Sunday, 12 May 2024
อว

อว. เปิด ‘อิมแพ็คฯ-สามย่านฯ’ รับ ‘มหกรรมวิทย์ฯ 65’ ผสานแนวคิด ‘ศิลปะ-วิทย์-นวัตกรรม’ 13-21 ส.ค.นี้

เมื่อ (3 ส.ค. 65) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ขานรับนโยบาย อว. เปิดพื้นที่ 2 แห่ง จัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2565 ภายใต้แนวคิดศิลปะ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ร่วมแสดงนวัตกรรมและผลงานวิทยาศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งปี 13 –  21 สิงหาคม 2565 ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี และ 17 – 21 สิงหาคม 2565 ณ สามย่านมิตรทาวน์ กับงาน NST Fair Science Carnival Bangkok

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ปี 2565 นี้ อว. มีกำหนดจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติขึ้น 2 แห่ง คือที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในรูปแบบการจัดงานวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินมาทุกปี มีสถานที่จัดงานกว้างขวาง และเดินทางสะดวกสำหรับนักเรียน เยาวชนที่สนใจเข้าชมงาน และในปีนี้ได้ริเริ่มจัดที่สามย่านมิตรทาวน์ขึ้นเป็นปีแรก ซึ่งเป็นใจกลางเมืองอีกแห่งที่มีเยาวชนรวมตัวกันมากเป็นพิเศษ ทั้งมหาวิทยาลัย และโรงเรียนต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีได้อย่างสะดวกมาก

รมว.อว. กล่าวต่อว่า สำหรับมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปีนี้ ที่ อว.โดย อพวช. จัดขึ้นนั้น ตั้งใจจัดให้เยาวชน นักเรียน และผู้สนใจที่เข้าชมงานมีความเข้าใจ สร้างแรงบันดาลใจและความสนุกสนาน เพลิดเพลินไปพร้อมๆ กับการเพิ่มพูนความรู้รอบตัว ทำให้ผู้ที่เข้าชมงานเป็นผู้ที่มีวัฒนธรรม กล่าวคือเป็นผู้ที่มีทั้งวิทย์และศิลป์ ตลอดจนคุณธรรมในตัวเอง เป็นวิทยาศาสตร์ที่มีเป้าหมายทำให้สังคมยั่งยืน ทุกวันนี้ในเรื่องของวิทยาศาสตร์แล้ว คนไทยไม่แพ้ใคร มีนักวิทยาศาสตร์ไทยหลายคนที่ทำงานให้กับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยในด้านวิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดี วิทยาศาสตร์ของไทยเป็นศาสตร์ที่มีมาแต่โบราณ บรรพบุรุษไทยมีความเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ในตัว เห็นได้จากการสร้างโบราณสถานมากมายหรือวัดวาอาราม ล้วนนำองค์ความรู้พื้นฐานของวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ทั้งสิ้น 

“คนไทยเก่งในการประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมแบบไทย วิทยาศาสตร์จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่มีการต่อยอดพัฒนาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มาสู่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ดังนั้น ถ้าจะให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด จึงต้องมีการผนวกรวมวิทยาศาสตร์ในยุคเก่าและยุคใหม่เข้าด้วยกัน ซึ่งเราจะได้สัมผัสและเรียนรู้สิ่งเหล่านี้กันในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ของปีนี้ ที่จะปลุกความเป็นนักวิทยาศาสตร์ในตัวของทุกคนกับนิทรรศการที่น่าตื่นตาตื่นใจและกิจกรรมที่สนุกสนานอีกมากมาย” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว

สำหรับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 ถือเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่จัดโดย กระทรวง อว. เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 ‘พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย’ และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ‘พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย’ และ ‘พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย’ ที่ทรงพระปรีชาสามารถ และทรงนำความรู้ด้านศาสตร์ของวิทยาศาสตร์และศาสตร์ศิลปะมาใช้ในการพัฒนาประเทศ เป็นต้นแบบสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นหลังได้นำเอาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิต เพิ่มมูลค่าผลผลิตและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า แนวคิดหลักของการจัดงานในปีนี้คือ “ศิลปะ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน (Art – Science –Innovation for Sustainable Society) โดยเน้นนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ทาง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานกับศิลปะในมุมของการขับเคลื่อนพัฒนา “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ของประเทศ สอดรับกับนโยบาย “BCG Model : Bio – Circular – Green Economy” สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ และหน่วยงานต่างประเทศ ร่วมถ่ายทอดศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนและประชาชนไทย มากถึง 124 หน่วยงาน จาก 11 ประเทศ (รวมประเทศไทย) 

ส่วนจัดแสดงที่สำคัญคือ นิทรรศการเทิดพระเกียรติของกษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ อันเปี่ยมไปด้วยคุณูปการและพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ภายในงานยังมี หนึ่งในโครงการที่สำคัญ โดยจะมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ Prime Minister’s Science Award 2022 ให้กับเยาวชนและครูวิทยาศาสตร์ที่ผู้เป็นต้นแบบด้านวิทยาศาสตร์ ที่ได้ทำโครงงานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันหรือภายในชุมชน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดการมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นเครือข่ายเยาวชนและครู และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเยาวชน ครูและสถานศึกษา ในการสร้างสรรค์ผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับประเทศต่อไป

ทีมวิจัย ม.เกษตรฯ เจ๋ง!! ใช้โปรตีนจากจิ้งหรีดพัฒนาขนมสุนัข ส่งเสริมผู้เลี้ยง-รองรับตลาดโต-พร้อมโกส่งออก

วช.หนุนทีมวิจัย มก. ใช้โปรตีนจากจิ้งหรีดพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัข รองรับตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโตสูง เผยโปรตีนจากแมลงนอกจากได้รับการยอมรับว่าคุณภาพดีแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทีมวิจัยพร้อมผลักดันให้เกิดการจัดจำหน่ายทางการค้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายต่างประเทศได้

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีความรู้ในการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขที่มีคุณภาพดี และยอมจ่ายแม้จะมีราคาที่สูงกว่า เพื่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงรวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงได้สนับสนุนทุนวิจัยฯ ประจำปี พ.ศ. 2564 ให้กับโครงการ 'การพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัขที่ส่งเสริมสุขภาพและเพิ่มมูลค่าทางการตลาดโดยใช้แหล่งโปรตีนทดแทนจากจิ้งหรีด' ซึ่งมี ผศ.ดร.สุดาทิพย์ แซ่ตั้น จากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เป็นหัวหน้าทีมวิจัย เพื่อศึกษากรณีการใช้จิ้งหรีดทองแดงลายมาเป็นวัตถุดิบอาหารสำหรับสุนัข และพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัขโตเต็มวัย ตลอดจนสร้างมูลค่าให้กับห่วงโซ่อุตสาหกรรมจิ้งหรีดในประเทศไทย

ผศ.ดร.สุดาทิพย์ แซ่ตั้น กล่าวว่า จากการศึกษาตลาดพบว่า ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับขนมขบเคี้ยว (Treats) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุนัข และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงเหมือนกัน โดยผู้เลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่นิยมซื้อขนมสุนัขในรูปแบบของบิสกิตมากที่สุด ตามมาด้วยแบบกระดูกและแบบกัดแทะ และผู้เลี้ยงสุนัขเหล่านี้จะให้ขนมแก่สุนัขเกือบทุกวัน โดยเฉลี่ย 2 ครั้งต่อวัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ขนาดของตลาดขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัขมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและผู้บริโภคยอมรับที่จะจ่ายในมูลค่าสินค้าที่สูง

ทั้งนี้ ตามหลักโภชนศาสตร์สัตว์จะกำหนดให้สุนัขควรได้รับปริมาณขนมขบเคี้ยวน้อยกว่าร้อยละ 10 ของความต้องการทางโภชนาการของสุนัขต่อวัน เนื่องจากการให้ขนมขบเคี้ยวที่มากเกินไปอาจทำให้สุนัขได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ นอกจากนี้แหล่งวัตถุดิบหลักที่นิยมใช้ทำขนมขบเคี้ยวสำหรับสุนัขคือ ผลพลอยได้จากอุตสาหกรรม เช่น เนื้อ กระดูกป่นและเนื้อเยื่อของสัตว์แห้ง ซึ่งถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไปอาจจะส่งผลต่อสุขภาพสัตว์ได้

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้เพิ่มมากขึ้น ทำให้พยายามคัดเลือกผลิตภัณฑ์จากแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพดีและยังมีความประสงค์ที่จะใช้แหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงมีความน่าสนใจที่จะเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากแมลง ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพดีสำหรับสุนัข เนื่องจากมีกรดอะมิโนที่จำเป็นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมถึงมีความยั่งยืน

อว. เตรียมเด็กไทยสู่โลกอนาคต ผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม

เมื่อ (24 พ.ย. 65) ที่ผ่านมา ณ พิพิธภัณฑ์เด็กแห่งกรุงเทพมหานคร จตุจักร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา) เตรียมเด็กไทยสู่โลกอนาคตผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจในการสร้างพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ ในงานเสวนาวิชาการ 'สร้างพื้นที่เรียนรู้จากอดีตสู่อนาคต เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม'

ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงความสำคัญว่าทำไมต้องมีพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และศิลปกรรมช่วยพัฒนาเด็กและเยาวชนได้อย่างไร

“ศิลปะเป็นเรื่องของความงาม เป็นเรื่องของอารยสภาพ ทำให้จิตใจนุ่มนวล งดงาม อ่อนโยน ทำให้เกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขอบเขต และสร้างแรงบันดาลใจ บางครั้งภาษา หนังสือ ทฤษฎีก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เด็กและเยาวชนเกิดความคิด จินตนาการ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปลูกฝังให้เด็กเข้าถึงศิลปกรรม ไม่ใช่สำหรับที่จะทำให้เด็กมีอาชีพทางศิลปกรรมเท่านั้น แต่สำหรับเด็กทุกคนที่ต้องเข้าใจ เข้าถึง และสามารถเสพศิลปะได้อย่างเหมาะสมด้วย ทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสมองมีสองซีก คือ ซีกที่เป็นเหตุผล เป็นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ อีกซีกหนึ่งเป็นเรื่องความงาม ความนุ่มนวล อ่อนโยน เป็นสมองที่เกี่ยวกับศิลปะ สุนทรียะ อารยะ เด็กและเยาวชนควรจะได้รับการพัฒนาสมองทั้งสองซีก เด็กที่ได้รับการพัฒนาเช่นนี้จะเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมือง ของโลกต่อไปในอนาคต

"และถ้าเราจะปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงศิลปะ จำเป็นต้องมีพื้นที่การเรียนรู้พิเศษ หรือถ้าจะปลูกฝังให้พัฒนาตนเองด้านศิลปะไปถึงศิลปะขั้นสูง ขั้นอัจฉริยะ ก็จำเป็นต้องปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ ในการนี้จึงจำเป็นที่ต้องมีพื้นที่การเรียนรู้โดยเฉพาะ”

ภายในงานมีการเสวนาวิชาการหัวข้อ 'สร้างพื้นที่เรียนรู้จากอดีตสู่อนาคต เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม' โดย...

ศ.(เกียรติคุณ) ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่าแนวทางการจัดพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนผ่านคุณค่าทุนทางศิลปกรรม ต้องทำให้เกิดการสังเคราะห์ได้แบบองค์รวม ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และอย่าใช้เครื่องมือสำเร็จรูป ต้องให้เด็กได้ลงมือทำจริง

คุณโตมร ศุขปรีชา ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และนวัตกรรมการเรียนรู้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า พื้นที่เรียนรู้มีลักษณะเป็น ‘อุปทาน’ (Supply) ของความรู้ พื้นที่เรียนรู้จะเป็นเหมือนจุดโฟกัสของความรู้ ที่ทำให้เกิดการสร้างกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ขึ้นในพื้นที่นี้ และเป็น ‘ปลายทาง’ (Destinations) ของการสร้าง ‘อุปสงค์’ (Demand) ทางความรู้ในสังคม คือเมื่อกระตุ้นให้คนอยากเรียนรู้แล้ว จำเป็นต้องมีพื้นที่เรียนรู้ให้ได้ไปหาความรู้ด้วย

'ดร.อเนก' ยัน ไม่เกี่ยวอดีตอาจารย์ ม.ดัง ซื้อขายผลงานวิจัย พร้อมสั่ง!! ปลัดกระทรวง อว.เอาผิดพวกทุจริตทางวิชาการ

'เอนก' ยันไม่เกี่ยวข้องอดีต อจ. มหาลัยเอกชนดังเอี่ยวปมซื้อขายผลงานวิจัย ย้ำชัดไม่เคยเป็นทีมงาน สั่งปลัดกระทรวง อว.เอาผิดพวกทุจริตทางวิชาการ ขณะที่ กกอ. จี้ทุกมหาลัยเร่งตรวจสอบอาจารย์ในสังกัด ขีดเส้นรายงานผล 15 ก.พ.นี้ 

(18 ม.ค. 66) ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามี 'อดีตทีมงาน รมต.เอนก' เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายงานวิจัยและบทความวิชาการ ตนขอชี้แจงว่าบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างนั้นไม่เคยเป็นทีมงานของตนแต่อย่างใด เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ในสมัยที่ตนเป็นอธิการบดีวิทยาลัยรัฐกิจ ซึ่งเวลานั้นตนและผู้บริหารก็สงสัยในพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ส่อถึงความไม่ตรงไปตรงมาทางวิชาการ และได้เฝ้าระวังมาตลอด และ ม.รังสิต ขณะนั้นก็ได้ดำเนินการสอบสวนบุคคลดังกล่าวด้วย

“ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาตนให้ความสำคัญกับการจัดการการผิดจริยธรรมและเอาเรื่องพวกทุจริตทางวิชาการนี้มาตั้งแต่เป็นผู้บริหารที่ ม.รังสิต และเมื่อเป็น รมว.อว. ก็จัดการกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน ต่อเนื่อง และในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ได้มอบหมายให้ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. และคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ดำเนินการจัดการตรวจสอบ ติดตามและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างรวดเร็ว รวมถึงหาแนวทางป้องกันในอนาคต” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. กกอ. ได้มีการจัดประชุมที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (สป.อว.) เพื่อพิจารณามาตรการต่าง ๆ ในประเด็นที่เป็นข่าวเรื่องซื้อผลงานวิจัย โดยหลังการประชุม ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ในฐานะเลขานุการ กกอ. เปิดเผยว่า กกอ. มีมติสำคัญ 4 เรื่องด้วยกัน คือ...

1. ให้ สปอว. แจ้งให้ มหาวิทยาลัยทุกแห่ง ทำการตรวจสอบบุคลากรในสังกัด หากพบว่ามีข้อสังเกตที่จะนำไปสู่ความผิดจริยธรรมดังกล่าว ให้ทำการตรวจสอบอย่างยุติธรรมและรวดเร็ว และขอให้รายงานการดำเนินการแก่ สป.อว. ในครั้งแรก ภายในวันที่ 15 ก.พ. นี้

กระทรวง อว. จับมือ รร.นายร้อยตำรวจ ป้องกันอาชญากรรมทั้งการกระทำความผิดและการตกเป็นเหยื่อในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทักษะเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญเหตุและสร้างระบบสภาพแวดล้อมในพื้นที่

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมในเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ” ระหว่างกระทรวง อว. กับ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วม

ทั้งนี้ มี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. และ พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นผู้ร่วมลงนาม ที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสภาวการณ์ของสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมมีการพัฒนารูปแบบไปตามยุคสมัยและถือเป็นภัยใกล้ตัวที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวบุคคลและความสงบเรียบร้อยของสังคม ดังนั้นการจัดการกับปัญหาโดยเฉพาะการป้องกันจึงเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการบ่มเพาะกำลังคนสมรรถนะสูงที่จะเป็นกำลังหลักของประเทศในอนาคตในการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้สำหรับการป้องกันอาชญากรรมให้ครอบคลุมทั้งมิติของการป้องกันการกระทำความผิดและมิติของการป้องกันการตกเป็นเหยื่อ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม 

ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมและการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับการป้องกันอาชญากรรรมในเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศและเพื่อสร้างระบบสภาพแวดล้อมการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมทั้งส่งเสริมทักษะการเอาตัวรอดแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัย นักศึกษาหรือประชาชนในพื้นที่โดยรอบ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะกระบวนการป้องกันอาชญากรรมทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค โดยความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี 

‘THEOS-2’ ทะยานขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ พร้อมเริ่มปฏิบัติการสำรวจโลก ด้าน ‘นายกฯ’ ร่วมยินดี หนุนใช้เทคโนโลยีทันสมัยช่วยขับเคลื่อนประเทศ

ดาวเทียม ‘THEOS-2’ ประสบความสำเร็จขึ้นสู่วงโคจรแล้ว เริ่มปฏิบัติการสำรวจโลก นายกฯ เศรษฐา ร่วมยินดี ขอบคุณกระทรวง อว. ขณะที่ ‘ศุภมาส’ ชี้ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะถูกนำมาวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน 5 – 8 วันจากนี้

(9 ต.ค. 66) มีการนำส่งดาวเทียมสำรวจโลก ‘THEOS-2’ (Thailand Earth Observation Satellite 2) ขึ้นสู่วงโคจรจากท่าอวกาศยานยุโรปเฟรนช์เกียนา (Guiana Space Center) เมืองกูรู รัฐเฟรนช์เกียนา ทวีปอเมริกาใต้ มี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ ‘GISTDA’ รวมทั้งสักขีพยานจากประเทศไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศสรวมถึงประชาชนทั่วโลก ที่สนใจในเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้

โดยเมื่อถึงเวลา 08.36 น.ตามเวลาในประเทศไทย ดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ได้ถูกนำส่งด้วย จรวด ‘VEGA’ พร้อมมีการให้สัญญาณนับถอยหลังใน 10 วินาทีสุดท้ายหลังจากนั้นดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ได้ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรท่ามกลางความตื่นเต้นดีใจ หลังจากลุ้นระทึก โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งสำคัญต่างพากันจับมือแสดงความยินดี

ทั้งนี้ น.ส.ศุภมาส กล่าวภายหลังจากดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ขึ้นสู่วงโคจรของอวกาศว่า รู้สึกดีใจและโล่งใจที่การปล่อยดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ราบรื่น ประสบความสำเร็จ แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ

โดยขณะนี้ สามารถกล่าวได้ว่าดาวเทียม THEOS-2 ได้เริ่มปฏิบัติการสำรวจโลกแล้ว โดยหลังจากปล่อยดาวเทียมในเวลา 08:36 น. จะใช้เวลากว่า 52 นาทีในการเข้าสู่วงโคจรที่ระดับความสูง 621 กิโลเมตร เมื่อดาวเทียมขึ้นไปแล้ว จะทดสอบระบบในอวกาศร่วมกับสถานีภาคพื้นดินราวๆ 3 เดือน ก่อนจะใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีสถานการณ์เร่งด่วนเกิดขึ้น อาทิ ภัยพิบัติ THEOS-2 ก็สามารถสั่งถ่ายภาพได้ภายใน 5 – 8 วัน หลังจากดาวเทียมเข้าสู่วงโคจร

“ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของกระทรวง อว.และประเทศไทย หลังจากนี้จะมีการต่อยอดยกระดับด้านต่างๆ ของประเทศรวมทั้งการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนให้รู้ว่าดาวเทียม THEOS-2 มีประโยชน์อย่างไร สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะถูกใช้ในการปรับปรุงและทำให้ข้อมูลในทุกพื้นที่ของไทยเป็นปัจจุบัน ทันสมัย และมีความละเอียดที่ถูกต้อง ช่วยให้ทุกการวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รมว.กระทรวง อว.กล่าว

ในโอกาสนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดี ว่า ในนามของรัฐบาลไทยและประชาชนคนไทยทุกคน ขอแสดงความยินดีที่วันนี้ประเทศไทยประสบความสำเร็จสามารถส่งดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งรัฐบาลมุ่งเน้นมาตลอดว่าจะใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญในการนำไปพัฒนาสร้างประโยชน์ได้ในหลากหลายมิติ อาทิ การบริหารจัดการเกษตร การบริหารจัดการเมือง การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการภัยธรรมชาติ ซึ่งจะนำมาสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงของพี่น้องประชาชน

“ผมขอขอบคุณกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ GISTDA ที่จะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันวงการอวกาศของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้า” นายเศรษฐา กล่าว

ด้าน ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า “หลังจากดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรแล้ว จะทำการปรับตัวเพื่อเข้าสู่โหมดของการทำงาน รวมทั้งทดสอบระบบควบคุมและติดต่อสื่อสารกับภาคพื้นดิน เพื่อความเสถียรและความแม่นยำของข้อมูลโดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้น GISTDA จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อนำไปต่อยอดหรือให้การบริการเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงจะเป็นแรงผลักดันขับเคลื่อนด้านการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรมในการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ และเทคโนโลยีอวกาศในการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อสร้างนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในสาขาที่เกี่ยวข้องต่อไป”

‘อว.’ ชวนร่วม ‘ไทยโคเซ็น แฟร์ 2023’ วันที่ 2 ธ.ค.นี้ ที่ไบเทคบางนา อย่าพลาด!! กิจกรรมดีๆ พร้อมลุ้นทุนการศึกษา-รางวัลกว่า 1 แสนบาท

‘กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม’ ชวนน้องๆ ทุกคน รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจมาร่วมงาน ‘ไทยโคเซ็นแฟร์ 2023’ ⚙️⚒️

รู้จักหลักสูตรทุกสาขาวิชาว่าพี่ๆ เรียนอะไรกันบ้าง แนะนำวิธีเตรียมตัวเพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อ และเข้าเยี่ยมชมบูทนิทรรศการของ ‘KOSEN-KMITL’ และ ‘KOSEN KMUTT’ รวมไปถึงบูทภาคอุตสาหกรรมไทย - ญี่ปุ่น 🇹🇭🇯🇵 และพบกับกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย 

เจอกันได้ในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 
🕗เวลา 9.00 - 17.00 น.
📍ณ ห้องภิรัช ฮอลล์ 1 ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

Link สำหรับลงทะเบียนเข้าร่วมงาน Thai KOSEN Fair 2023
https://forms.gle/kaUrLAJg7nvER3JZ6

ปล. งานนี้แค่เข้าร่วมงาน ลุ้นชิงรางวัล มูลค่ากว่า 100,000 บาท 🤩🥳

🧡💙อย่าลืมมาร่วมงานกันเยอะๆ นะคะ💙🧡

#ThaiKOSEN #KOSENKMITL #KOSENKMUTT #PracticalEngineering
The new breed of engineers, Thai - KOSEN has arrived.

Don’t miss your chance to learn how to get the Thai KOSEN full scholarship. ⚙️⚒️
Ministry of higher education science research and innovation would like to invite you to attend the Thai - KOSEN Fair 2023. 🧡💙

Get up close and personal with : 
* The curriculums of Thai - KOSEN
* Personal advise on how to prepare for Thai KOSEN
scholarship exams.
* Visiting exhibition boots of KOSEN - KMITL and KOSEN - KMUTT including  many more exhibition booths of Thai - Japanese industries with many enjoyable activities.
See you on December 2nd, 2023 from 09.00 A.M. - 05.00 P.M. at Hall 1 BITEC Bang na, Bangkok.

Please see link for pre-registration of Thai - KOSEN Fair 2023‼️
https://forms.gle/kaUrLAJg7nvER3JZ6

Join us and win a grand prize  with the value of ฿100,000.00‼️🎉🎉🎉
See you there guys!!

เมื่อ 'อว.' ให้ทุน 'นศ.ต่างชาติ' เรียนต่อ 'ตรี-โท-เอก' ในรั้ว 'ม.ไทย' สะท้อน!! Soft Power ด้านการศึกษาที่พบได้บ่อยจาก 'สยาม'

เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย เชิญชวนนักศึกษาต่างชาติสมัครรับทุนในปีการศึกษา 2567 โดยผู้สมัครที่สนใจสามารถส่งใบสมัครโดยตรงกับสถาบันเจ้าภาพภายในระยะเวลาการสมัครของแต่ละโปรแกรม 

ทั้งนี้ ดาวน์โหลดข้อมูลเกี่ยวกับโครงการทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยเจ้าภาพ และขั้นตอนการสมัครได้ที่: https://mhesi.e-office.cloud/d/ffeb26cc

ทั้งนี้ ‘การมอบทุนการศึกษา’ ถือเป็นเรื่องปกติและเห็นได้บ่อยครั้งในสังคมไทย เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาและเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้กำลังใจแก่เยาวชนที่มุ่งมั่น ใฝ่เรียนรู้ การมอบทุนให้แก่นักศึกษาต่างชาติ ก็ถือเป็นการสะท้อน Soft Power ของไทย สื่อถึงการมอบความปรารถนาดี ความเมตตา และโอบอ้อมอารี ที่เป็นนิสัยพื้นฐานของคนไทย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top