Friday, 9 May 2025
อุยกูร์เกิดที่จีน

‘Amnesty’ ทำตัวเป็นนักบุญ แต่ตรรกะพังยับ ถามกลับหากไม่ส่ง ‘อุยกูร์’ กลับมาตุภูมิ จะให้ส่งไปไหน?

อุยกูร์กำเนิดที่ไหน? และตรรกะบิดเบือนของ Amnesty ที่พยายามเปลี่ยนข้อเท็จจริงให้เป็นอาชญากรรม

ถ้าพูดกันตามประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ชาวอุยกูร์ไม่ใช่ชนเผ่าหลงทาง พวกเขามีบ้าน มีถิ่นกำเนิด และที่สำคัญคือ บ้านของพวกเขาอยู่ในจีน ไม่ใช่อเมริกา ไม่ใช่ยุโรป และไม่ใช่ 'แดนศิวิไลซ์แห่งสิทธิมนุษยชน' ที่พวก NGO ตะวันตกชอบปั้นแต่งขึ้นมา

อุยกูร์: ชาติพันธุ์ที่มีรากฝังแน่นในดินแดนจีน

ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ อุยกูร์เป็นชนเผ่าที่ตั้งรกรากอยู่ในซินเจียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดินแดนนี้เป็นศูนย์กลางของเส้นทางสายไหม เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอารยธรรมจีน เปอร์เซีย อาหรับ และยุโรปตะวันออก อุยกูร์มีภาษา วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของตัวเองก็จริง แต่ดินแดนที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็เป็น ส่วนหนึ่งของจีนมาตลอด ตั้งแต่ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง มาจนถึงยุคราชวงศ์ชิง

ดังนั้น ถ้าถามว่าอุยกูร์กำเนิดที่ไหน? คำตอบชัดเจน: ที่จีน

Amnesty กับตรรกะบิดเบือนเรื่องการส่งตัวอุยกูร์กลับจีน

เมื่อใดก็ตามที่มีการส่งตัวอุยกูร์กลับจีน Amnesty และ NGO ตะวันตกจะโวยวายทันทีว่ามันคือ 'การละเมิดสิทธิมนุษยชน' หรือแม้กระทั่ง 'การส่งไปตาย' พูดราวกับว่าจีนเป็นแดนมิคสัญญีที่ไม่มีใครควรกลับไปเหยียบอีก แต่ ถ้าชาวอุยกูร์ไม่กลับจีน แล้วจะให้พวกเขาไปไหน?

ไปยุโรป? อย่าหวังเลย ประเทศตะวันตกที่ชอบตะโกนเรื่องสิทธิมนุษยชนไม่เคยเปิดประตูต้อนรับผู้อพยพอุยกูร์เป็นจำนวนมาก

ไปอเมริกา? เผลอ ๆ จะถูกปฏิเสธตั้งแต่ด่านตรวจคนเข้าเมือง

หรือ Amnesty อยากให้อุยกูร์ตั้งประเทศใหม่? ถ้าคิดแบบนี้ก็พูดมาตรง ๆ อย่าอ้อมค้อม เพราะนี่คือแนวคิดแบ่งแยกดินแดนโดยตรง

การส่งผู้ร้ายข้ามแดน: หลักการสากลที่ Amnesty แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น

เรื่องที่ตลกร้ายคือ เมื่อเป็นเรื่องของอาชญากรจากประเทศอื่น ประเทศตะวันตกก็รีบส่งตัวกลับประเทศต้นทางทันทีโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเป็นอุยกูร์ Amnesty กลับพยายามทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่การส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศปฏิบัติตาม

ถ้าไม่ส่งกลับจีน แล้ว Amnesty จะให้ไปไหน? หรือพวกเขาต้องการให้คนเหล่านี้ลอยนวลไปอาศัยอยู่ที่อื่นโดยไม่มีการตรวจสอบ ทั้งที่บางคนอาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง เช่น ETIM (East Turkestan Islamic Movement) ที่ถูกขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้ายจากหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ เอง

วัฒนธรรมอุยกูร์อยู่ในจีน: สัจธรรมที่ Amnesty ไม่อยากรับรู้ อุยกูร์ไม่ใช่ชนเผ่าไร้ราก พวกเขามีดินแดน มีบ้าน และบ้านของพวกเขาก็คือ จีน ศิลปะ อาหาร ดนตรี และการค้าขายของอุยกูร์เป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมจีนมาหลายร้อยปี ลองไปเดินตลาดในคัชการ์ (Kashgar) แล้วจะเห็นว่าอุยกูร์ไม่ได้เป็นแค่กลุ่มชนที่แยกตัวจากสังคมจีน แต่พวกเขาคือ หนึ่งในสีสันของอารยธรรมจีน

ถ้าจีนเป็นบ้านของอุยกูร์ แล้วทำไมการส่งตัวกลับถึงเป็นปัญหา? นี่คือคำถามที่ Amnesty ไม่มีวันตอบได้ เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจสิทธิมนุษยชนจริง ๆ พวกเขาสนแค่การใช้ 'สิทธิ' เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อโจมตีจีน

บทสรุป: Amnesty ทำตัวเป็นนักบุญ แต่ตรรกะพังยับ
สุดท้ายแล้ว ประเด็นเรื่องอุยกูร์ไม่ใช่เรื่องของ 'การละเมิดสิทธิ' อย่างที่ Amnesty พยายามยัดเยียดให้โลกเชื่อ แต่เป็นเรื่องของ การบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อแทรกแซงกิจการภายในของจีน

ชาวอุยกูร์เกิดที่จีน โตที่จีน วัฒนธรรมของพวกเขาอยู่ในจีน และเมื่อพวกเขาถูกส่งตัวกลับบ้านเกิดของพวกเขาเอง Amnesty กลับโวยวายเหมือนเป็นเรื่องผิดมหันต์ เอาให้ชัดก่อนว่าคุณกำลังปกป้องสิทธิมนุษยชน หรือกำลังสร้างความแตกแยกกันแน่?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top