Tuesday, 29 April 2025
ฮอลลีวูด

‘จูราสสิคเวิลด์ ภาค 4’ เตรียมยกกองถ่ายทำในไทย มิ.ย.นี้ พิกัด ‘กระบี่-ตรัง’ คาด!! เงินสะพัดเข้าไทยกว่า 650 ลบ.

(29 พ.ค. 67) นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กองถ่ายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับโลก จากฮอลลีวูด เรื่องจูราสสิคเวิลด์ ภาค 4 เตรียมยกกองมาถ่ายทำภาพยนตร์ในจ.กระบี่ และจ.ตรัง โดยมีระยะเวลาในการถ่ายทำราว 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. – 16 ก.ค. 67 จากการรายงานล่าสุดจากกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศระบุว่า กองถ่ายภาพยนตร์จูราสสิคเวิลด์ ยังมีความสนใจที่จะเลือกถ่ายทำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.พังงา จ.ภูเก็ต และจ.เชียงใหม่เพิ่มเติมด้วย

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า มีงบลงทุนที่สร้างรายได้เข้าประเทศไทย 650 ล้านบาท โดยเงินเหล่านี้กระจายไปยังภาคส่วนต่าง ๆ ในประเทศไทย เช่น ค่าจ้างทีมงานชาวไทย ค่าเช่าเครื่องมืออุปกรณ์ ค่าเช่าที่พัก ค่าเช่าสถานที่ ค่าเช่ารถ ค่าใช้จ่ายตามมาตรการป้องกันโควิด ค่าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น นอกจากนี้ยังยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการ Incentive หรือมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ในการคืนเงิน 20% หลังมีการลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

ส่วนข้อมูลจากกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยในช่วง 5 เดือน (1 ม.ค. - 24 พ.ค 67) มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย จำนวน 186 เรื่อง จาก 30 ประเทศทั่วโลก มีรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ 3,192 ล้านบาท โดยรวบรวมจากสถิติการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และได้กระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ รวมทั้งสามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ต่อไป

สำหรับภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในช่วง 5 เดือนแรก แยกเป็นโฆษณาประชาสัมพันธ์ 83 เรื่อง สารคดี 27 เรื่อง รายการโทรทัศน์ 25 เรื่อง เกมส์โชว์และเรียลลิตี้ 17 เรื่อง ภาพยนตร์เรื่องยาว 15 เรื่อง มิวสิควิดีโอ 13 เรื่อง

ทั้งนี้ ในปี 67 กรมการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากกองถ่ายภาพยนตร์ถ่ายประเทศจำนวน 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่มีรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ 6,600 ล้านบาท จากที่รัฐบาลได้ส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ด้วยความพร้อมรองรับการถ่ายทำครบวงจร และศักยภาพของวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย รวมมาตรการในการส่งเสริมสิทธิประโยชน์ที่เป็นแรงจูงใจให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติเลือกไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ

เปิดเบื้องหลังสายลับจอเงิน ฮีโร่จริง หรือแค่โฆษณาชวนเชื่อ

(7 ก.พ.68) นับตั้งแต่การเข้ามามีบทบาทอีลอน มัสก์ ในฐานะผู้นำหน่วยงาน DOGE ประสิทธิภาพของรัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มมีการออกมาพูดถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของหน่วยสืบราชการลับสหรัฐ (CIA) ในการเข้าไปมีบทบาทในหลายแวดวงการ ตั้งแต่การออกมาแฉเบื้องหลังของสำนักข่าว Politico จนถึง การออกมาพูดถึงประเด็นผู้อพยพ

ล่าสุดมีการพูดถึงวงการภาพยนตร์สหรัฐฯ และเหล่าดาราฮอลลีวูด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ของหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ให้ดูเป็นฮีโร่ผู้เสียสละ ซึ่งบางครั้งต้องใช้มาตรการรุนแรงเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

สำนักข่าวสปุตนิกของรัสเซีย ตั้งข้อสังเกตว่า หนึ่งในดาราสาวชื่อดังอย่าง แองเจลินา โจลี นักแสดงชื่อดังเคยเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ CIA เพื่อรับคำปรึกษาสำหรับบทบาทของเธอในภาพยนตร์สายลับ Salt (2010) อย่างไรก็ตาม ด้วยบทบาทนักเคลื่อนไหวระดับโลกของเธอ ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับหน่วยงานดังกล่าว

ไม่เพียงแค่นั้น นักแสดงสาวอย่าง เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ จากซีรีส์ Alias ซึ่งรับบทเป็นสายลับ CIA เคยได้รับเชิญไปยังสำนักงานใหญ่ของ CIA ในเมืองแลงลีย์ และในปี 2004 เธอยังได้ร่วมแสดงในวิดีโอรับสมัครงานของหน่วยข่าวกรองนี้ด้วย

ขณะที่ ฌอน เพนน์ หลังจากที่เขาได้สัมภาษณ์เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวเม็กซิกัน "เอล ชาโป" (วาคีน กุซมาน) ซึ่งไม่นานต่อมาถูกจับกุม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเพนน์อาจเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ

ส่วน เบน แอฟเฟล็ก นักแสดงและผู้กำกับชื่อดังเคยรับบทเป็นรองผู้อำนวยการ CIA แจ็ค ไรอัน ในภาพยนตร์ The Sum of All Fears (2002) นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงนำใน Argo (2012) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ยกย่องภารกิจช่วยเหลือนักการทูตสหรัฐฯ ระหว่างวิกฤติการณ์ตัวประกันในอิหร่าน

สื่อรัสเซียยังระบุว่า มีข้อกล่าวอ้างว่าวอลต์ ดิสนีย์เคยร่วมมือกับ CIA ในการสนับสนุนแผนต่อต้านคอมมิวนิสต์ในช่วงสงครามเย็น นอกจากนี้ ในช่วงปี 1990 CIA ได้จัดตั้งสำนักงานประสานงานเพื่อสร้างความร่วมมือกับผู้สร้างภาพยนตร์และนักเขียนบทในฮอลลีวูด เพื่อมีอิทธิพลต่อการนำเสนอภาพลักษณ์ของหน่วยงานข่าวกรองในสื่อบันเทิง

โดยตัวอย่างภาพยนตร์และซีรีส์ที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ของ CIA อาทิ 

Zero Dark Thirty (2012) ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวการตามล่าตัวโอซามา บิน ลาเดน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับการทรมานผู้ต้องสงสัยของ CIA

ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายของทอม แคลนซี เช่น The Sum of All Fears และ Clear and Present Danger ซึ่ง The Atlantic เคยระบุว่าเป็น "หัวใจสำคัญของโฆษณาชวนเชื่อของ CIA ในช่วงทศวรรษ 1990"

Homeland ซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของ CIA ในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมแต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับหน่วยข่าวกรองแห่งนี้

การมีส่วนร่วมของ CIA กับฮอลลีวูดยังคงเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม ว่าภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นบนจอเงินนั้นสะท้อนความเป็นจริง หรือเป็นเพียงเครื่องมือประชาสัมพันธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนอิทธิพลของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ กันแน่

Jurassic World: Rebirth ถ่ายทำในไทย จูราสสิกเวิลด์ภาคใหม่เตรียมฉายกลางปีนี้

(10 ก.พ.68) แฟน ๆ เตรียมพบกับความยิ่งใหญ่ของ Jurassic World: Rebirth ภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ไดโนเสาร์ระดับโลก ที่เพิ่งปล่อยตัวอย่างออกมา พร้อมเผยให้เห็นฉากหลังอันงดงามของประเทศไทย

ภาพยนตร์ตัวอย่างที่ถูกเผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ Universal Pictures มีส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นฉากหลังของหนังที่มีการถ่ายทำที่จังหวัดตรังและกระบี่ของไทย ที่กองถ่ายฮอลลีวูดยกกองมาถ่ายทำเมื่อปีที่แล้ว

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการถ่ายทำในหลายสถานที่ของไทยเมื่อปีที่ผ่านมา รวมถึง เกาะกระดาน และ ถ้ำมรกต จังหวัดตรัง, เขาตาปู ในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา, น้ำตกห้วยโต้ ในอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ รวมถึงฉากบางส่วนใน กรุงเทพฯ และเชียงใหม่

การถ่ายทำในไทยกินเวลากว่า 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม สร้างรายได้สะพัดสู่เศรษฐกิจไทยกว่า 400 ล้านบาท และคาดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวของไทยบนเวทีโลกอีกครั้ง โดยเฉพาะ เขาตาปู หรือที่รู้จักในชื่อ “เกาะเจมส์ บอนด์” จากการปรากฏตัวใน 007 The Man with the Golden Gun

ในภาคนี้ สการ์เลตต์ โจแฮนสัน รับบทเป็นตัวละครหลักที่ออกตามหาดีเอ็นเอของไดโนเสาร์ยักษ์ที่สุดในโลก แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เธอต้องติดเกาะอันลึกลับ

แฟนหนังเตรียมพบกับความตื่นเต้น และชมความงดงามของธรรมชาติไทยในจอฮอลลีวูดได้กลางปีนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top