Friday, 18 April 2025
สมบูรณาญาสิทธิราชย์

อดีตบิ๊กข่าวกรองฯ เตือน '3 นิ้ว' สำเหนียกให้ดี! ชี้ ถ้าเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์จริง โดนกุดหัวแล้ว

15 พ.ย. 64 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เหิมเกริม แถลงการณ์ของม็อบร้อยชื่อ เปิดเผยตัวตนชัดเจน ไม่ได้ต้องการขับไล่รัฐบาล แต่ต้องการต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ม็อบพวกนี้ตกเป็นทาสความเพ้อเจ้อของปิยะบุตร ที่ใช้คำว่า สมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลง มีคนท้าออกทีวีก็หนี

วันนี้ม็อบหันมาใช้คำว่าระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อ้างว่ามีพระราชอำนาจเพิ่มขึ้น ทำให้ถอยห่างออกจากประชาธิปไตย

‘ชาญวิทย์’ เผย!! นัยแห่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พร้อมยกตัวอย่างหากไทยต้องหวนกลับคืน = ? 

นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…

To return to ancient Absolute Monarchy time means การต้องกลับไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นั้น หมายถึงว่า... 

1.) กลับไปสู่ยุค ปลายสมัย ร. 5 คือ ประมาณ “การปฏิรูป” พ.ศ. 2435 ซึ่งเป็นยุคสูงสุดของพระราชอำนาจกษัตริย์ไทยเป็นครั้งแรก และเป็นการรวมอำนาจที่ศูนย์กลางที่องค์กษัตริย์อย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสมัยสุโขทัย ล้านนา อยุธยา ธนบุรี หรือต้นรัตนโกสินทร์ 

2.) แต่จะตกต่ำ เสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็ว ในสมัย ร. 6 ที่เกิดการกบฏ/ปฏิวัติ ร.ศ. 130 หรือที่เรียกกันว่า “กบฏหมอเหล็ง” ของบรรดานายทหารหนุ่ม ๆ จากโรงเรียนนายร้อยทหารบก  

เพจดัง ชี้!! 'สยามซอฟต์พาวเวอร์' ระบือไกล ทัชใจคนทั่วโลกใต้รัฐบาล 'สมบูรณาญาสิทธิราชย์'

(12 พ.ย.66) จากเพจ 'ฤๅ - Lue History' ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...

ในยุคที่ซอฟต์พาวเวอร์กลายมาเป็นความนิยมแห่งยุคสมัยปัจจุบัน ทว่าจะมีกี่คนรู้ว่าความจริงแล้ว สยามเราได้เริ่มใช้ ซอฟต์พาวเวอร์ในแบบสยาม มาตั้งแต่ครั้งสมบูรณาญาสิทธิราชย์แล้ว และที่สำคัญซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ชั่นสยามนั้น ยังมีความหลากหลายและพิเศษชนิดที่สร้างความตราตรึงให้แก่ชนผิวขาวได้ตั้งแต่เพียงครั้งแรก ๆ ที่เราเข้าร่วมงาน

ซึ่งนั่นก็ตั้งแต่ประมาณร้อยกว่าปีก่อนแล้ว

โดยซอฟต์พาวเวอร์สยามที่ว่านั้น เริ่มจากการเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้าในลักษณะ Exhibition ที่เริ่มโดยประเทศจักรวรรดินิยมตั้งแต่ในราว ค.ศ. 19 เพื่อสำแดงให้โลกเห็นว่าตนได้เข้าไปครอบครองดินแดนและทรัพยากรพื้นเมืองของชนชาติต่าง ๆ ที่หลากหลายได้มากมายเท่าไร ผ่านการแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่ตนผลิตได้จาการครอบครองทรัพยากรในดินแดนอาณานิคมมาจัดแสดงไว้ด้วย แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ มีกระทั่งการนำเอาชนพื้นเมืองมาจำลองชีวิตในพื้นที่จำกัดคล้ายกับสวนสัตว์มนุษย์

สยามเองในเวลานั้นแม้จะเป็นเพียงชาติเล็ก ๆ แต่ก็เคยได้มีบทบาทในการนำสินค้าและความเป็นสยามเข้ามาจัดแสดงให้เป็นที่รับรู้ของชาวโลก เป็นครั้งแรกเริ่มตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2419 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา และเพราะสยามหาได้เคยเป็นดินแดนอาณานิคม ดังนั้นการจัดพื้นที่แสดง ‘สินค้าสยาม’ จึงกระทำในฐานะประเทศเอกราชจากตะวันออกไกล ที่แม้อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าฝรั่งผิวขาว แต่สยามก็มีศักดิ์ศรีพอที่ไม่ต้องถูกฝรั่งจำลองทำเป็นพื้นที่ ‘สวนสัตว์มนุษย์’ เช่นที่เพื่อนบ้านรอบ ๆ ของเราโดนเจ้าอาณานิคมของตนกระทำ

สำหรับไอคอนที่ทำให้ชาวต่างชาติเห็นถึงความเป็นสยามได้ตั้งแต่ไกลลิบ ๆ ในทุกครั้งที่เข้าร่วมงานจนถึงปัจจุบันก็คือการตั้งอยู่ของ ‘ศาลาสยาม’ อาคารที่ก่อสร้างเป็นทรงไทยตั้งตระหง่านที่ดูผิดแปลกกับอาคารทรงตะวันตกที่อยู่แบบทื่อ ๆ และพบได้เกลื่อนกลาดจนเป็นที่ชินตาของชาวยุโรปทั่วไป ในส่วนของสินค้าสยามที่คัดเลือกส่งไปนั้น มีทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าว ไม้ หัวโขน เครื่องมือเกษตร เครื่องดนตรี บ้าน และวัดจำลอง แต่ที่เป็นที่ ‘ฮือฮา’ ที่สุดก็คือเครื่องราชูปโภคจำลองที่ทำด้วยเงินอย่างดีทั้งชุด นับแต่นั้นประเทศสยามมักได้รับการทาบทามให้ไปจัดแสดงสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกต่อเนื่องมาอีกหลายครั้ง จึงไม่เกินจริงไปนักที่จะกล่าวว่า สินค้าสยามโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานฝีมือชั้นสูงคงจะเป็นที่ถูกอกถูกใจฝรั่งเอามาก เพราะมีทั้งความยูนีคและลวดลายฝีมือที่แตกต่างกับงานฝีมือจากโลกตะวันตก นี่จึงนับเป็นมรดกของ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ที่ดำริโดยรัฐบาลสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ยังดำรงสืบมาจนถึงปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่าซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานานแล้ว ชาวต่างประเทศก็รู้จักประเทศของเราผ่านสินค้าที่สำแดงความเป็นเราได้อย่างชัดเจนและชื่นชอบโดยไม่ต้องมีการบีบบังคับแต่อย่างใด อาจเพราะซอฟต์พาวเวอร์ของไทยเป็นสิ่งที่จับต้องได้ มีเอกลักษณ์ชัดเจน และเป็นมรดกวัฒนธรรมที่นานาชาติต่างให้การยอมรับมาเป็นระยะเวลาหลายชั่วอายุคนจวบจนปัจจุบัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top