาจอธิปไตยไทยหรือไม่ ทั้งที่กองทัพมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่กลับไม่มีการตอบโต้อย่างทันท่วงที ปล่อยให้รุกล้ำถึง 3 ครั้ง ใช้น่านฟ้าไทยปฏิบัติการทางทหารจนเสร็จสิ้นภารกิจ เวลาพูดถึงภัยความมั่นคง รัฐบาลและกองทัพไทยมักนำไปอ้างเพื่อจับกุมนักศึกษาและประชาชนและที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและจัดการอย่างรวดเร็ว แต่พอเวลาที่มีเหตุการณ์ซึ่งเป็นภัยความมั่นคงจริงๆ กลับล่าช้าและไม่มีท่าทีที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังน่าสงสัยว่าจะใช้เหตุนี้เป็นเหตุผลเพื่อซื้อเครื่องบินรบใหม่หรือไม่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top