(12 ม.ค. 67) สมาคมตลกฯ ชนะคดีละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ‘ทูลกระหม่อมแก้ว’ หลังโดนคู่กรณีเรียก 500 ล้าน รับงงมากต้องมาสู้กับอะไร เสียเวลายืดเยื้อมา 4 ปี จะฟ้องกลับไหมขอหารือกันก่อน คาดอีกฝ่ายขออุทธรณ์แน่นอน เพราะตอนศาลยกฟ้องก็ยกมือคัดค้าน ลั่นอยากยุติ ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมต่อ รู้อีกฝ่ายฟ้องไปทั่วแต่ไม่เคยชนะ ‘ครูสลา’ ยังโดน
ทำเอาสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ถึงกับกุมขมับกันเลยทีเดียว หลังถูก ‘นางสาวฟ้า เมืองไทย’ หรือ ‘ดารณี เจริญศิริ’ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ‘ทูลกระหม่อมแก้ว เรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 500 ล้านบาท คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2562-2563 โดยทางสมาคมศิลปินตลกฯ ยืนยันว่ามีหลักฐานในการถือครองลิขสิทธิ์ชัดเจน ซึ่งคนที่แต่งคำร้องและทำนอง คือ ‘ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก (ปรีดา แก้วกนก)’ เรียบเรียงโดย ‘สมชาย เทียนชัย’ แต่ทางฝ่ายโจทก์อ้างว่าตนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จึงนำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดี โดยฝ่ายจำเลยประกอบด้วย สมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย), ถั่วแระ เชิญยิ้ม (นายศรสุทธา กลั่นมาลี) อดีตนายกสมาคมฯ, สมชาย เทียนชัย, นายปรีดา แก้วกนก (ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก), บูม ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต (ศิลปินขับร้อง), นายศุภมิตต์ ระจิตดำรงค์ และ นางสาวพิมพ์ลักษณ์ ระจิตดำรง
หลังจากต่อสู้มายาวนานหลายปีจนสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) เปลี่ยนนายกสมาคมฯ ถึง 3 คน ตั้งแต่ยุคของ ‘ถั่วแระ เชิญยิ้ม’ มาถึง ‘หยอง ลูกหยี’ และปัจจุบันคือ ‘โอบะ เสียงเหน่อ (นายกิตติ ปักษี)’ ในที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ก็ได้พิจารณายกฟ้องสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ทำเอาคนทั้งสมาคมตลกฯ เฮกันยกใหญ่ที่ชนะคดีและพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของสมาคมฯ กลับคืนมาได้
โดยเวลา 10.00 น. วันนี้พุธที่ผ่านมา ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด ที่โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จ.นนทบุรี นำทีมโดย โอบะ เสียงเหน่อ, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, หยอง ลูกหยี, ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก, บูม ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต พร้อมด้วยตัวแทนทีมทนายความ ทนายมะลิพรรล บิลหร่อหีม, ทนายทองเยี่ยม สรรพสอน และ ทนายศราวุธ เทพศร พร้อมเผยว่าเพลง ‘ทูลกระหม่อมแก้ว’ เป็นฝีมือปลายปากกาของ ‘ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก’ ที่แต่งขึ้นเพื่อถวายความอาลัย ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในคราวเสด็จสู่สวรรคาลัย ภายใต้การดำเนินการและร่วมมือร่วมใจของคนในสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ซัดคู่กรณีไล่ฟ้องแบบนี้มาหลายคนแล้ว ขนาด ‘ครูสลา คุณวุฒิ’ ยังโดน
โอบะ เสียงเหน่อ : “ผมโอบะ เสียงเหน่อ นายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทยในยุคปัจจุบัน ต้องกราบขอบพระคุณสื่อทุกท่านด้วย ตลอดระยะเวลาที่สมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทยของเรา ได้ยกสถานะจากชมรมมาเป็นสมาคม โดยท่าน ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ เป็ด เชิญยิ้ม เป็นนายกสมาคมจดทะเบียนถูกต้องเป็นท่านแรก กิจกรรมของสมาคมฯ ท่านนายกทุกท่าน ตลอดจนที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมตลกฯ พวกเราตระหนักเสมอ ว่าเรารักและเชิดชูสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปฏิบัติต่อเนื่องกันมา ตัวอย่างเช่น ปีพ.ศ. 2538 สมเด็จย่าฯ ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย ในยุคนั้นตลกของเราเฟื่องฟูสุดขีด มีงานทำการแสดงตลกทุกคาเฟ่ แต่เราก็รักสถาบันมหากษัตริย์
โดยท่ายนายกเป็ด ได้รวมหมู่มวลสมาชิกในขณะนั้น 119 ชีวิต เพื่ออุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพระราชกุศล นั่นบ่งบอกว่าสมาคมตลกฯ เรา ไม่เคยละทิ้งในการปฏิบัติหน้าที่เป็นคนไทย รักสถาบัน พระมหากษัตริย์ ปฏิบัติแบบนี้กันมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมจิตอาสา ในการช่วยสังคมต่างๆ ในโครงการต่างๆ เราก็ปฏิบัติกันเรื่อยมา ตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปี จนถึงยุคของนายกถั่วแระ เชิญยิ้ม เราก็ปฏิบัติเช่นกัน ในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ท่านสวรรคตสู่สวรรคาลัย เราก็ทำกิจกรรมกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกคนตั้งใจให้คนไทยร่วมรักสามัคคีกัน
นี่คือหนึ่งในกิจกรรมเล็กๆ ที่เราไม่ได้ละทิ้งว่าเป็นสิ่งเล็ก แต่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่คนไทยเราสมควรที่จะยึดถือปฏิบัติ แต่เราก็มาเจอเหตุการณ์ ที่พวกเราทั้งหมด ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็ต้องคิดลักษณะเหมือนกับสมาคมตลกฯ เรา ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ในขณะที่พวกเรามีความจงรักภักดีต่อชาติ แต่ไม่เป็นไรครับ ในเมื่อเขาใช้สิทธิ์ของเขา พวกเราก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของเราตามความถูกต้อง”
หยอง ลูกหยี : “อย่างที่ท่านนายกโอบะได้บอกไป ว่าสมาคมหรือองค์กรตลกของพวกเรา เราอยู่คู่กับสังคมไทย เราจะต้องแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อปี พ.ศ. 2559 ขอย้อนไปนิดหนึ่ง ว่าหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ได้สวรรคต ทางพี่ถั่วแระ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมในยุคนั้น วันที่ 13 วันที่ 15 ตุลาคม ก็ได้รวบรวม ได้เชิญบุคลากรในสมาคมเพื่อจะจัดทำเพลงถวายความจงรักภักดี และทำถวายความอาลัยให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้จัดทำกันขึ้นมา ผมอยากจะให้พี่น้องสื่อได้เห็นเมื่อสักครู่ ว่าองค์กรของเราตั้งใจขนาดไหน เรารวบรวมทั้งนักแต่ง นักดนตรี ทำกันจนสำเร็จ แล้วมันเป็นที่พอใจของพวกเรามาก พวกเราภูมิใจมากที่ได้ทำ แล้วต่อมาก็เป็นเพลงของสมาคมอย่างถูกต้อง เราไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เข้าสมาคม ก็ออกไปตามสื่อต่างๆ
ต่อมาเราขอกล่าวถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดลพบุรี ได้นำเพลงของพวกเราไปดัดแปลง ผมและพี่ถั่วแระในฐานะนายกและอุปนายก ก็ได้ทักท้วงไป ว่าคุณละเมิดผมนะครับ เขาก็ขอโทษเราลงสื่อ ว่าเขาไปดัดแปลง เอาระนาด เอานักศึกษามาร้อง เขาก็เชิญเราทานข้าว เชิญสื่อ แล้วก็ขอโทษเรา ต่อมาผมมารับตำแหน่ง ผมเป็นนายกที่ใช้เวลาสั้นมาก ดำรงตำแหน่งอยู่ 1 ปี 1 เดือน ผมเจองานหนัก งานใหญ่เลยครับ สมาคมโดนฟ้อง ว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์เพลงนี้ ฟ้องเรา 500 ล้าน ผมยังขำอยู่เลยว่าจริงเหรอครับพี่ถั่วแระ พี่ถั่วแระบอกหยองอย่าขำนะ มันเป็นความเป็นความตายนะ เราโดนฟ้องทั้งหมด 5 คน หนึ่งคือสมาคม คือผมผู้นำองค์กร สองเป็นพี่ถั่วแระ สามเป็นอาจารย์สมชาย สี่เป็นอาจารย์ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก ผู้แต่งเพลง ห้าน้องบูม เป็นผู้ร้อง
ผมเลยไปปรึกษาป๋าพยัพ คำพันธุ์ ป๋าก็เลยส่งทนายมาช่วยผม ก็ต้องขอบคุณทนายทั้ง 3 ท่าน ที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผมตลอด มันเหนื่อยมากครับ การต่อสู้นั้นใช้เวลายาวนานมาก แล้วผมแทบจะไม่ได้ทำมาหากินเลย เดี๋ยวมาศาล เดี๋ยวขึ้นศาล ผมอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างจังหวัด ก็ต้องมาครับ มันเหนื่อย แล้วใครมาจากไหนก็ไม่รู้ เขาเป็นใครมาจากไหน มาฟ้องเรา ผมก็สอบถามไปทางอาจารย์ทองเปีย ว่าพูดความจริงกับผมมา ไปลอกใครมาหรือเปล่า ไปจำใครมาไหม อาจารย์ก็ถามผมว่านายกไม่เชื่อผมเหรอ ถ้างั้นสู้ ไม่เป็นไร ก็สู้กันมา เราก็หาหลักฐานกัน จนถึงที่สุดศาลยกฟ้องพวกเรา เราเป็นผู้บริสุทธิ์ครับ
ผมอยากจะให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน เข้าไปดูเพลงทูลกระหม่อมแก้ว ที่นายกถั่วแระทำไว้ และองค์กรของพวกเราช่วยกันเทใจให้กับสมาคม ในมิวสิกวิดีโอ ผมอยู่ในงานนั้นด้วย แต่ไม่มีหน้าผมเลย เพราะว่าผมอยากให้น้อง ให้พี่อยู่ข้างหน้ากัน ผมอยู่ข้างหลังครับ แล้ววันหนึ่งผมต้องมาแบกภาระใหญ่โต ผมก็รู้สึกภูมิใจนะ ผมเป็นพระเอกแล้ว ผมหล่อมาก ผมแอบสู้โดยไม่มีใครรู้ ผมสู้กันอยู่กับพี่ถั่วแระกับทีมทนาย ดีใจครับ ที่ศาลท่านเห็น และเรามีหลักฐานพอ องค์กรของเรามีความพร้อมที่สุด เราทำได้ยิ่งใหญ่มากครับ”
ถั่วแระ เชิญยิ้ม : “ในนามของศิลปินตลก ซึ่งเป็นอดีตนายกสมาคม 6 สมัย 12 ปี อยู่ดูแลสมาคมมาโดยตลอด ด้วยภาระที่หนักหน่วง ประสบความสำเร็จบ้าง ไม่ประสบความสำเร็จบ้าง มันก็ถึงวาระเวลาที่ผมจะต้องถอนตัว หาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ที่ดีพอที่จะทำให้สมาคมของเราอยู่รอดได้ ก็ต้องถอนตัวออกมาตามกาลเวลาอันสมควร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันเป็นอะไรที่ส่อให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรม มันจำเป็นที่เราจะต้องสู้ หาความจริงให้ได้ เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อหรอกครับ ว่าผู้แต่งเพลงที่ชื่อว่า ฟ้าเมืองไทย จะมีความสามารถแต่งเพลงที่ใช้ราชาศัพท์ภายใน 2 นาทีได้ ในรถที่เขาขับ มือหนึ่งจับพวงมาลัย มือหนึ่งถือโทรศัพท์”
หยอง ลูกหยี : “ไปเอ่ยชื่อเขาทำไม เดี๋ยวเขาฟ้องอีกคดี นายกรับผิดชอบนะ”
ถั่วแระ เชิญยิ้ม : “ไม่เป็นไร เขาชื่อ ฟ้าเมืองไทย แต่ชื่อจริงชื่ออะไร เดี๋ยวทนายรับผิดชอบ ก็เหตุการณ์นี่แหละครับ เราก็เลยว่าทำอย่างไรดี ก็อย่างที่คุณหยองพูดไป ว่าผมควรจะไม่พูดอะไรมาก ก็อย่างว่า เดี๋ยวจะโดนเอาอีกสักรอบหนึ่ง ก็ไม่กล้า เพราะฉะนั้นสิ่งใดๆ ก็แล้วแต่ เราทำมาด้วยความเต็มใจ ทำมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา แล้วคนอื่นก็แต่งเพลงกันเยอะแยะไปหมด ในวันนั้น ในเวลานั้น แต่ทำไมสมาคมเราไม่คิดจะทำอะไรขึ้นมา ก็เลยเริ่มปรึกษากัน แล้วก็เป็นอย่างที่ท่านเห็นนี่แหละ ก่อนอื่นผมต้องกราบขอบคุณศาลที่เคารพอย่างสูง ที่มีความเมตตา ตัดสินด้วยความยุติธรรมมาก ให้เราได้ผ่านพ้นวิกฤตที่ร้ายแรงมาก เงิน 500 ล้านผมคงติดคุก ออกมานอกคุกไม่ได้เพราะหัวโต เหตุนี้ก็เลยต้องสู้กันไปให้ถึงที่สุด เกือบ 4 ปีนะครับ ที่เราคร่ำหวอดกันมา สมาชิกศิลปินตลกบางคนยังไม่รู้เรื่องเลย ว่าการที่มีสมาคมขึ้นมา มันต้องอดทน วิริยะ อุตสาหะ มากน้อยขนาดไหน สำหรับผู้บริหาร ก็อยากจะฝากให้สมาชิกทุกท่าน รักแล้วก็ให้กำลังใจกับผู้ที่ดูแลสมาคมด้วย ขอบคุณพี่ทนายทั้ง 3 ท่านครับ ที่สู้รบกันมาโดยตลอด ขอบคุณมากครับ”
ทนายมะลิพรรล : “ผมเป็นหนึ่งในทีมทนาย ที่ร่วมต่อสู้คดีนี้มาพร้อมกัน นอกจากผม 3 ท่านแล้ว ยังมีทนายอีก 2 ท่าน ที่ติดภารกิจไม่ได้มาในวันนี้ ตามที่พี่ถั่วแระกับพี่หยองได้กล่าวข้างต้น เรื่องของคดีมันมีที่มา สรุปความเป็นสาระสำคัญว่า เราถูกกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์งานเพลง ชื่อเพลง ทูลกระหม่อมแก้ว โดยเรียกค่าเสียหายมาประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งจำเลยทุกคนในคดีนี้ ประกอบด้วยสมาคม พี่ถั่วแระ พี่ปรีดา น้องบูม คุณสมชาย และจำเลยอื่นอีก 2 ท่าน ที่ผมไม่เอ่ยนาม การกล่าวหาของโจทก์ในคดีนี้ มีการกล่าวหาทั้งเรื่องเนื้อเพลง ทำนองเพลง โดยอ้างว่าเราทำบันทึกเทปวิดีโอ ที่สื่อมวลชนได้เห็นไปแล้วข้างต้น ในชั้นพิจารณาของศาล โจทก์ในคดีนี้ได้นำพยานหลักฐานทุกชนิดเข้าสืบ ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ ส่วนจำเลยก็เช่นเดียวกัน โต้แย้งให้การต่อสู้มาเสมอ ว่าเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ใช้โจทก์ในคดีนี้
นอกจากนี้ตัวจำเลยทั้งหมด โดยเฉพาะบนเวทีแห่งนี้ ได้นำพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของทุกๆ คน ว่าเพลงพิพาทดังกล่าวที่เกิดขึ้น เป็นเพลงของสมาคม โดยสมาคม และผู้แต่งเป็นหนึ่งในคณะตลก ที่ปรากฏอยู่ในสมาคมครับ ท้ายที่สุดเพลงดังกล่าว ในทางพิจารณาของศาล ศาลพิจารณาจากวัตถุพยาน โดยเฉพาะที่โจทก์เขากล่าวอ้าง ว่าเพลงดังกล่าวได้แต่งขึ้นภายใน 2-3 นาที โดยบันทึกไว้ในโทรศัพท์ แต่ในทางพิจารณา ตัวโจทก์ในคดีนี้ ไม่กล้าหรือไม่สามารถจะนำโทรศัพท์ ที่เขากล่าวอ้าง ว่าบันทึกเพลงดังกล่าวไว้ ไปตรวจพิสูจน์ ทำให้ศาลเชื่อเต็มประการหนึ่ง ว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ การกล่าวอ้างว่าเพลงดังกล่าวเป็นของโจทก์
ฉะนั้นในทางกฎหมาย ถ้าภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับโจทก์ เป็นการแสดงให้เห็น ว่าโจทก์ไม่ใช่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานเพลงดังกล่าวที่แท้จริง เมื่อประเด็นข้อวินิจฉัยเป็นอย่างนี้ โจทก์ในคดีนี้ จึงไม่สามารถจะพิสูจน์ภาระหน้าที่ ตามกฎหมายของตัวเองได้ ว่าโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ในขณะเดียวกัน ตัวจำเลยทั้งหมดได้นำพยานหลักฐานเข้าสืบ เพื่อหักล้างข้อสันนิษฐานและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ความปรากฏว่าพี่ปรีดา (ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก) ได้ส่งเอกสารเป็นลายมือเขียน ที่เป็นบทเพลงดังกล่าว พร้อมกับในวันทำสตูดิโอ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ความปรากฏว่าพี่ปรีดา ได้แต่งเพลงดังกล่าวจริง ข้อสนับสนุนหักล้างเพียงแค่นี้ เป็นข้อสาระสำคัญความหนึ่ง ตอนที่ว่าโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ และโจทก์เป็นผู้สร้างสรรค์จริงหรือไม่ สองประเด็นดังกล่าว จำเลยมีพยานหลักฐานครบถ้วน จึงทำให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญา มีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้
นี่คือความตอนที่เป็นสาระสำคัญอีกตอนหนึ่งครับ ที่ส่งสามารถเห็นเป็นประจักษ์ได้ ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ผ่านมา นอกจากนี้ในประการสุดท้าย รูปเรื่องของคดีนี้ มันหาใช่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 ไม่ แต่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2566 และมาจนถึงปัจจุบันนี้ เหตุไฉนว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 ล่ะ โจทก์ในคดีนี้ก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่สภอ.หนองขาม จังหวัดชลบุรี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า สมาคมก็ดี นายปรีดาก็ดี เป็นคนทำละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเอางานเพลงดังกล่าว ไปทำซ้ำเผยแพร่ต่อสาธารณชน ท้ายที่สุดแล้วเท่าที่จำได้ ตำรวจสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าว นั่นคือความเป็นมาของรูปเรื่องคดีทั้งหมด ในคดีนี้ที่เกิดขึ้น
ประการสุดท้ายในคดีนี้ จำเลยทุกคนไปศาล ไม่ได้ไปด้วยความมีความสุข แต่ไปศาลเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แสวงหาความบริสุทธิ์ เพื่อปกป้องตนเอง และที่สำคัญกว่านั้น คือเพื่อปกป้องสมาคม รักษาศักดิ์ศรีของสมาคมตลก ว่าสิ่งที่เราทำไปทั้งหมด ไม่ได้ลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง มาจากบุคคลใดทั้สิ้น ความยุติธรรมจึงบังเกิดขึ้น ผมในฐานะตัวแทนทนายความ ขอบคุณพี่ถั่วแระ พี่หยอง และสมาคม ณ เวลานี้ด้วยครับ”
รับงงมาก โจทก์ที่ฟ้อง 500 ล้านบาทเป็นใคร ทั้งที่ทำเพื่อถวายความอาลัย ไม่ได้มีรายได้เข้าสมาคม
หยอง ลูกหยี : “ผมบอกตรงๆ ว่าผมงงมาก ว่าผมสู้กับอะไรอยู่ เขามาจากไหน เขาเป็นใคร มันตลกสิ้นดี มันตลกที่ไม่ตลกเลย พี่ถั่วแระ ผม และทีมทนายเหนื่อยมาก ต้องต่อสู้ ต้องหาหลักฐานมาหักล้าง มันเกิดขึ้นได้ยังไง ทั้งๆ ที่สมาคมเรา ทำเพื่อถวายความอาลัย ถวายความจงรักภักดี เราไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ไม่มีรายได้ใดๆ เข้าสมาคมครับ มีแต่เสียนะครับ ลงทุนเสียเงินเสียทองทำ เขาฟ้องเพื่ออะไรผมก็งง ผมจะบอกว่าไม่จำเป็นต้องไปกล่าวอ้างถึงเขานะครับ ผมไม่ให้ค่าครับ วันนั้นเขายกมือขึ้นมาคัดค้านการตัดสินด้วยนะครับ”
ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก : “ก่อนอื่นต้องขอบคุณท่านทนายทั้ง 3 ท่าน ถ้าไม่ได้ความอนุเคราะห์จากท่านทั้ง 3 ผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมจะไปยังไง ชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ ไม่เคยขึ้นศาล ไม่เคยมีคดีความอะไร มีแต่ให้ความช่วยเหลือตลอด แต่พอโดนเขามาแบบนี้ปุ๊บ คนเราไม่เคยก็ทำอะไรไม่ถูก ก็ได้คุณทนายและคุณถั่วแระนี่แหละ แกเดินหน้าให้ตลอดเลย แกพูดมาคำหนึ่งผมซึ้ง พี่เปียไม่ต้องห่วง ผมอยู่ข้างพี่ ผมช่วยพี่ตลอด ผมก็เลยซึ้งใจ แต่ยังไงสมาคมศิลปินตลกต้องอยู่ต่อไป ถ้าตราบใดยังมีชื่อนายกโอบะ เสียงเหน่อ ขอบคุณครับ”
ลิขสิทธิ์เพลงนี้เป็นของ “ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก” และสมาคมศิลปินตลกแห่งชาติ
ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก : “ครับ แต่งเองครับ ใช้เวลา 3 วัน แต่งเพื่อถวายความอาลัยรัชกาลที่ ๙ ทีแรกไม่ได้คิดจะแต่ง แต่ท่านนายกถั่วแระเป็นคนดำริมา ว่าสมาคมอื่นๆ เขาแต่งเพลงถวายความอาลัยกัน แล้วทำไมสมาคมเราไม่ทำ ก็เลยโทร.บอกให้ผมแต่ง ที่จริงเพลงมันยาวกว่านี้อีก แต่นายกถั่วแระให้ตัดออก เลยออกมาตามที่เห็น มีเอกสารยืนยันถูกต้องครับว่าเป็นผู้แต่ง ผมแต่งในสมุด เขียนแล้วแก้ๆ มันมีคำที่ผิดเยอะ พวกคำราชาศัพท์แต่งลำบากครับ”
ทนายมะลิพรรล : “ผมขอเสริมประเด็นของพี่ปรีดา ว่ามีหลักฐานชิ้นไหน ประการใดบ้าง ที่บ่งชี้ให้เห็นเป็นประจักษ์ ว่าพี่ปรีดาเป็นคนแต่งเพลงดังกล่าว โดยเอกสารดังกล่าวที่พี่ปรีดาพูดถึงนั้น ทีมทนายทุกท่านได้นำเสนอส่งศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เชื่อ ว่าพี่ปรีดาเป็นคนแต่งเพลงดังกล่าว ให้กับสมาคมจริง”
ทองเปีย ซุปเปอร์โจ๊ก : “เพลงนี้จริงๆ ไม่มีลิขสิทธิ์นะครับ เพราะเป็นเพลงถวายความอาลัย คือประชาชนทั่วไปสามารถนำไปเผยแพร่ได้หมด สมาคมไม่ได้จดลิขสิทธิ์ครับ”
โอบะ เสียงเหน่อ : “คือต้องบอกว่าเป็นการจัดสร้าง ของสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย ในยุคของท่านถั่วแระ เป็นรอยต่อของนายกถั่วแระกับพี่หยอง แต่เราไม่ได้จดลิขสิทธิ์ ว่าห้ามบุคคลใดเอาไปร้อง เพราะถือว่าเป็นการทำเพื่อพระราชกุศล ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙”
หยอง ลูกหยี : “เราโดนฟ้องทั้งหมด 7 คน มีอีก 2 พ่อลูกน่าเห็นใจมาก ที่ถูกกล่าวหาว่านำเพลงนี้มาให้กับสมาคม เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน ทั้งที่เขาอยู่จังหวัดชลบุรีโน่น เขาก็มาขึ้นศาลกับเราตลอด แต่เขาหาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ อยู่บนศาลผมก็บอก ว่าคุณร้องเพลงใส่โทรศัพท์ คุณแต่งเพลงนี้ใช้เวลาแต่งแค่ 2 นาที คุณไม่ใช่คนแล้วครับ คุณเป็นเทวดาแน่นอน”
ทนายมะลิพรรล : “ผมขอเพิ่มเติมสนับสนุนข้อเท็จจริง ที่พี่ปรีดาและนายกโอบะพูด ในปัญหาข้อกฎหมาย เพลงดังกล่าวเป็นงานเพลงที่มีลิขสิทธิ์ ไม่ใช่เพลงที่ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะเป็นคนคิดสร้างสรรค์ทำนองเพลงดังกล่าว ด้วยความคิดริเริ่มของนายปรีดาเอง แล้วนายปรีดานำเพลงดังกล่าวมาให้กับสมาคม ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้เพลงดังกล่าว เป็นงานลิขสิทธิ์โดยสมาคม แต่ไม่หวงห้ามที่จะให้บุคคลทั่วไปหรือสาธารณชน นำไปเพื่อเผยแพร่ตามวัตถุประสงค์ นอกจากนี้การจดแจ้งความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ก็ดี ในเรื่องดังกล่าวนี้ พรบ.ลิขสิทธิ์ไม่ได้ห้าม ว่าต้องไปจดแจ้ง หากไม่จดแจ้ง ไม่เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ ขอเรียนย้อนหลังเพื่อให้เข้าใจตรงกันในปัญหาข้อกฎหมายครับ”
ถั่วแระ เชิญยิ้ม : “ขอเชิญพี่สมชายครับ หลักฐานที่เราชนะส่วนหนึ่ง คือหลักฐานของอาจารย์สมชาย เทียนชัย วันที่เราไปอัดเนี่ย ท่านได้เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ มันเป็นหลักฐานสำคัญมาก มันแจ้งวันเวลา การแก้ไข ทั้งอักษรและสำเนียง ท่านเก็บไว้หมด เราก็เลยให้อาจารย์สมชาย เป็นไพ่ใบสุดท้าย ที่นำไปสู้กับเขา เลยถือว่าอาจารย์สมชายได้ข้อมูลที่สามารถอ้างอิงให้กับศาล เราถึงได้ถูกยกฟ้องครับ”
คาดจากประสบการณ์ที่เจอโจทก์มา คิดว่าเขาจะสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์แน่นอน
หยอง ลูกหยี : “ผมคาดว่านะ เขาจะกล้าหรือไม่กล้าก็แล้วแต่เขา แต่พอศาลยกฟ้องเสร็จ เขายกมือคัดค้าน ว่าขอคัดค้านการตัดสิน ฉะนั้นแล้วเราไม่มีอะไรจะปฏิเสธ เขามาเราก็ไป เราก็ต้องปกป้องเพื่อศักดิ์ศรีของสมาคมของเรา ทุกขั้นตอนที่เราทำ มันไม่ได้ทำง่ายๆ นะครับ คนในองค์กรของเราเทใจมาทำกัน โชคดีที่อาจารย์สมชายเก็บรายละเอียดไว้ พวกเราตั้งใจทำกันขนาดนี้ คุณเป็นใครมาจากไหน จะมาฟ้องพวกเราง่ายๆ มันก็ยากอยู่นะ เราก็ต้องปกป้ององค์ของเราครับ”
ทนายมะลิพรรล : “ถ้าตอบให้ตรงประเด็น ว่าโจทก์จะใช้สิทธิ์ทางศาล ในการอุทธรณ์ต่อไปอีกหรือไม่ โดยบริบทและประสบการณ์ ที่อยู่กับโจทก์ในคดีนี้มาตั้งแต่ปี 2563 - 2566 ทำให้มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า โจทก์น่าจะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายที่จะอุทธรณ์แน่นอนครับ”
หยอง ลูกหยี : “ผมว่าเขาสู้เพื่อให้รอดพ้นมากกว่า ตัวเขาเองก็หนีศาลอยู่หลายที่ ผมไม่แคร์หรอกครับ ฟ้าเมืองไทย คือหนังสือฉบับหนึ่ง ในอดีตวัยรุ่นผมเคยอ่าน ไม่ใช่นามปากกาของผู้ใดครับ ผมจะบอกให้รู้ ผมอยู่วงการบันเทิง อยู่วงการลูกทุ่งมา 30 กว่าปี ผมรู้ครับ นักแต่งในประเทศไทยผมรู้จักหมดครับ”
เรื่องการฟ้องกลับ ต้องไปปรึกษากันอีกที โดยพิจารณาจาก 2 ประเด็น ว่าเกิดประโยชน์กับสมาคม และสาธารณชนหรือไม่
ทนายมะลิพรรล : “จริงอยู่ที่มีความเสียหายเกิดขึ้น แล้วความเสียหายมันไม่สามารถจะลบล้างด้วยคำพิพากษา เพราะมันเป็นความเสียหายที่ผ่านมาในอดีต ส่วนประเด็นว่าสมควรจะฟ้องโจทก์ในคดีนี้อีกหรือไม่ ในเรื่องดังกล่าวโดยสมาคม ก็จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับทนายอีกที ว่าการฟ้องร้องกลับ มันทำให้เกิดประโยชน์กับสมาคมหรือไม่ หรือเกิดประโยชน์กับสาธารณชนหรือไม่ หาก 2 ประเด็นนี้มันไม่เกิด จริงอยู่ถึงแม้มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ด้วยความเคารพ ก็ไม่สมควรจะฟ้องเป็นคดีความขึ้นมา แต่สาระสำคัญพิจารณา 2 ประเด็นเป็นเรื่องหลักครับ”
หยอง ลูกหยี : “จริงๆ แล้วเราก็ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมต่อ ฟ้องแล้วจะได้อะไร เสียเวลาเปล่าๆ พูดแบบชาวบ้านนะ”
บูม ชญาภา : “ตอนที่รู้ว่าโดนฟ้องก็ตกใจค่ะ แต่ก็พยายามสืบดูว่าเขาเป็นใคร พอได้ข้อมูลก็ปรึกษากับทางลุงถั่วแระ ทางลุงเปีย เพราะหนูเชื่ออยู่แล้ว ว่าลุงเปียเป็นคนแต่ง ก่อนหน้านี้ก็เคยร่วมงานในเพลงที่ลุงเปียแต่งอยู่แล้ว ด้วยหลักฐานต่างๆ เราเชื่อว่าเราสู้ได้ เราไม่แพ้แน่นอนค่ะ หาหลักฐานเยอะเหมือนกัน กลัวค่ะ ไม่มีตังค์ (หัวเราะ)”
ทางโจทก์มีหลักฐานมากล่าวอ้าง 3 อย่าง แต่น้ำหนักไม่น่าเชื่อถือ
ทนายมะลิพรรล : “มีคำกล่าวอ้าง ไม่มีโทรศัพท์มาให้ดูครับ นอกจากพยานหลักฐานดังกล่าว โจทก์มีพยานบุคคลอีกสองคน ซึ่งพยานบุคคลทั้งสองท่านนั้น ความหนึ่งในคำพิพากษา กล่าวว่าเป็นพี่น้องกัน ทำให้น้ำหนักการรับฟังพยานบุคคลมีน้ำหนักน้อย นอกจากนี้โจทก์ก็ยังมีพยานเอกสารอื่นๆ และพยานวัตถุที่นำส่งอีกหลายประการ ฉะนั้นพยานบุคคลก็ดี พยานวัตถุก็ดี พยานเอกสารก็ดี ทั้ง 3 อย่างนี้มันทำให้ไม่น่าเชื่อถือ เป็นข้อสนับสนุนว่า โจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การเพลงดังกล่าวจริงหรือไม่”
เผยอยากยุติ ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมต่อ
หยอง ลูกหยี : “ไม่หรอกครับ จริงๆ เราได้เปรียบด้วยซ้ำที่เราจะเอากลับ แต่เราไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม แล้วก็กลัวไม่ได้อะไรด้วย อยากยุติครับ (เขามีอาชีพเป็นนักแต่งเพลงไหม?) ไม่ครับ ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก และเขาก็ฟ้องมาหลายคนแล้วด้วย แล้วก็ไม่เคยชนะใครด้วย ฟ้องในรูปแบบเดียวกันเลย ครูสลา คุณวุฒิก็โดน เพลงประกอบละครก็โดน”