Tuesday, 29 April 2025
อาสาตาจราจร

ตำรวจ! จับมือมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 เปิดตัวโครงการ "อาสาตาจราจร" มอบรางวัลแก่ผู้บันทึกภาพการทำผิดกฎจราจร

วันนี้ (30 พ.ย. 64) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย คุณคณาวัฒน์ วงศ์แก้ว ผู้แทนคณะทำงานเสริมสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนจากคลิปวีดิโอ (VDO) ของวุฒิสภา , คุณหมอแท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการระดมบังคับใช้กฎหมายจราจรเข้มข้น และเปิดโครงการ “อาสาตาจราจร” โดยมอบรางวัลและเกียรติบัตรให้กับผู้ส่งภาพหลักฐานที่ได้รับคัดเลือก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการจัดระเบียบการจราจรที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (จยย.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ตน ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. กำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ฯ ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและเป็นอันตรายต่อผู้อื่น โดยเน้น กวดขัน จับกุม ผู้กระทำผิดใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่  1) ขับรถย้อนศร  2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร  3) ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า และ 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์การกระทำผิดตามข้อหาดังกล่าว มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หรือประชาชนทั่วไป จะมีการดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น”  ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท  และต้องยื่นฟ้องผู้กระทำผิดต่อศาล พร้อมทั้งมีคำร้องขอให้ศาลริบรถของกลาง 

ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดระเบียบการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  หรือ ศจร.ตร. กำหนดมาตรการการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและมีลักษณะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า ศจร.ตร. ได้เริ่มมาตรการดังกล่าว ตั้งแต่ 15 พ.ย.64  เป็นต้นมา โดยกำหนดให้มีการระดมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นครั้งแรกในวันที่ 15-24  พฤศจิกายน 2564 รวม 10 วัน  สามารถจับกุมผู้กระทำผิด ดังนี้

1) ขับรถย้อนศร  20,671 ราย  แบ่งเป็น รถ จยย.ทั่วไป 17,469 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี 2,283 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 919 ราย

2) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร  8,748 ราย แบ่งเป็น รถ จยย.ทั่วไป 6,914 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี  1,494 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 340 ราย

3) ขับรถรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 2,870 ราย แบ่งเป็นรถ จยย.ทั่วไป  1,892 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี  669 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 309 ราย

 4) ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว 600  ราย แบ่งเป็นรถ จยย.ทั่วไป 590 ราย รถ จยย.เดลิเวอรี 9 ราย  และรถ จยย.สาธารณะ 1 ราย

รวมผลการดำเนินการทั้ง 4 ข้อหา จับกุมรวมทั้งสิ้น 32,889 ราย แบ่งเป็น รถ จยย.ทั่วไป 26,865 ราย  รถ จยย.เดลิเวอรี  4,455  ราย และรถ จยย.สาธารณะ 1,596 ราย

นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยอีก 54 ราย  ซึ่งศาลพิพากษา ลงโทษปรับจำนวน 41 คดี ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงโทษ และสั่งริบรถ จยย.ตกเป็นของแผ่นดินอีกหลายกรณี ตัวอย่างเช่น กรณี การจัดทริป “น้ำไม่อาบ”  ของ ภ.จว.เพชรบูณ์  ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 เดือน และปรับ 2,000 บาท  โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี และริบรถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุด้วย

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ศจร.ตร. ได้ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ, สวพ.91 และ จส.100 ในการทำโครงการ “อาสาตาจราจร” โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนร่วมกันทำหน้าที่พลเมืองดีในการตรวจตราการกระทำผิดฎหมายจราจร โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนส่งคลิป กล้องหน้ารถหรือคลิปจากมือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การทำผิดกฎจราจร ที่สำคัญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนโดยส่วนรวม  ส่งคลิปมายัง 4 ช่องทาง ได้แก่ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., สวพ.91 ,จส.100  และ เพจมูลนิธิเมา ไม่ขับ โดย ศจร.ตร. จะรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังสถานีตำรวจพื้นที่ เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  โดยตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 เป็นต้นมา

จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนส่งคลิป การกระทำผิดกฎจราจรมายัง ตร. รวมทั้งสิ้น 36  คลิป  คลิปที่สำคัญ เช่น  คลิปรถจักรยานยนต์ ขับรถย้อนศร บนทางด่วนบูรพาวิถี ซึ่งจากคลิปดังกล่าว ตร. ได้สืบสวนไปยังผู้ครอบครองรถ จนสามารถติดตามผู้ขับขี่ ในวันเกิดเหตุมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย โดยดำเนินคดี 6 ข้อหา โดยปรับจำนวน 5 ข้อหา ได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รายดังกล่าวจำนวน 6 ข้อหา ได้แก่ (1) ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ( ปรับ 500 บาท)  (2) ไม่ชำระภาษีประจำปี ( ปรับ 500 บาท )  (3)  ไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ปรับ 1000 บาท ) (4) ไม่สวมหมวกนิรภัย (ปรับ 500 บาท ) (5) ฝ่าฝืนป้ายเครื่องหมายจราจร (ปรับ 1000บาท ) และ (6) ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย (อยู่ระหว่างฟ้องคดีต่อศาล) หรือคลิปรถกระบะบรรทุกสิ่งของเต็มคันรถ จนเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ทาง บนทางหลวงหมายเลข 3701 พื้นที่ สภ.หนองขาม ได้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยดำเนินคดี 2 ข้อหา (1) ไม่จัดให้มีสิ่งป้องกันการตกหล่น (ปรับ 400 บาท) และ (2) บรรทุกสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด (ปรับ 500 บาท) 

 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่ายเดินหน้าโครงการ “อาสาตาจราจร”มอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณแก่พลเมืองดี ส่งคลิปขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ช่วยคนดีชี้คนผิด

วันนี้ (13 พ.ค. 2567) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท. นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สิทธิชัย โล่กันภัย ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ , นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้บริหารสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้บริหารสถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2567 รวมรางวัลทั้งสิ้น 30 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 150,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย

นพ.แท้จริงฯ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำผิด

ด้าน พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า นับแต่เริ่มโครงการมาจนถึงปัจจุบัน สังคมมีความตื่นตัว มีคลิปการกระทำผิดกฎจราจรจากภาคประชาชนส่งมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้ แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจกับปัญหาการจราจร และจะเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง  สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ ยับยั้งชั่งใจในการกระทำผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปการกระทำผิดกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร , เพจตำรวจทางหลวง , เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ , สวพ.91 และ จส.100  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยประชาชนเรื่องการเมาแล้วขับ โดยสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากฐานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน พบว่าผู้ขับขี่ที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ เป็นสาเหตุของความสูญเสียจากอุบัติเหตุ 1 ใน 5 อันดับที่เกิดสูงสุด ตามกฎหมายผู้ขับขี่ที่ดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีโทษทั้งจำคุก และโทษปรับ หากกระทำผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 ในระยะ 2 ปีจากครั้งแรก จะได้รับโทษที่สูงขึ้นเป็นปรับสูงสุด 1 แสนบาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปี รวมถึงอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ได้ ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ดังนั้น หากรู้ว่าตนเองมีอาการมึนเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง โดยให้ใช้บริการรถสาธารณะ หรือให้อาศัยการเดินทางกับเพื่อน หรือคนในครอบครัวแทน จะทำให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเองและผู้ใช้ถนนโดยส่วนรวม ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรกับผู้ที่ดื่มแล้วขับทุกพื้นที่อย่างเข้มข้น และต่อเนื่อง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top