Sunday, 16 June 2024
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

'ก.ล.ต.' ลงโทษทางแพ่ง 2 ผู้บริหาร สั่งปรับ 5 ล้านบาท ฐานอาศัยข้อมูลภายในที่ตนรู้หรือครอบครองซื้อหุ้น TIPCO

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.66 ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 2 ราย ได้แก่ (1) นางสาวลักษณา ทรัพย์สาคร และ (2) นายสมมารถ ธูปจินดา กรณีร่วมกันซื้อหุ้นบริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) (TIPCO) โดยอาศัยข้อมูลภายในที่ตนรู้หรือครอบครอง โดยให้ผู้กระทำผิดชำระเงินรวม 4,970,880 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามทั้ง 2 รายเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่า นางสาวลักษณา ซึ่งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ TIPCO และกรรมการของบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) (TASCO) ได้ล่วงรู้ข้อมูลภายในที่ส่งผลกระทบด้านบวกต่อราคาหุ้น TIPCO เกี่ยวกับการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (ครั้งที่ 2) ประจำปี 2563 และเงินปันผลประจำปี 2563 ของ TIPCO ในอัตรารวมหุ้นละ 0.69 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากรอบปกติ และเป็นการจ่ายในอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปีของ TIPCO โดยภายหลังการล่วงรู้ข้อมูลภายในดังกล่าว นางสาวลักษณาได้ร่วมกับนายสมมารถซื้อหุ้น TIPCO ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายสมมารถ ก่อนที่ TIPCO จะเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

การกระทำของนางสาวลักษณาและนายสมมารถ กรณีร่วมกันซื้อหุ้น TIPCO โดยอาศัยข้อมูลภายในดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242(1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ (ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร) ดังนี้...

(1) ให้นางสาวลักษณา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,485,440 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 14 เดือน

(2) ให้นายสมมารถ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,485,440 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน

การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง

หมายเหตุ: ***มาตรา 317/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ให้การกระทำความผิดอาญาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดได้

อ่านรายละเอียด 'การดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง' (Civil Sanctions) ได้ที่: https://www.sec.or.th/TH/Pages/LawandRegulations/CivilPenalty.aspx

'ก.ล.ต.สหรัฐฯ' สรุปคดีสามีรวยข้ามคืน 72 ล้านบาท เพราะแอบฟังภรรยาดีลลับซื้อหุ้น สุดท้ายตกงานทั้งคู่

(27 ก.พ.67) Business Tomorrow เผย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐฯ เผยคดีว่ามีชายชาวเท็กซัส ไทเลอร์ ลูดอน ทำเงินได้ 1.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 72 ล้านบาท ด้วยซื้อขายหุ้นอย่างผิดกฎหมาย เหตุการณ์เกิดจากการแอบฟังการประชุมของภรรยากับเพื่อนร่วมงาน ที่ทำงานในบริษัท BP บริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของโลก

SEC สหรัฐฯ กล่าวว่า ไทเลอร์ ลูดอน ได้ซื้อหุ้น TravelCenters of America Inc. โดยได้ล้างพอร์ตหุ้นตัวเองและบัญชีออมเพื่อเลี้ยงชีพเกษียณอายุแล้วในเดือน ก.พ. 2023 ต่อมา BP ประกาศว่าจะซื้อ TravelCenters of America ในระดับราคาหุ้นที่บวกพรีเมียม 74% ทำเอาไทเลอร์กลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน

ต่อมามีการสืบสวนโดยพบว่า ภรรยาไทเลอร์เป็นผู้จัดการดูแลเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว จึงเกิดสงสัยเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของสามี โดยไทเลอร์ยังมีพฤติกรรมแอบฟังภรรยาตอนเธอกำลังทำงานเกี่ยวกับข้อตกลงซื้อหุ้นด้วย 

ต่อมามีการฟ้องร้องใจความว่า ไทเลอร์คิดจะซื้อหุ้น TravelCenters หลังได้ทราบเกี่ยวกับข้อตกลงซื้อหุ้นจากภรรยาของเขาที่เป็นผู้จัดการดีล และเมื่อสามีสารภาพผิด ภรรยาก็ย้ายออกจากบ้านและฟ้องหย่าในเวลาต่อมา ซ้ำร้ายเธอยังถูกไล่ออกแม้จะไม่มีหลักฐานว่าเธอร่วมมือกับสามี 

ส่วนไทเลอร์ยอมรับข้อกล่าวหาจาก ก.ล.ต. และตัดสินใจไม่รับเงินที่ได้จากการทำธุรกรรม พร้อมจ่ายค่าปรับ 100,000 ดอลลาร์ หรือ 3 ล้านกว่าบาท และยินยอมถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทมหาชน ถูกห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่หรือผู้อำนวยการของบริษัทมหาชนเป็นเวลา 10 ปี โดยดีลซื้อหุ้น TravelCenters of America Inc. ของ BP มีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.67 หมื่นล้านบาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top