Wednesday, 9 April 2025
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

‘รัฐมนตรีพิพัฒน์' ถือฤกษ์ดีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ากระทรวงแรงงานวันแรก ยัน พร้อมเดินเครื่องทำงานทันที

‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ รัฐมนตรี ถือฤกษ์ดี เวลา 08.15 น.เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ในโอกาสรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คนที่ 17 ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา และเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา          

เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 7 กันยายน 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ถือฤกษ์เดินทางเข้ากระทรวงแรงงานหลังถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ ศาลพ่อปู่สุชินพรหมมา โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ 

นายพิพัฒน์ กล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ว่า ในวันนี้เป็นวันแรกที่เข้ามากระทรวงแรงงานหลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเมื่อวานนี้ (6 ก.ย.66) จึงถือโอกาสฤกษ์งามยามดีเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงแรงงานทั้ง 5 จุด พร้อมได้เข้ามาพบปะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งวันนี้คงไม่ได้ให้นโยบายอะไรมาก เนื่องจากต้องรอให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อสภาก่อนในวันที่ 11 – 12 กันยายนนี้ เมื่อได้รับนโยบายจากรัฐบาลแล้ว หลังจากนั้นจะได้มาแถลงนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงแรงงาน รวมทั้งฝ่ายลูกจ้าง ฝ่ายนายจ้างได้ทราบว่า หลังจากนี้ไปอีก 4 ปีข้างหน้ารัฐบาลจะทำอะไรบ้าง และกระทรวงแรงงานได้รับนโยบายจากรัฐบาลจะทำอะไรบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ อยากเห็นกระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เพราะคำว่าแรงงาน เข้าถึงทุกภาคส่วนองคาพยพในประเทศไทย และหลังจากได้พบกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้ว จะได้ไปพบปะหารือกัน 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายสหภาพแรงงาน นายจ้าง และข้าราชการให้ครบ เพื่อนำความคิดเห็นจากทุกฝ่ายมาประมวลว่าเราจะเดินไปในทิศทางไหน ส่วนนโยบายที่ท่านสุชาติ ชมกลิ่น เคยทำเอาไว้และเป็นนโยบายที่ดีอยู่แล้วก็จะทำต่อเนื่อง จะไม่นับหนึ่งใหม่ และจะเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป 

จากนั้น นายพิพัฒน์ ได้เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต้อนรับและแนะนำตัว จากนั้น อธิบดีกรมการจัดหางาน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) แนะนำตัวและนำเสนอภารกิจของแต่ละหน่วยงานตามลำดับ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน 

ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ มีกำหนดการเดินทางไปพบปะหารือกับกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.66) ที่อาคารบรรเจิด ชลวิจารณ์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยพบกับนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย  เพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการ และข้อเสนอแนะ นอกจากนี้ยังมีนัดหมายพบปะตัวแทนผู้ใช้แรงงานในสัปดาห์ต่อไปอีกด้วย 

สำหรับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2498 เป็นชาวจังหวัดสงขลา ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนที่ 17 สำเร็จการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประวัติการทำงาน เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ได้แก่ เป็นผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้นบริษัท และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันคือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้ง และผู้ถือหุ้น บริษัท ปิโตรเลียมไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ก่อตั้ง และผู้ถือหุ้น บริษัท อาม่า มารีน จำกัด ประธานกรรมการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการ บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด ประธานกรรมการ บริษัท รัชกิจ คอร์โปเรชั่น จำกัด ปี 2562 เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และในปี 2566 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนปัจจุบัน

‘เศรษฐา’ เข้ากระทรวงการคลัง ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง รมว.คลัง อย่างเป็นทางการ

(14 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เดินทางมาถึงกระทรวงการคลัง หลัง นายเศรษฐา ลงจากรถได้มีการยื่นเอกสารให้กับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากนั้นกล่าวทักทายกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง

ก่อนที่นายเศรษฐา จะเดินมุ่งหน้าไปทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลัง เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ นายเศรษฐา เริ่มสักการะศาลพระพรหม ศาลพระภูมิชัยมงคล จากนั้นสักการะพระคลังมหาสมบัติ และสักการะองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (เสด็จพ่อ ร.5)

และเดินมาทำพิธีไหว้ ตลอดจนคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองที่ช้างคู่ประจำกระทรวง ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารสำนักปลัดกระทรวงการคลัง ได้อย่างราบรื่น โดยพวงมาลัยไม่ขาด ด้วยมีความเชื่อว่าหากขาดจะเป็นฤกษ์ไม่ดี ก่อนจะขึ้นตึกร่วมประชุมมอบนโยบายให้กับผู้บริหาร ข้าราชการ กระทรวงการคลัง ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 ใช้เวลาสั้นๆ เพียง 20 นาที โดยเสร็จจากการประชุมก็มุ่งหน้าต่อที่ห้องทำงาน ก่อนที่จะมาพบปะสื่อมวลชน

ประธานศาลปกครองสูงสุด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลปกครอง ในโอกาสรับตำแหน่งใหม่

(2 ต.ค. 67) ตามที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้ง นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป นั้น  

โอกาสนี้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้สักการะพระพุทธมหากรุณาประชานาถ ศาลพระภูมิ และถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลปกครอง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดอย่างเป็นทางการ โดยมี นายสุชาติ มงคลเลิศลพ รองประธานศาลปกครองสูงสุด และนายพรชัย มนัสศิริเพ็ญ รองประธานศาลปกครองสูงสุด พร้อมด้วย นายจำนงค์ ถาวรวิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง และผู้บริหารสำนักงานศาลปกครอง ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่ง ณ อาคารศาลปกครอง

นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 6 มีประวัติการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน ดังนี้ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิต จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และได้รับประกาศนียบัตรการอบรมหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุ่นที่ 2 จากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ดังนี้

- 1 ตุลาคม 2540 - 7 มกราคม 2544 อัยการจังหวัดประจำกรม ชั้น 4 สำนักงานอัยการสูงสุด
- 2 กุมภาพันธ์ 2544 - 30 กันยายน 2545 ตุลาการศาลปกครองกลาง
- 1 ตุลาคม 2545 - 30 กันยายน 2551 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง
- 1 ตุลาคม 2551 - 14 กันยายน 2552 รองอธิบดีศาลปกครองระยอง
- 15 กันยายน 2552 - 20 เมษายน 2559 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- 21 เมษายน 2559 - 19 กุมภาพันธ์ 2560 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด
- 20 กุมภาพันธ์ 2560 - 30 กันยายน 2563 ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด
- 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2567 รองประธานศาลปกครองสูงสุด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดพิธีใหญ่ สมโภชศาลพระภูมิ และสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) เพื่อเป็นขวัญกําลังใจและเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการตํารวจ

(27 ก.พ.68) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีสมโภชศาลพระภูมิ และสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) โดยมี รอง ผบ.ตร. , จเรตำรวจแห่งชาติ , ผู้ช่วย ผบ.ตร. , คุณกนกวรรณ พันธุ์เพ็ชร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ และ คณะ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ร่วมพิธี ณ สถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) บริเวณลานหอพระนิรันตราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์ และพิธีสักการะศาลพระนารายณ์ 

สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ปรับปรุงภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) และทําการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณของสํานักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ข้าราชการตํารวจให้ความเคารพนับถือและศรัทธามาอย่างยาวนาน ได้แก่ ศาลพระชัยมงคล ศาลพระภูมิ ศาลพระวิสุทธิเทพ (ในอนันตะจักรวาฬ ไตรโลกธาตุ) และศาลตายาย มารวมไว้ยังสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) บริเวณลานหอพระนิรันตราย พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ให้มีความเหมาะสม เรียบร้อย สง่างาม รวมถึงสร้างความสะดวกต่อการเข้าสักการะของข้าราชการตํารวจและประชาชนทั่วไป 

สำหรับรูปแบบของศาลใหม่นั้นมีลักษณะเป็นศาลไม้ ทําจากไม้สัก ตั้งบนแท่นปูน ปั้นบัวถอดพิมพ์ โดยศาลพระชัยมงคล ศาลพระภูมิ และศาลพระวิสุทธิเทพ (ในอนันตะจักรวาฬ ไตรโลกธาตุ) มีลักษณะเป็นเรือนไทยแบบเรือนเครื่องสับ ทรงจตุรมุข แท่นปูนทรงทึบ ให้เป็นเสาต้นเดียวตามคติพราหมณ์ ส่วนศาลตายาย เป็นเรือนไทยเครื่องสับทรงผืนผ้า การประดับลวดลายน้อยกว่าศาลเทวดา ส่วนแท่นรับเป็นสี่เสา พื้นตัวเรือนมีสองระดับ คือ ระดับเรือนภายใน สําหรับตั้งรูปตายาย และระดับระเบียงด้านหน้า สําหรบตั้งรูปบริวาร ลักษณะศาลมีพื้นลดระดับนี้ เรียกว่า "เสือหมอบ" เป็นคติการทําศาลตายาย นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ศาลพระนารายณ์ ปางประทับยืนเหนือพญาอนันตนาคราช ลักษณะเป็นองค์สีดําประดิษฐานอยู่กลางสระนํ้าที่รายล้อมไปด้วยตนไม้นานาชนิด

ทั้งนี้ พิธีสมโภชศาลพระภูมิ และสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (แห่งใหม่) เป็นพิธีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นพิธีมงคลครั้งสำคัญ เพื่อเป็นขวัญกําลังใจและเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการตํารวจ และประชาชนที่เข้ามาสักการะด้วยความเคารพศรัทธาสืบไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top