Tuesday, 22 April 2025
อีซูซุ

‘อีซูซุ’ ยกระดับให้ กีฬาต่อสู้ประจำชาติไทย เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ในชื่อ “Isuzu Thailand Championship”

(23 มี.ค.67) มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุได้จัดการแข่งขันมวยรอบถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และยาวนานที่สุดของไทยมากกว่า 3 ทศวรรษ จนได้ชื่อว่า 'มวยไทยทางทีวีระดับตำนาน' ปีนี้เราได้ปรับปรุงรูปแบบใหม่ เป็นการแข่งขัน 18 สุดยอดนักมวยจากทั่วประเทศ เพื่อชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง ในชื่อ 'Isuzu Thailand Championship' ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในปี 2024 นี้จะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่ …เหนือลิมิต พิชิตโลก จำนวน 3 คัน พร้อมเข็มขัดแชมป์ และสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขัน THAI FIGHT 2024 อีกด้วย”

การแข่งขันมวย Isuzu Thailand Championship เป็นการยกระดับมวยไทยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้สูงยิ่งขึ้น เพิ่มความสนุกเร้าใจตลอดเกมการแข่งขัน ด้วยเกมการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบของนักสู้บนสังเวียนมวยไทย พร้อมความเดือดทะลุจอด้วยการเปลี่ยนจากมวยสวมนวมเป็นมวยคาดเชือกโดยการจัดแข่งขันชกมวยแบบ 'ยกทีมปะทะกัน' ซึ่งThai Fight International Boxing Association (TFIBA) หรือ สมาคมกีฬามวยไทยไฟท์นานาชาติ เป็นผู้รับรองการแข่งขัน ด้วยการนำนักมวยท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค จัดเป็นทีม ๆ ละ 3 คน เป็นตัวแทนของภูมิภาค โดยแบ่งเป็น 6 ภูมิภาค นักมวย 18 คน ดังนี้

1. ภาคเหนือ
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น เฟเธอร์เวต ได้แก่ กล้าศึก ส.รัตนพล
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ซามูไร สีโอปอล
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย

2. ภาคอีสานตอนบน
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น เฟเธอร์เวต ได้แก่ ชัยบุรี ลูกสิงห์นำชัย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ เพชรตะวัน เกียรติเมืองปรางค์
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ศักดิ์ณรงค์ ป้ายนต์ผลไม้

3. ภาคอีสานใต้
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ เพชรเอก บ้านไร่มณฑา
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ปูซาน ปราสาทหินพิมาย
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ กิตติศักดิ์ ศิษย์ช่างเปา

4. ภาคตะวันออก + ตะวันตก
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ธงชัย เพชรรุ่งเรือง
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ สิบสองปันนา เกียรติวินัย

5. ภาคกลาง
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ เพชรภาคใหม่ ช.ชนะมวยไทย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ยอดเทวินทร์ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ชนะชัย ช.ชนะมวยไทย

6. ภาคใต้
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ เมืองทรัพย์ เกียรติทรงฤทธิ์
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ รักณรงค์ ช.ณรงค์ศักดิ์
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท ได้แก่ ยอดแสนชัย นายกเอท่าศาลา

รูปแบบการแข่งขัน
ทำการแข่งขันชกในรูปแบบมวยคาดเชือก แข่งขันชกกัน 3 ยก จะมีทีมเข้าแข่งขัน 6 ทีม ตามภูมิภาคที่กำหนดไว้ และทำการแข่งขันแบบยกทีม ซึ่งนักมวยทั้ง 3 คน 3 รุ่นน้ำหนักของแต่ละทีม จะต้องแข่งขันชกเพื่อชัยชนะในการสะสมคะแนน ซึ่งทุกทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมด ทั้ง 6 ทีม โดยทุกทีมจะทำการแข่งขันในรอบแรก ทีมละ 5 ไฟท์ รวมการแข่งขันในรอบแรก และมีการเก็บคะแนนแบบระบบ League โดยกำหนดการให้คะแนน ดังนี้
• ชนะน็อค ได้ 3 แต้ม
• ชนะคะแนน ได้ 2 แต้ม
• ในกรณีแข่งขันชกครบ 3 ยก ผลการตัดสินออกมา 'เสมอ' จะทำการแข่งขันชกกันต่อในยกที่ 4 ซึ่งจะเป็นยกตัดสิน เพื่อหาผู้ชนะ

เมื่อทุกทีมทำการแข่งขันครบทุกทีมแล้ว จะนำเอาทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1 - 4 เข้ารอบสองต่อไป แล้วทำการแข่งขันกันต่อ เพื่อหาทีมที่ดีที่สุด

การแข่งขันรอบแรก จะมีจำนวนทีม 6 ทีม นำมาแข่งขันแบบพบกันหมด โดยทุกทีมจะทำการแข่งขันในรอบแรก ทีมละ 5 ไฟท์ แล้วเอาทีมที่มีคะแนนเก็บมากที่สุด 4 อันดับแรก นำเข้าสู่รอบสอง (รอบ 4 ทีมสุดท้าย)

การแข่งขันรอบสอง จะมีจำนวนทีม 4 ทีม นำมาแข่งขันแบบไขว้ทีม คือ ด้วยการนำเอาทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1 มาแข่งขันกับทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 4 และนำทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 2 มาแข่งขันกับทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 3 ในกรณีที่ทีมมีคะแนนผลการแข่งขันรวมเท่ากัน ก็จะนำเอาผลการให้คะแนนย่อยในแต่ละยก ของแต่ละคู่ นำมารวมกันทั้ง 3 คู่ ออกมาเป็นคะแนนรวมตัดสิน ซึ่งจะทำการแข่งขันยกทีมเพียงแค่ 2 ไฟท์ ทีมใดแพ้จะตกรอบทันที และทีมที่ชนะจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศในสังเวียน THAI FIGHT และนักมวยทีมชนะเลิศ จะเป็นนักมวยในสังกัด THAI FIGHT โดยทีมที่เป็นแชมป์จะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเข็มขัดแชมป์ และรถปิกอัปอีซูซุดีแมคซ์ สปาร์ค 1.9 Ddi คนละ 1 คัน รวมทั้งหมด 3 คัน เป็นมูลค่ารวมกว่า 1,700,000 บาท พร้อมได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนนักชกไทยในสังเวียนมวยโลก THAI FIGHT 2024

ผลการแข่งขันในไฟท์ที่ 1
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท
ภาคกลาง - เพชรภาคใหม่ ช.ชนะมวยไทย [แพ้คะแนน] ภาคตะวันออก - ธงชัย เพชรรุ่งเรือง
ภาคเหนือ - กล้าศึก ส.รัตนพล [ชนะคะแนน] ภาคอีสานเหนือ - ชัยบุรี ลูกสิงห์นำชัย

พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเปอร์เฟเธอร์เวท
ภาคเหนือ - ซามูไร สีโอปอล [ชนะน็อค ยก 2] ภาคอีสานเหนือ - เพชรตะวัน เกียรติเมืองปรางค์
ภาคกลาง - ยอดเทวินทร์ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง [เสมอ] ภาคตะวันออก - ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม

พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มินิ มิดเดิลเวท
ภาคกลาง - ชนะชัย ช.ชนะมวยไทยยิม [ชนะคะแนน] ภาคตะวันออก - สิบสองปันนา เกียรติวินัย
ภาคเหนือ - วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย [ชนะคะแนน] ภาคอีสานเหนือ - ศักดิ์ณรงค์ ป้ายนต์ผลไม้

แฟนมวยสามารถติดตามรายการ 'Isuzu Thailand Championship' ทุกวันอาทิตย์ ทางช่อง 8 และ YouTube ช่อง THAI FIGHT OFFICIAL ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.00 น. ถ่ายทอดสดจาก THAI FIGHT ARENA @BEAT ACTIVE ไบเทค บางนา

‘อีซูซุ’ จัดเต็ม ‘รถแต่ง-รถแข่ง-รถโมดิฟาย’ ในงาน ‘Auto Salon’ เอาใจสายมอเตอร์สปอร์ตในคอนเซ็ปต์ ‘Racing Spirit’ ที่เมืองทองธานี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่บูธ ‘อีซูซุ’ ภายในงาน ‘Bangkok Auto Salon 2024’ กลุ่มตรีเพชร โดยคุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า Bangkok Auto Salon 2024 เป็นมหกรรมแสดงและจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในปีนี้อีซูซุได้นำรถมาจัดแสดงมากมาย 

นำทีมโดย รถอเนกประสงค์ NEW! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ ที่เพิ่งออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา กับรุ่น RS ที่มาพร้อมชุดแต่ง RS Design รอบคัน ผ่านเส้นสายที่มีความ Dynamic สปอร์ต หรูหรา มาโชว์ ในงาน พร้อมด้วยรถแต่งพิเศษจากโรงงานและโมดิฟายช็อปชั้นนำ เอาใจสายเรซซิ่งไปอีก ด้วยรถแข่งแชมป์ 2 ปีซ้อน รุ่น Super Truck ในรายการแข่งขัน Thailand Super Series และ PT Maxnitron Racing Series มาจัดแสดงในงานเพื่อต่อยอดสำหรับประชาคมอีซูซุที่ชื่นชอบการแต่งรถและสร้างสรรค์การทำงานแบบเป็นทีมในกิจกรรมรูปแบบมอเตอร์สปอร์ต

ทั้งนี้อีซูซุได้นำทัพยนตรกรรมแต่งพิเศษและแบบมาตรฐาน มาร่วมจัดแสดงในงาน Bangkok Auto Salon 2024 รวมทั้งสิ้น 9 คัน

รถแต่งพิเศษ 6 คัน ได้แก่

• รถแข่งจากสนามเซอร์กิต รถแข่งคันแรกผลงานแชมป์ประเทศไทย 2 ปีซ้อน ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 รายการ Thailand Super Series รุ่น Super Pick-up ทีม Nexzter MK Sport HYB BRC Flex Speedoil Repsol Motul โดย อู๊ด & อ๋อง ระยอง โดยมี NEW! ISUZU D-MAX SPARK ขับโดยเบสท์เทอร์โบยำ แท็กทีมมาพร้อมกับ NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB จากหนุ่ม เม้งการยาง ชลบุรี รถแข่งทั้ง 2 คันโมดิฟายจัดเต็มแพ็คคู่ แต่งสเต็ปเดียวกัน เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ปรับให้มีกำลังสูงสุดถึง 524 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,100 นิวตัน-เมตร จุดประกายความแรงด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop หัวฉีดแต่งจากโอ๊ต-อู่ช่างขวัญ เทอร์โบ Flex ชุดลูกสูบ ก้านสูบ ข้อเหวี่ยง MRX คลัชต์ BRC เพิ่มความมั่นใจด้วยชุดช่วงล่าง Penske setup บุญยางชลบุรี ล้อMK SPORT หนุ่มเม้ง การยางชลบุรี พร้อมยาง Hankook 275/40 R18 ระบบเบรก Nexzter ส่วนบอดี้จัดสเต็ปแต่งเต็มรอบคันด้วยชุดกันชนหน้า กระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า แก้มหน้าซ้าย-ขวา ประตูซ้าย-ขวา สเกิร์ตรอบคัน ฝาปิดท้ายกระบะ ปีกหลังพร้อมดิฟฟิวเซอร์เป็นงานคาร์บอนคอมโพสิตที่ออกแบบและสร้างทั้งคันโดย ปืน AKANA CARBON เบื้องหลังการทำรถแข่งทั้ง 2 คันโดย อู๊ด & อ๋องระยอง และควบคุมการสร้างรถแข่งโดย โน๊ต & นัท ออโต้คาร์ ระยอง

• ใหม่! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ รุ่น ACTIVE เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl) กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน /เมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed พร้อมโหมด Rev Tronic เสริมลุคสไตล์สปอร์ตด้วยล้ออัลลอย MK Sport M-1 ขนาด 9.5x20 นิ้ว คู่กับยางสปอร์ต Toyo Tires รุ่น ST-3 ขนาด 265/50 R20 เพิ่มความหนึบด้วยชุดโช้คอัพ และสปริงโหลด Profender รุ่น Tune Series พร้อมชุดปีกนกบน Profender รวมมูลค่าชุดแต่ง 191,899 บาท

• NEW! ISUZU D-MAX SPACECAB เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกรด S สีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) เพิ่มพลังให้ขับสนุกขึ้นด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า Alpha Tech ทำให้เครื่องยนต์เดิมมีแรงม้าสูงสุดที่ 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 530นิวตัน-เมตร ตกแต่งพิเศษด้วยฝากระโปรงหน้าคาร์บอนคอมโพสิตจาก Monza Factory เสริมความเท่ด้วยล้ออัลลอย MK Sport M-10 ขนาด 9.0x18 นิ้ว คู่กับยางสปอร์ต Nitto Tires รุ่น NT-420SD ขนาด 255/50 R18  จัดทรงด้วยชุดโช้คอัพ สปริงโหลดจาก Profender รุ่น Queen Series รวมมูลค่าชุดแต่ง 110,590 บาท

• NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สีส้มนามิบูไมก้า (Namibu Orange Mica) จัดเต็มสไตล์แคมปิ้งด้วยชุดแต่ง TJM รอบคัน เท่ลงตัวด้วยชุดแต่งจาก TJM ยกคัน ดุดันด้วยล้ออัลลอย TJM รุ่น KONG ขับสนุกทุกสภาพถนนด้วยยาง BRIDGESTONE Dueler AT002 ขนาด 265/60 R18 เพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้า AEROKLAS E-ROLLER LID รวมมูลค่าชุดแต่ง 384,820 บาท

• NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกรด M สีเทาไอลาย์ โอเพค (Islay Gray Opaque) มาพร้อมชุดแต่ง IRONMAN 4×4 ตอบโจทย์นักเดินทางสายลุย ด้วยชุดแต่ง ดังนี้  กันชนหน้าแบบสามเขาพร้อมไฟสปอร์ตไลท์ LED รอกไฟฟ้าขนาด 9,500 ปอนด์ ไซเรียลการ์ดพร้อมบันไดข้าง กันชนหลังแบบเต็มรองรับเซ็นเซอร์และโซน่าด้านหลัง  ชุดขาจับพร้อมแร็คหลังคาอะลูมิเนียม Atlas  ชุดขาจับพร้อมไฟสปอร์ตไลท์รอบคัน  หลังคาอะลูมิเนียม Alu Cab คุณภาพสูง  ขาจับพร้อมแม่แรงไฮลิฟท์แจ็ค เต๊นท์หลังคาอะลูมิเนียม Orion  ยาง BRIDGESTONE DUELER AT002 ขนาด 285/60 R18 และล้อ Lenso รุ่น MX Cezar ขนาด 18 นิ้ว โดยรถคันดังกล่าวโชว์ ณ โซน Camping

พร้อมด้วยรถอีซูซุมาตรฐานทั้งหมด 3 คัน ได้แก่

• ISUZU X-SERIES รุ่น SPEED 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด สีขาวไซบีเรียน (Siberian White) ปิกอัพสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ชุดแต่ง The X Package กระจังหน้าโทนเข้มตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์ Dual Stripes คาดหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated สเกิร์ตข้างดีไซน์เฉพาะตัว ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี Gloss Black พร้อมดีไซน์หน้าปัดแสดงข้อมูลสไตล์เรซซิ่ง สะท้อนตัวตนผ่านโลโก้ X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส ดีไซน์สปอร์ตโทนแดง รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay คอนโซลดีไซน์แบบ Flaming Wing ให้ความเร้าใจ

• ISUZU X-SERIES รุ่น HI-LANDER 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สีดำบาวาเรียน (Bavarian Black Mica) ปิกอัพสปอร์ตยกสูง กระจังหน้าโทนเข้มตัดแดง Garnet Red สติกเกอร์ Dual Stripes คาดหน้า-หลัง พร้อมสเกิร์ตหน้า-หลังสไตล์ Integrated พร้อม Aerodynamic Sport Bar เหนือกระบะท้าย ล้ออัลลอย 18 นิ้ว สี Gloss Black ห้องโดยสารโทนดำ-เทา หน้าจอแสดงข้อมูล Integrated MID 7 นิ้ว โทนแดงให้อารมณ์สปอร์ตพรีเมียม พร้อมโลโก้ X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay พร้อม Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย

• NEW! MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS สีเทา ไอเกอร์ โอเพค (Eiger Gray Opaque) เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน/เมตร สุดยอดรถอเนกประสงค์ ใหม่ภายใต้นิยาม ‘จุดสูงสุดใหม่...กับชีวิตที่เหนือกว่า’ ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกจดภายใน พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา (360° Surround View Camera) เพิ่มความมั่นใจเหนือกว่าด้วยมุมมองใต้ท้องรถ ขับสบาย มั่นใจด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า และเสริมความปลอดภัยเหนือขั้น ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS Generation ล่าสุด! มาพร้อมกับระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKAS) ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า (TJA) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB) และระบบอื่นๆมากถึง 17 ระบบ

ผู้ที่สนใจสามารถมาชมไอเดียการแต่งรถ สัมผัส และทดลองขับรถสปอร์ตตัวจริงจากอีซูซุได้ในงาน ‘บางกอก ออโต ซาลอน 2024’ มหกรรมแสดงและจัดจำหน่ายยนตรกรรม พร้อมอุปกรณ์แต่งรถ ระหว่างวันที่ 26 – 30 มิถุนายน นี้ ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

‘อีซูซุ’ ส่งทัพหน้า NEW!! MU-X ลุยงาน ‘FAST Auto Show’ จัดความพีคขั้นสุด ครบทั้ง 4 รุ่น มุ่งสู่เป้าหมาย รถอเนกประสงค์ที่ดีที่สุด

เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ NEW! MU-X ‘THE NEXT PEAK’ ที่ได้ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสการตอบรับอย่างดียิ่งทั้งจากผู้ใช้รถชาวไทยและสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากดีไซน์สุดพรีเมี่ยมพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เช่น กล้อง 360 องศาพร้อมมุมมองใต้ท้องรถ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS และระบบความปลอดภัยที่เหนือไปอีกขั้น ด้วย ADAS Generation ล่าสุด เรามั่นใจว่า MU-X ‘THE NEXT PEAK’ จะเป็นรถอเนกประสงค์ที่ดีที่สุดในคลาสตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน และได้มาจัดแสดงโชว์ภายในงาน ‘ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024’ ครบทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ RS, Ultimate, Elegant และในรุ่น Active ที่มีการตกแต่งพิเศษร่วมด้วย

โดยทางอีซูซุ ได้ชูจุดเด่นด้านอรรถประโยชน์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลาย โดดเด่นด้านสมรรถนะ ความทนทาน และประหยัดน้ำมันขั้นสุด คงคอนเซ็ปต์รถที่คุ้มค่าเงินสูงสุด ในงาน ‘ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024’

ผู้ที่สนใจ สามารถแวะมาชมได้ ในระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม นี้ ที่บูธอีซูซุ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

‘เอกนัฏ’ หารือ อีซูซุ ให้ความเชื่อมั่นอุตฯ ยานยนต์ไทย พร้อมผลักดันการเติบโตทั้งในประเทศและส่งออก

เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้หารือกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤศ จันทร์สุวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม นายเริงฤทธิ์ กุศลกรรมบถ รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายดุสิต อนันตรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายทินวัฒน์ แก้วสวี ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม อก. 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

ด้านบริษัทฯ ได้นำเสนอภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ สถานการณ์การตลาด ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งนี้บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด ได้ตั้งฐานการผลิตในไทยมาอย่างยาวนานถึง 67 ปี และปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานการผลิตในไทยมากถึง 90%

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้หารือกับสถาบันยานยนต์ และบริษัทฯ ด้านยานยนต์จากหลากหลายบริษัทชั้นนำ ซึ่งได้เห็นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีความสอดคล้องตรงกันทั้งในเรื่องการใช้มาตรฐานมลพิษ Euro 6 สิทธิประโยชน์ทางภาษี การ Disruption ในอุตสาหกรรมยานยนต์จากรถสันดาปสู่ EV ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้เตรียมหารือกับบริษัทฯ ชั้นนำด้านยานยนต์ ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือและพิจารณาแนวทางช่วยเหลือและสนับสนุนตลาดยานยนต์ไทยให้สามารถเติบโตได้ทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศต่อไป

‘อีซูซุ’ ยกขบวน!! ยนตรกรรม สุดล้ำ ขุมพลังดีเซล แห่งอนาคต 2.2 Ddi MAXFORCE โชว์ตัวครั้งแรก ในงาน Motor Expo 2024

(30 พ.ย. 67) อีซูซุจำลองบรรยากาศสนามแข่งรถ ยกขบวนยนตรกรรมสุดยอดสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก โดยนำ อีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ ใหม่!! ภายใต้ชื่อเครื่องยนต์  MAXFORCE ร่วมโชว์งานแรกใน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (The 41st Thailand International Motor Expo 2024) ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์  เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2567 

กลุ่มตรีเพชร โดย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า อีซูซุได้เปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่!! ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก ซึ่งเป็นขุมพลังที่แรงขึ้น เร็วขึ้น ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม และมีค่า CO2 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือทำงานควบคู่กับพลังงานทางเลือกอื่น ๆ ในอนาคต พร้อม ใหม่! ISUZU 3.0 Ddi MAXFORCE ที่มี ใหม่!! ECM แบบ MULTI-CORE โดยมีให้เลือกทั้งในอีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายวันแรกในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 และได้นำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE และ ใหม่!! 3.0 Ddi MAXFORCE The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก ร่วมโชว์ครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024 โดยจำลองบรรยากาศของสนามแข่งรถ พร้อม ISUZU SAFETY CAR และกิจกรรม MAXFORCE 360° XPERIENCE ผ่าน VR มุมมอง 360 องศา เพื่อสัมผัสประสบการณ์ความแรงและเร็วเสมือนนั่งกับนักแข่งรถในสนามจริง นอกจากนี้ยังได้นำอีซูซุ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 Ddi Blue Power ไลฟ์สไตล์ปิกอัพสายพันธุ์สปอร์ต และรถแต่งหลากหลายสไตล์มาร่วมโชว์ รวมทั้งสิ้น 15 คัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลของโลก และตอบโจทย์ครบครันด้านความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่าทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์

ใหม่! ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก ได้รับการพัฒนาใหม่ ให้เป็นเครื่องยนต์แห่งอนาคต ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงขึ้นแรงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที  ออกตัว เร่งแซงเร็วขึ้น กับแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้นถึง 56%  แต่ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิมสูงสุด 10% และมีค่า CO2  ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน  ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอีซูซุเป็นระยะทางเทียบเท่า 2.2 ล้านกิโลเมตร จนมั่นใจว่าเครื่องยนต์นี้มีความแรง ทนทาน และประหยัดน้ำมันเหมาะสมกับตลาดรถยนต์เมืองไทยมากที่สุด พร้อมที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน ถือเป็นเทคโนโลยีดีเซลที่จะกำหนดอนาคตแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง

‘อีซูซุ’ ระเบิดความเร็ว!! จัดเต็มความมันในการแข่งขัน ISUZU RACE SPIRIT 2024 เร็วสุดขีด จี๊ดสุดขั้ว!! รอบชิงชนะเลิศ สนามบางกอกแดร็ก อเวนิว คลอง 5 ปทุมธานี

(8 ก.พ. 68) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดแข่งขัน 'ISUZU RACE SPIRIT 2024' รอบชิงชนะเลิศ ที่ แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตต้องห้ามพลาด ในการเฟ้นหาสุดยอดรถปิกอัพ 'อีซูซุ ดีแมคซ์' ที่เร็วและแรงที่สุดแห่งปี นำเหล่านักแข่งสุดยอดแชมป์จากสนามรอบคัดเลือกมาร่วมประลองความเร็วทางตรงแบบ ควอเตอร์ไมล์ ระยะทาง 402 เมตร ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และกิจกรรมความบันเทิงสุดเร้าใจจัดเต็มแบบครบครัน ณ สนามบางกอกแดร็ก อเวนิว คลอง 5 ปทุมธานี

กลุ่มตรีเพชร โดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขัน ISUZU RACE SPIRIT 2024 เป็นการแข่งขันรถยนต์ทางตรงแบบควอเตอร์ไมล์ ระยะทาง 402 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมด้านมอเตอร์สปอร์ตที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยอีซูซุได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 และยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสำนักแต่ง หรือ โมดิฟายด์ ช็อปชั้นนำของประเทศไทย อาทิ หนุ่ย-เป๋อ สุพรรณ จ๊อบ มนตรี SCG เอ้ ปลาทู เบิร์ดหลักห้า เอ๋ เทอร์โบ นครปฐม แบงค์ บ้านนา ป๊อก แปดริ้ว เอ้ แม่กลอง รวมถึงนักแข่งรถที่ร่วมส่งรถอีซูซุเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งของเครื่องยนต์อีซูซุที่เร็วที่สุด และแรงที่สุดในประเทศไทย ชิงเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นกว่า 1.3 ล้านบาท”

โดยผลการแข่งขันที่สุดของความเร็ว เฉือนเอาชนะกันเพียงเสี้ยววินาทีของรถแข่ง 'อีซูซุ ดีแมคซ์' ในรายการ ISUZU RACE SPIRIT 2024 เร็วสุดขีด จี๊ดสุดขั้ว รอบชิงชนะเลิศพร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท 50,000 บาท 30,000 บาท และโล่เกียรติยศสำหรับผู้ชนะทั้ง 3 อันดับ รวมทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่ 

• รุ่น ALL-NEW ISUZU D-MAX 2020 1.9 TURBO STANDARD 
ชนะเลิศ รชตะ ราศรีเกตุ ทีม 6.9 ริกเตอร์ แบงค์คลองสาม เวลา 11.359 วินาที 
รองอันดับ 1 มานพ ศรีวิลัย 
ทีม แบงค์บ้านนา & ผลิตภัณฑ์ Tokyo & Raytech Clutch 
เวลา 11.673 วินาที

รองอันดับ 2 เทพพิทักษ์ ไชยรัตน์ 
ทีม อู่เบียร์การาจ เอ็ม 56 
เวลา 11.106 วินาที 

• รุ่น ISUZU D-MAX PRO 1.9
ชนะเลิศ มานพ ศรีวิลัย 
ทีม แบงค์ บ้านนา & ผลิตภัณฑ์ Tokyo & Raytech Clutch 
เวลา 9.254 วินาที
รองอันดับ 1 ไพศาล ตันแต๋ว 
ทีม อู่เอ้แม่กลอง 
เวลา 9.288 วินาที
รองอันดับ 2 มงคลชัย แก้วลับ 
ทีม ป๊อกแปดริ้ว 
ชนะ BYE

• รุ่น ISUZU D-MAX PRO 3.0
ชนะเลิศ นันทวัฒน์ วิจิตรเนตร 
ทีม อู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี
เวลา 8.687 วินาที
รองอันดับ 1 ธนพล ชูเจริญผล 
ทีม เจ๊โอ๋สุราษ ฟิวเทค อู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี 
เวลา 9.379 วินาที
รองอันดับ 2 ประสิทธิ์ สุวรรณพัตร 
ทีม ช่างเป้คลอง 9 
ชนะ BYE

• ISUZU D-MAX PRO F55
ชนะเลิศ พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงค์ 
ทีม Prospeed&Speed Oil ผู้จัดการโอ๊ต 
เวลา 7.939 วินาที
รองอันดับ 1 อนุรักษ์ โตมร 
ทีม เบิร์ดเหม่ง โปรสปีด
เวลา 8.100 วินาที
รองอันดับ 2 พงศ์ปพัสร์ บัวล้ำเลิศ 
ทีม เอ๋ เทอร์โบ นครปฐม 
เวลา 8.370 วินาที

• รุ่น ISUZU D-MAX PRO MODIFY
ชนะเลิศ อนุวัฒน์ มณีอินทร์ 
ทีม หนุ่ยสุพรรณ (เอ็ม เอกชาติ) 
เวลา 8.807 วินาที
รองอันดับ 1 ณัฐวุฒิ หอมสุวรรณ 
ทีม หนุ่ยเป๋อสุพรรณ เจ๊ติ๋วสุพรรณ 
เวลา 12.786 วินาที

• รุ่น ISUZU D-MAX OPEN UNLIMITED
ชนะเลิศ ณัฐนุตม์ วงศ์สมบูรณ์ 
ทีม จ๊อบมนตรี SCG SUPER PIG 
เวลา 7.073 วินาที
รองอันดับ 1 ธนพล ชูเจริญผล 
ทีม อู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี
เวลา 7.183 วินาที
รองอันดับ 2 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ 
ทีม หนุ่ยสุพรรณ (นพ พิจิตร) 
เวลา 7.278 วินาที

• รุ่น ISUZU DRAGSTER DIESEL 
ชนะเลิศ ณัฐนุตม์ วงศ์สมบูรณ์ 
ทีม จ๊อบมนตรี SCG SUPER PIG 
เวลา 6.865 วินาที
รองอันดับ 1 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ 
ทีม หนุ่ยสุพรรณ (เอ็ม เอกชาติ) 
เวลา 7.758 วินาที
รองอันดับ 2 ธนพล ชูเจริญผล 
ทีม อภิชาติฟาร์มไข่ไก่ 
เวลา 11.431 วินาที

นอกจากนี้บรรยากาศภายในงานยังมีกิจกรรมการประกวดรถ ISUZU MODIFY CAR CONTEST 2024 การประชันฝีมือการแต่งรถอีซูซุหลากสไตล์ พร้อมบูธผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพชั้นนำ อาทิ ECU Shop, Monza Factory, BRC Clutch, BRD Racing, Wise, Caltex, DEX Oil, BETA, Speed Wear, 6.9 Ricther, Run Stop, Six Syrup, Super Fast และ PTT รวมถึงกิจกรรมความบันเทิงเต็มรูปแบบ Sexy Wash โดยนางแบบสุดเซ็กซี่ที่มาร่วมสร้างสีสันในงาน จัดเต็มเพื่อแฟนอีซูซุโดยเฉพาะ

‘อีซูซุ’ เปิดศึก!! ‘เจ้าแห่งความเร็ว’ ISUZU ONE MAKE RACE 2025

(15 มี.ค. 68) กลุ่มตรีเพชร โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ฟาอีส ยูไนเต็ด มอเตอร์สปอร์ต จำกัด บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด บริษัท ไพโอเนียร์ เอ็นจิเนียริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ริซไวส์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท บี.เจ.มอเตอร์พาร์ท จำกัด ร่วมกันระเบิดศึกอีซูซุ ดีแมคซ์ รวม 19 คัน เพื่อชิงตำแหน่งเจ้าแห่งความเร็วในการแข่งขัน ISUZU ONE MAKE RACE 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ชิงรางวัลถ้วยประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่น สุทธนารีนาถ พร้อมเงินรางวัลรวม 200,000 บาท

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “การแข่งขัน ISUZU ONE MAKE RACE เป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้จัดการแข่งขันกันมายาวนาน และต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ซึ่งการแข่งขันในทุกปีที่ผ่านมานั้นได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ชมที่ติดตามการแข่งขัน และนักแข่งที่เลือกใช้ “อีซูซุ ดีแมคซ์” เป็นรถคู่ใจในการลงสนามประลองความเร็ว ในปีนี้จะมีการแข่งขันแยกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 PRODUCTION GROUP “N” จำนวน 12 คัน ซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 5 และ ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 SUPER FULL RACE จำนวน 7 คัน รวม 19 คัน โดยมีนักดนตรีและนักแข่งอย่าง “โดม ราชนันทร์ คุณาริยานุกูล” และการกลับมาอีกครั้งของนักแสดงและนักแข่งชื่อดัง “แอนดรูว์ โคนินทร์” เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่น ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 PRODUCTION GROUP “N” สำหรับไฮไลท์ในปีนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเนื่องจากการแข่งขันจัดขึ้นในรูปแบบ “CITY STREET CIRCUIT” ถือเป็นครั้งแรกของ ISUZU ONE MAKE RACE ที่จะนำรถไปวิ่งแข่งขันในสนามเฉพาะกิจกลางเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยการแข่งขันจะจัดขึ้น อีก 2 สนาม คือ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี และสนามแก่งกระจานเซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี พบกันครั้งแรกกับรถ Safety Car ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE ใหม่! ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ปรับแต่งความแรงแบบไร้ควัน ให้แรงม้าสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 515 นิวตันเมตร นอกจากนี้ขอแสดงความยินดีกับ คุณสุรชัย เพ็งผ่อง จากการคว้าแชมป์ ในรุ่น ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 UNLIMIT และ คุณปกรณ์ ธรรมโชติ ที่คว้าแชมป์ในรุ่น ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 PRODUCTION GROUP “N” รับถ้วยประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท จากการแข่งขัน ISUZU ONE MAKE RACE 2024 ด้วย”

ร่วมพิสูจน์ความมันส์และความแรงสะใจในรายการ “ISUZU ONE MAKE RACE 2025” เพื่อชิงรางวัลถ้วยประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พร้อมเงินรางวัลรวมมูลค่า 200,000 บาท เริ่มการแข่งขันสนามแรกในวันที่ 28 – 30 มีนาคม 2568 ณ สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี และจะทำการแข่งขันแบบออนทัวร์เพื่อเก็บคะแนนในแต่ละสนาม และจัดลำดับผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งหนึ่ง เพื่อค้นหาที่สุดเจ้าแห่งความเร็วในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแห่งปี 2025

สำหรับกำหนดการแข่งขันทั้ง 6 สนาม ดังนี้
สนามที่ 1 วันที่ 28 – 30 มีนาคม 2568 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี
สนามที่ 2 วันที่ 2 – 4 พฤษภาคม 2568 สนามเฉพาะกิจ สนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก อุตรดิตถ์
สนามที่ 3 วันที่ 20 – 22 มิถุนายน 2568 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี
สนามที่ 4 วันที่ 22 – 24 สิงหาคม 2568 สนามแก่งกระจานเซอร์กิต เพชรบุรี
สนามที่ 5 วันที่ 3 – 5 ตุลาคม 2568 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี
สนามที่ 6 วันที่ 12 – 14 ธันวาคม 2568 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี

รูปแบบการแข่งขัน ISUZU 3.0 PRODUCTION GROUP “N” 2025 รุ่นใหม่
การแข่งขันแบบ GROUP “N” ตามกติกาสากล บังคับให้ใช้เครื่องยนต์ที่เป็นมาตรฐานเดิมจากโรงงานผู้ผลิต แต่สามารถปรับเปลี่ยนช่วงล่าง เพิ่มเติมความสวยงาม เช่น ติดตั้งสปอยเลอร์หน้า เปลี่ยนฝากระโปรงแบบ VACUUM ซึ่งช่วยสร้างหลักอากาศพลศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการเสริมประสิทธิภาพของระบบช่วงล่างและเบรก เปลี่ยนเบรกทั้งคันเป็นแบบ DISC BRAKE 4 ล้อ ล้อหน้าเป็นคาลิปเปอร์แบบ 8 POT เปลี่ยนข8นาดล้อและยาง โช้คอัพ สปริงหน้าและแหนบ เพื่อให้เหมาะกับการแข่งขัน ทั้งหมดนี้เป็นการเน้นให้เห็นถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ให้ความแรงมาตรฐานโรงงาน ปรับแต่งเพียงแค่ช่วงล่างและเบรก แต่ส่งผลให้รถแข่งมีสมรรถนะสูง ความเร็วต่อรอบเทียบเท่ารถแข่งที่มีแรงม้าสูง

รูปแบบการแข่งขัน “ISUZU ONE MAKE RACE 2025”
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “ISUZU ONE MAKE RACE 2025” แต่ละสนามจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้ การควอลิฟายด์, การแข่งขัน RACE 1 และการแข่งขัน RACE 2

การควอลิฟายด์
จะมีขึ้นในวันเสาร์เช้า เป็นการจับเวลาแบบ HOT LAP โดย แข่งขันแยกเป็น 2 รุ่น 2 เรซ คือ ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 PRODUCTION GROUP "N" และ ISUZU ONE MAKE RACE 3.0 SUPER FULL RACE การจับเวลาและแบ่งกลุ่มจะทำให้นักแข่งสามารถแข่งขันในรุ่นของตนเองได้เต็มที่ ทำให้การแข่งขันเข้มข้นเร้าใจในทุกช่วงเวลา

การแข่งขัน RACE 1
จะมีขึ้นในวันเสาร์ช่วงบ่าย ลำดับ START ตามผลการจัดลำดับเวลา และผลการแข่งขันใน RACE 1 จะเป็นการจัดอันดับออก START ใน RACE 2 ของวันอาทิตย์ จะมีคะแนนเก็บให้ตามลำดับที่เข้าแข่งขัน

การแข่งขัน RACE 2
จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ ลำดับ START จะเป็นแบบ Reverse Grid ผลการแข่งขันยังคงรับถ้วยตามกลุ่มการควอลิฟายด์ RACE 2 นี้จะเป็นการตัดสินในการรับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล (เงินรางวัลรับตามอันดับ OVERALL)

มายเหตุ
- รถแข่งทุกคัน จะต้องจอดรวมอยู่ในสถานที่ที่จัดไว้ให้เท่านั้น
- หลังจบการแข่งขันทุกครั้ง รถที่มีตำแหน่งจะถูกตรวจสภาพ
- กรณีที่ซีลและมาร์คเครื่องหมายต่าง ๆ หลุดลอก จะต้องทำการตรวจสภาพใหม่ทั้งหมด

‘ISUZU’ จัดการแข่งขันทักษะ!! ด้านการขาย บริการหลังการขายประจำปี 2567 จัดกิจกรรมการแข่งขัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความพึงพอใจสูงสุด ให้แก่ลูกค้า

(22 มี.ค. 68) อีซูซุตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการรถยนต์เมืองไทย เดินหน้าพัฒนาบุคลากรมืออาชีพ จัดกิจกรรมการแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายประจำปี 2567 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,320,000 บาท ให้บุคลากรได้แข่งขันเเละโชว์ทักษะความรู้ความสามารถทั้งส่วนงานขายและบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยอีซูซุได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี

ทั้งนี้ภายในงานยังมีการร่วมแสดงความยินดีกับช่างอีซูซุซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันทักษะระดับนานาชาติ หรือ I-1 Grand-Prix ประเภทรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ หรือ CV Division ประจำปี 2024 ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศ จากผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งสิ้น 35 ประเทศ ได้แก่ คุณณัฐวุฒิ พลฤทธิ์ พนักงานช่างยนต์ รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ จากบริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด และ คุณณัฐพงศ์ วังเขียว พนักงานช่างยนต์ รถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่ บริษัท ธาราลำพูนอีซูซุเซลส์ จำกัด

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “เพื่อการเติบโตภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายในปัจจุบัน เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพงานบริการทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าตลอดการใช้งานของรถอีซูซุ นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมด้านความรู้และทักษะที่เหมาะสมของบุคลากรยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของ ผู้จำหน่าย เพื่อให้กลายเป็น “Trusted Buddy” ที่ลูกค้าสามารถพึ่งพาได้ทุกเมื่อ การแข่งขัน “ทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ” จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมทุกท่านได้แสดงความรู้และทักษะ เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการของอีซูซุให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น”

การแข่งขันทักษะด้านการขายและบริการหลังการขายอีซูซุ ประจำปี 2567 รอบชิงชนะเลิศนี้ ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงานแต่ละด้าน ประกอบด้วยการแข่งขัน 6 ประเภท สำหรับรอบชิงชนะเลิศนี้มีเจ้าหน้าที่ผ่านเข้ารอบทั้งสิ้น 107 คน จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 617 คน

ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดต้องผ่านการคัดเลือกทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติในรอบคัดเลือก และสำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนั้น ผู้เข้าแข่งขันต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน แต่ละด้าน ซึ่งทุกด้านของการแข่งขันล้วนมีส่วนสำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพของการขายและการบริการหลัง การขาย โดยมีคณาจารย์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำให้เกียรติร่วมเป็นกรรมการตัดสินในครั้งนี้ด้วย โดยผลการแข่งขันมีดังนี้

● รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ได้แก่
คุณณัฐพล พึ่งประชา จาก บริษัท อีซูซุนครหลวง จำกัด

● รางวัลชนะเลิศ ที่ปรึกษาการขาย รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ได้แก่
คุณมงคลชัย วงศ์มหาศิริกุล จาก บริษัท อีซูซุนครหลวงมอเตอร์ จำกัด

● รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถปิกอัพและรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ได้แก่
คุณสุวัฒน์ จันทร จาก บริษัท ชลบุรีอีซูซุเซลส์ จำกัด

● รางวัลชนะเลิศ พนักงานช่าง รถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ได้แก่
คุณชัยวัฒน์ ศรีจันทร์ จาก บริษัท อึ้งง่วนไต๋อีซูซุเซลส์ จำกัด

● รางวัลชนะเลิศ พนักงานมัลติฟังก์ชัน (ที่ปรึกษางานบริการและเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์) ได้แก่
คุณธงชัย เย็นรักษา จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

● รางวัลชนะเลิศ พนักงานอะไหล่ ได้แก่
คุณมงคล พลฤทธิ์ จาก บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด

ร่วมติดตามและอัปเดตข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top