Wednesday, 15 May 2024
อานนท์_ศักดิ์วรวิชญ์

'ผศ.ดร.อานนท์' โพสต์!! เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในคดี กรณี 'อานนท์ นำภา' ถูกจำคุก 112 ไม่รอลงอาญา 4 ปี

(27 ก.ย. 66) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'Arnond Sakworawich' ระบุว่า...

คดีที่อานนท์ นำภา ถูกศาลพิพากษาจำคุกมาตรา 112 ป.อาญา ไม่รอลงอาญา 4 ปีนั้น อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในคดีนี้เองครับ และทนายอานนท์ นำภา เป็นทนายความว่าความให้ตัวเองด้วยตัวเองด้วยครับ

นอกจากนี้ ผศ.ดร.อานนท์ ยังได้ยกข้อความปราศรัยช่วงหนึ่งของนายอานนท์ นำภา อีกด้วย ระบุว่า…

นอกจากนี้ อัยการยังเห็นว่าอานนท์ปราศรัยเข้าข่ายความ ผิดตามมาตรา 112 โดยกล่าวคำปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงในพื้นที่ชุมนุมว่า "ข้อที่ 3 มาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ข้อเรียกร้องมีสามข้อเท่านั้น วันนี้ จะไม่เหมือนเมื่อวานเพราะพี่น้องที่มาจากต่างจังหวัดทยอยมาสมทบกันเรื่อย ๆ และ นิสิตนักศึกษาก็ทยอยมาเรื่อย ๆ ถ้ามีการสลายการชุมนุมวันนี้ คนที่จะสั่งสลายการชุมนุมมีเพียงคนเดียว คือ ถ้ามีการสลายการชุมนุม ไม่ต้องไปหาคนอื่นใด"

"อย่างที่ผมเรียนไว้ ถ้ามีการสลายการชุมนุม คนอื่นจะสั่งไม่ได้นอกจาก…"

“อย่างที่บอกถ้าวันนี้มีการสลายการชุมนุม คนที่จะสั่งได้คนเดียว คือ…ให้รู้ไว้เช่นนั้น"

ข้อความข้างต้น อัยการเห็นว่าไม่ใช่การกระทำหรือเป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต เป็นการใส่ร้ายกษัตริย์ ทำให้กษัตริย์เสื่อมเสีย ถูกเกลียดชัง และทำให้ประชาชนหลงเชื่อข้อความที่จำเลยได้พูดออกไป ทำให้ไม่เป็นที่เคารพสักการะต่อกษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้

‘ดร.อานนท์’ ชวนจับโป๊ะ ‘พิธา’ เคยอ้างได้ ‘ป.ตรี 2 ใบ’ แท้จริง!! แลกเปลี่ยนที่ ‘UT at Austin’ และโอนหน่วยกิตมา มธ.

เมื่อวานนี้ (20 พ.ย. 66) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘Arnond Sakworawich’ ระบุว่า…

เมื่อวานอาจารย์อาวุโสแห่งคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ส่งข้อความมาบอกว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้ปริญญาตรีสองใบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจาก University of Texas at Austin อย่างที่ให้สัมภาษณ์ในหลายสื่อ

ผมเช็กแล้วใน Dek-D.com นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์จริงว่า ได้รับปริญญาตรีสองใบจากทั้งธรรมศาสตร์ และ UT at Austin

แต่ท่านอาจารย์ท่านยืนยันว่า โปรแกรม BBA ภาคภาษาอังกฤษของธรรมศาสตร์ได้ปริญญาตรีใบเดียวของธรรมศาสตร์ ไม่ใช่ Dual degree แต่อย่างใด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแค่นักเรียนแลกเปลี่ยนที่ UT at Austin แล้วโอนผลการเรียนกลับมาเทียบหน่วยกิตที่ธรรมศาสตร์

เรื่องนี้น่าจะตรวจสอบได้ไม่ยาก ขอเชิญชาวโซเชียลฯ ลองตรวจสอบดูนะครับว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พูดจริงหรือว่าโกหก

นอกจากนี้ ผศ.ดร.อานนท์ โพสต์เฟซบุ๊กอีกด้วยว่า เวลาเราพูดอะไร ถ้าเป็นคนตรงไปตรงมาไม่โกหก อะไรที่เป็นข้อเท็จจริง เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อะไรที่เป็นความคิดเห็น เปลี่ยนแปลงได้

จะจับคนไหนว่า โกหกหรือไม่โกหก ให้ดูว่าเขาพูดข้อเท็จจริงหลาย ๆ ครั้งเรื่องเดียวกันตรงกันหรือไม่ อยู่กับร่องกับรอยหรือไม่

พ่อลิเกนี่เป็นตัวอย่างให้จับโป๊ะแตกง่ายที่สุด เพราะพูดข้อเท็จจริงไม่เคยตรงกันสักที

‘ดร.อานนท์’ เตือน 2 บุตรีของปรีดี อย่าใช้แค่วาทกรรม แนะ!! งัดหลักฐานโต้ หาก ‘2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ นำเสนอบิดเบือน

เมื่อวานนี้ (20 มี.ค. 67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Arnond Sakworawich’ ระบุว่า…

“ผมเข้าใจได้นะครับว่าทายาทของตระกูลพนมยงค์ย่อมไม่พอใจกับภาพยนตร์แอนิเมชัน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ และมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นปกป้องบรรพบุรุษของตนหรือแม้แต่ฟ้องร้องผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังได้ครับ

“แต่ผมคิดว่าในฐานะของลูกหลานปัญญาชนผู้อภิวัฒน์สยาม ก็ควรแสดงหลักฐานและเอกสารชั้นต้นออกมาต่อสู้กันว่าในภาพยนตร์มีสิ่งใดที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ อะไรที่ทางครอบครัวพนมยงค์คิดว่าไม่เป็นความจริง ก็โต้มาด้วยหลักฐาน

“แต่การประดิษฐ์วาทกรรมลอย ๆ เรียกตนเองเป็นฝ่ายธรรมะ และเรียกทีมผู้สร้างภาพยนตร์ว่าเป็นฝ่ายอธรรม ช่างเป็นสงครามวาทกรรมที่แสนเหยียด ขาดความเคารพในความเห็นต่าง ไม่เป็นประชาธิปไตย คงใช้ชีวิตและเติบโตมาจากภาพยนตร์จีนกำลังภายในมากไปหรือไม่”

ผศ.ดร.อานนท์ ระบุต่อว่า “บรรพบุรุษของท่านทั้งสอง เป็นผู้ประดิษฐ์มนูธรรม เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ทำไมลูกหลานจึงเป็นได้แค่ผู้ประดิษฐ์วาทกรรม ช่างแตกต่างจากบรรพบุรุษเหลือเกินครับ การกระทำเช่นนี้ของทายาทของครอบครัวพนมยงค์ ทำให้เกียรติยศของอาจารย์ปรีดี พนมยงค์เสียหายมากนะครับ ว่าลูกหลานขาดวุฒิภาวะในการแสดงความคิดเห็นเยี่ยงอารยะและผู้มีการศึกษา

“การเขียนแถลงการณ์โดยไม่แสดงภูมิปัญญาความรู้ มีแต่วาทกรรมเหยียดและอารมณ์คุกรุ่นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ หาใช่วิสัยปัญญาชนอย่างท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ไม่

“ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์เองก็ยอมรับในบั้นปลายชีวิตเมื่อให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแอนโทนี่ พอลว่าข้อผิดพลาดประการหนึ่งในชีวิตคือการนำเสนอเค้าโครงเศรษฐกิจด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม

“ไฉนเลยลูกหลานแห่งตระกูลพนมยงค์จะยังคงซ้ำรอยวิธีการที่ผิดพลาดในการนำเสนอความคิดเห็น ซึ่งน่าจะทำได้ดีกว่านี้มากครับ อย่าได้ทำอะไรผิดพลาดเช่นที่ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ได้เคยทำผิดพลาดด้วยการนำเสนอผิดวิธีอีกเลยครับ”

สำหรับข้อความเห็นจาก สุดา พนมยงค์ และดุษฎี พนมยงค์ 2 บุตรีของนายปรีดี พนมยงค์ ได้ระบุไว้ว่า…

ข้อคิดเห็นบางประการเรื่องที่ฝ่ายอธรรมกำลังปลุกกระแส โดยสร้างและเผยแพร่ ภาพยนตร์ 2475 อยู่ในขณะนี้

1. การโต้ตอบโดยตรง อาจไม่เป็นผลดีต่อสถาบันปรีดีฯ ทำให้เข้าทางฝ่ายตรงข้าม ที่หวังสร้างข้อมูลเท็จบิดเบือนประวัติศาสตร์ ยั่วยุเพื่อให้เกิดกระแสด้านลบต่อฝ่ายธรรมะ

2. สถาบันปรีดีฯ เผยแพร่ความรู้ และข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อผู้ที่สนใจจะสามารถสืบค้น เข้าถึงได้สะดวกขึ้น

3. เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว เคยมีการสร้างสื่อในลักษณะใส่ร้ายและโจมตีการอภิวัฒน์ 2475 แต่ไม่ได้รับความสนใจจากสังคม จึงไม่ประสบความสำเร็จในการปลุกกระแสดังกล่าว

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น การต่อสู้ระหว่างฝ่ายธรรมะ และฝ่ายอธรรม ยังคงดำเนินต่อไปในสังคมอีกยาวนาน ขอบคุณกรรมการทุกท่าน ที่ได้ช่วยกันพิจารณาวิถีทางรับมือกับกระแสดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านยืนหยัดอยู่กับความถูกต้องเสมอไป

‘ดร.อานนท์’ แจง!! ตนเป็นลูกหลานคนจีนที่เกิดบนแผ่นดินไทย การให้ข้อมูล ‘ปกป้องสถาบัน’ ทำโดยสมัครใจ ไม่มีใครชี้นิ้วสั่ง

(9 เม.ย. 67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Arnond Sakworawich’ ระบุข้อความว่า ผมเขียนหรือพูดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด

ไม่ว่าจะเรื่องภาษีกู ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และเรื่องอื่น ๆ ที่มีคนไม่หวังดีใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็นำความจริงและข้อมูลมาพูดมาเขียนมาเผยแพร่มาโดยตลอด

ไม่เคยแอบอ้างว่าตนเองเป็นราชสกุลหรือราชินิกุลใด ๆ

ผมเป็นแค่ลูกหลานคนจีนที่เกิดบนแผ่นดินไทยเท่านั้นครับ

ไม่เคยมีใครสั่งให้ผมพูดหรือเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เลยครับ ผมทำของผมเองจริง ๆ ครับ และไม่ได้ค่าจ้างค่าแรงแม้แต่บาทเดียวครับ

ผมไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใด ๆ ในการเขียนหรือพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ครับ และก็ไม่เคยมีใครหรือหน่วยงานใด มาบอกหรือมาสั่งให้ผมขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

ขอโทษนะครับ ไอ้พวกล้มเจ้า มันเขียนมันพูดมันทำงานศิลปะด่าแซะเสี้ยมสถาบันพระมหากษัตริย์ มันก็ไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนะครับ

ถ้าทุกคนที่ต้องการจะเขียนและพูดความจริงเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต แบบนั้นจะมีใครกล้าเขียนกล้าพูดความจริงเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์กันละครับ

ผมเชื่อว่าหากเจตนาเราพูดเราเขียน เราทำงานด้วยความจริง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเหมาะสมแก่กาลเทศะและถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ทำไปเลยครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตไปทุกเรื่องหรอกครับ

พวกล้มเจ้าเขาชอบอ้างสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์

คนที่ต้องการปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ หากทำด้วยเจตนาดีและเจตนาบริสุทธิ์ คำนึงถึงความถูกต้องแม่นยำเหมาะสม ก็ทำไปเลยครับ ไม่ต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เพราะเราก็มีสิทธิและเสรีภาพในการปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นกันครับ

ขออภัยที่แสดงความในใจออกมา หลังจากวันนี้เกิดดราม่าว่าผมนำรายชื่อราชสกุลและราชินิกุลออกมาเขียน วิเคราะห์ เพื่อสร้างองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ โดยไม่ได้ขออนุญาต

ผมถือว่าผมทำเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยหลักวิชาการและหลักสุจริต และผมไม่เคยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใด ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว และก็ไม่เคยมีใครหรือหน่วยงานไหนมาสั่งให้ผมทำในสิ่งที่ผมทำ

เพราะฉะนั้นผมมีเจตนาดีต่อราชสกุลและราชินิกุล ผมก็คงไม่ขออนุญาตและไม่สามารถขออนุญาตได้ทุกคนจริง ๆ เพราะเป็น non-finite population ประชากรอนันต์ ที่ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปที่ไหนบ้าง หากจะต้องขออนุญาตทั้งหมดก็คงไม่สามารถพูดหรือเขียนอะไรเกี่ยวกับราชสกุลหรือราชินิกุลได้เลยครับ

'ดร.อานนท์' สรุป!! วิวาทะประชาธิปไตย 'ส.ศิวรักษ์-ศ.ดร.ไชยันต์' เปี่ยมด้วยตรรกะ ภายใต้ท่าทีอ่อนน้อม ไร้ซึ่งการแถ-ตีแสกหน้า

(5 พ.ค.67) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ วิจารณ์ แอนิเมชั่น 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ แบบไม่มีเชิงอรรถอ้างอิง ส่วนใหญ่เป็นความเห็นส่วนตัวของอาจารย์สุลักษณ์เอง พอ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร ไปยืนยันด้วยเอกสารหลักฐานอ้างอิงจำนวนมากอย่างแน่นหนัก 

ข้อดีของอาจารย์สุลักษณ์คือ ไม่แถต่อ ยอมรับว่าไม่เคยอ่านหลักฐานหรือไม่มีเอกสารอ้างอิงใดๆ เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ เป็นจำนวนมาก 

หรือหากเถียงด้วยตรรกะไม่ได้ อาจารย์สุลักษณ์ก็ไม่ได้พยายามแถต่อไป

ข้อดีของอาจารย์ไชยันต์ คือ การถกเถียงโต้แย้งด้วยท่าทีอันอ่อนน้อมแต่หนักแน่นด้วยหลักฐาน อาจารย์ไชยันต์ไม่ได้เถียงอย่างก้าวร้าว ไม่เหยียบซ้ำอาจารย์สุลักษณ์ ไม่ไล่ต้อนอาจารย์สุลักษณ์ อาจารย์ไชยันต์ ไม่ได้เหยียบ อาจารย์สุลักษณ์จนราบเป็นหน้ากลอง ทั้งๆ ที่อาจจะทำได้ แต่อาจารย์ไชยันต์ก็ไม่ได้ทำ 

เช่นนี้ผู้ชมอาจจะไม่สะใจ แต่สำหรับผู้ชมที่มีการศึกษาและมีใจเป็นกลางน่าจะชอบครับ 

ผมดูแล้วสนุกมากครับ บันเทิงและประเทืองปัญญาโดยแท้ ดูจากลิงค์ในคอมเมนต์แรกครับ

ในฐานะที่อานนท์เคยเป็นแฟนคลับอาจารย์สุลักษณ์มาก่อน ผมชอบวิธีของอาจารย์ไชยันต์มากนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นผมไปพบอาจารย์สุลักษณ์เองผมจะมีท่าทีหรือวิธีการที่อ่อนน้อมถ่อมตนเท่าอาจารย์ไชยันต์หรือไม่ เพราะผมเป็นคนพูดตรงๆ แบบเรียบๆ แต่ตีแสกหน้าเสมอ หรือไม่ก็จะถามกลับด้วยคำถามที่ใครเจอเข้าไปก็หงายหลัง ผมเลยคิดว่าอาจารย์ไชยันต์ทำได้ดีมากครับ ขอชมเชยจากใจว่าหนักแน่นในเนื้อหา อ่อนน้อมในท่าที

ชมคลิป >> https://youtu.be/mOiOMpW3Ny0?si=RSIX4E82ATX-Guc8


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top