Wednesday, 26 June 2024
หัวใจ

ชื่นชม!! ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ อำนวยความสะดวกภารกิจนำส่งอวัยวะหัวใจ

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก 'ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร' ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ระบุว่า...

#ทุกวินาทีคือชีวิตภารกิจนำส่งอวัยวะหัวใจ(53)

30 สิงหาคม 2565 เวลา 18.45 น. #ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ได้รับแจ้งจากพนักงานวิทยุ (ด.ต.จักรภูมิ เสมียนชัย) ว่าได้รับการประสานงานจากสภากาชาดไทยขอสนับสนุนตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริอำนวยความสะดวกนำอวัยวะหัวใจจากสนามบินดอนเมืองส่งยังโรงพยาบาลเป้าหมาย โดยอวัยวะหัวใจดังกล่าวคุณหมอได้นำขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินดอนเมืองในเวลาประมาณ 18.45 น. หลังจากรับแจ้งแล้ว พ.ต.ต.พีรวุฒิ ใหม่อ่อง สว.งานฯ 2กก.6บก.จร.(โครงการใต้ 1) และร.ต.ต.มานะ จอกโคกสูง รองสว.งานฯ 1กก.6บก.จร. (โครงการเหนือ 17) จึงนำกำลังประกอบด้วยด.ต.สุทิน อินทโชติ (6-202) ส.ต.อ.ขจรศักดิ์ พูลคำ (6-144) ส.ต.ท.วัชริศ ลีแสน (6-655) และตำรวจช่างจ.ส.ต.ยุทธนา มังคะตา (6-432) ส.ต.ท.ตุลยวัต ขุนเปีย (6-677)​ ส.ต.ท.ชินาธิป พรมอ้วน (6-711) เข้าสนับสนุนยังอาคารผู้โดยสารภายในประเทศขาเข้า สนามบินดอนเมือง เมื่ออวัยวะหัวใจมาถึงจึงเร่งนำส่งรพ.เป้าหมายทันที นับเป็นครั้งที่ 53 แล้วที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริอำนวยความสะดวกนำส่งอวัยวะหัวใจ

ตร.จราจรโครงการพระราชดำริ พา ‘คุณหมอ’ ฝ่าสายฝนข้ามจังหวัด นำส่ง ‘หัวใจ’ ให้คนไข้ผ่าตัด ท่ามกลางการจราจรติดขัด-เวลาจำกัด

เมื่อไม่นานนี้ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกการจราจรเร่งนำส่งอวัยวะหัวใจส่ง รพ.ศิริราช ได้ทันเวลา

โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 เวลาประมาณ 17.35 น. ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริได้รับการประสานงานจากศูนย์บริจาคอวัยวะ รพ.สมุทรสาคร ผ่านศูนย์วิทยุจราจรโครงการพระราชดำริ แจ้งว่าขอสนับสนุนนำอวัยวะหัวใจจาก รพ.สมุทรสาคร ส่งยัง รพ.ศิริราช หลังจากรับแจ้ง ตำรวจโครงการพระราชดำริได้นำกำลังตำรวจไปรอรับที่ รพ.สมุทรสาคร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจไปยัง รพ.ศิริราช แต่การนำส่งหัวใจในครั้งนี้เหลือเวลาที่จำกัด และเป็นเวลาช่วงเย็นที่มีฝนตก สภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่น คุณหมอจึงตัดสินใจนำอวัยวะหัวใจขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ

โดยมี ร.ต.ต.ศักดิ์ชาย กระแสร์ญาณ เป็นผู้ขับขี่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลเป้าหมายทันที ระหว่างทางมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ทั้งหมอ และตำรวจทุกนายก็มีความมุ่งมั่นที่จะนำพาหัวใจดวงนี้ไปยัง รพ.ที่หมาย รวมถึงได้รับความร่วมมือจากตำรวจจราจร สน.ท้องที่ ในเส้นทางทุกพื้นที่ และผู้ใช้เส้นทางที่ช่วยเปิดทางให้จนภารกิจชีวิตในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี

พล.ต.ท.นิธิธรกล่าวว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริได้เปิดเส้นทางนำส่งอวัยวะหัวใจ ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่ผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งปลูกถ่ายให้ผู้รับ มีเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น (อวัยวะหัวใจหากทำการผ่าตัดออกมาจากร่างกายของผู้บริจาคแล้วจะอยู่ได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ปิดทางเดินเลือดในการผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งเปิดให้เลือดผ่านหัวใจใหม่ในร่างกายของผู้รับการปลูกถ่าย) จึงเป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา

กรณีนำส่งอวัยวะหัวใจในครั้งนี้ นับเป็นรายที่ 73 แล้ว ที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำรินำส่งอวัยวะลุล่วงจนแพทย์สามารถปลูกถ่ายหัวใจ ต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริจาคได้

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. ได้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง ‘สุภาพบุรุษจราจร’ ที่ ศจร.ตร.กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะอยู่มากกว่า 6,000 คนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย เพราะการบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ คือที่สุดแห่งการให้ โดยตำรวจจราจรพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และเติมเต็มความหวังของผู้รับบริจาค เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่ อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top