Monday, 28 April 2025
สนธิญาณชื่นฤทัยในธรรม

'สนธิญาณ' ส่งสารถึงกลุ่มก๊วนเครื่องมือให้กับพวกต่างชาติ  ขอให้คิดดีๆ!! ใครก่อความวุ่นวายหนนี้ เจอกันหลังเลือกตั้ง

(9 พ.ค. 66) นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นักธุรกิจด้านสื่อสารและนักเคลื่อนไหวการเมือง ได้โพสต์คลิปติ๊กต๊อกพูดคุยประเด็นเรื่อง 'การก่อความวุ่นวายในสังคมไทย' ว่า...

"ผมออกความเห็นทางการเมืองนอกจากรายการชัดครบจบจริงในท็อปนิวส์มานาน เหตุผลเพราะเบื่อหน่ายนักการเมืองและรัฐบาลที่ไม่ได้เห็นปัญหาว่าประเทศเราถูกคุกคามจากชาติมหาอำนาจ โดยมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนผ่านพรรคการเมืองที่มาปั่นหัวเด็กและเยาวชน

"ผมพยายามจะสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ไปว่า จะต้องพลิกกลับมาเรียนประวัติศาสตร์ ตามที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงมีพระราชดำรัสไว้ รวมทั้งจะต้องมีการศึกษาถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ได้สร้างให้กับสังคมไทยอย่างลึกซึ้งในพระองค์ที่สำคัญๆ และทำให้ประเทศของเราเข้มแข็งยืนยาวอย่างเป็นเอกราชมาได้จนถึงปัจจุบัน"

นายสนธิญาณ กล่าวต่อว่า "แต่ที่ผ่านมาเรื่องนี้ไม่เคยได้รับความสนใจ นักการเมืองก็เอาแต่แสวงหาผลประโยชน์ เพื่อนำพาไปสู่การเลือกตั้ง แล้วก็จะวนรอบในวงจรอุบาทว์กลับมามีอำนาจกันใหม่ 

"วันนี้ชัดเจนครับว่าประเทศชาติของเราแตกออกเป็น 2 ฝั่ง อย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งอาจจะเรียกว่าพวกอนุรักษ์นิยมหรือกลุ่มผู้สูงวัยที่จงรักภักดีในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกส่วนหนึ่งก็คือผู้ที่ประกาศตัวเองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ต้องการการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับคนทำงานหนุ่มสาวไปจนถึงนิสิตนักศึกษาในมหาลัยไปถึงเด็กนักเรียนในระดับมัธยม ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองอย่างธรรมชาติ แต่เป็นการสร้างหลักฐานกระบวนการเท็จขึ้นมาและใช้เครื่องมือในการสื่อสารในยุคนี้กระจายไปถึงผู้คน"

นายสนธิญาณ กล่าวต่ออีกว่า "ผมจะเรียนว่าในสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามในแบบหรือสงครามปฏิวัติ ชัยชนะที่แท้จริง จะต้องเกิดขึ้นจากพลังของข่าวสารและการสื่อสารไม่ใช่การใช้อาวุธ อาวุธเป็นเพียงแต่องค์ประกอบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังเราจะเห็น...ไม่ว่าจะเป็นการปลุกระดมผู้คนของฮิตเลอร์ในเยอรมันจะต้องผ่านภาพยนตร์ ซึ่งนั่นก็คือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้น ในสหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน ในญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน 

"วันนี้การสื่อสารทันสมัยยิ่งขึ้นการนำพาข่าวสารไปให้ถึงผู้รับสารเป็นไปอย่างรวดเร็วแทบกระพริบตา สามารถกระจายได้เป็นล้านๆ ภายในไม่กี่นาที ปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงนำพาไปสู่การปลุกเร้า ข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนไปถึงผู้รับสารซึ่งหมายถึงคนหนุ่มสาว นิสิต นักศึกษา และนักเรียน...รัฐบาลที่มีอำนาจและนักการเมืองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนนั้นมุ่งไปสู่การโจมตีสถานบันพระมหากษัตริย์ แต่เราไม่ได้รับการเอาใจใส่แต่อย่างใดที่จะแก้ไขปัญหา เอาแต่แก้ไขปัญหาเป็นอย่างฉาบฉวย

"เพราะอะไรรู้ไหมครับ? เพราะรัฐบาลและนักการเมืองไม่ได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริง ว่าปัญหาเหล่านี้จะนำความหายนะมาสู่บ้านเมืองของเรา สหรัฐอเมริกาต้องการให้เราอยู่ข้างเขา ถ้าไม่อยู่ข้างเขาก็ต้องทำลายเสีย เพื่อไม่ให้อีกฝั่งอีกฝ่าย คือ จีนกับรัสเซียมาใช้ประโยชน์

"ลองคิดดูนะครับที่ฟิลิปปินส์ในสมัยประธานาธิบดีคนก่อนดูแตร์เตประกาศไม่เอาสหรัฐอเมริกา ดูแตร์เตหมดอำนาจลงไป ประธานาธิบดีคนใหม่ประกาศให้จัดตั้งฐานทัพขึ้น 4 แห่ง 

"ส่วนในไทยเคยผิดหวังในการที่จะกลับมาใช้สนามบินอู่ตะเภาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะกองทัพไม่เอาด้วย แต่ถ้าวันนี้อีกฝั่งอีกฝ่ายหนึ่งเกิดชนะการเลือกตั้งแน่นอนครับประเทศจะถูกเอียงไปทางสหรัฐอเมริกาและตะวันตกในทันที"

นายสนธิญาณ กล่าวถึงจุดแข็งของรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยว่า "ในขณะที่ผ่านมาข้อดีข้อรัฐบาลไทยก็คือ การประคับประคองสถานการณ์เหมือนกับที่ผู้นำชาติเราในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพระมหากษัตริย์หรือนายกรัฐมนตรีในยุคก่อนๆ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มาจนถึงสมัยยุคคอมมิวนิสต์นั้น สามารถประคับประคองสถานการณ์ของประเทศให้รอดพ้นไปได้ 

นายสนธิญาณ กล่าวถึงการเตรียมก่อความวุ่นวายของฝ่ายพ่ายแพ้ด้วยว่า "ดังนั้นที่บอกว่าถ้าไม่ชนะก็จะต้องทำลาย ผ่านการออกมาประกาศว่าจะแลนด์สไลด์ของพรรคส้มบ้าง พรรคแดงบ้าง โดยเฉพาะพรรคส้มที่สร้างโพลล์สร้างกระแสในโลกโซเชียลขึ้น แล้วถ้าไม่แลนด์สไลด์ตามที่พูด ก็ประกาศไว้ล่วงหน้าแล้วว่า "เพราะจะมีการโกงเลือกตั้ง?" แบบนี้หมายความว่าไง? หมายความว่า นั่นคือการสร้างประเด็นเงื่อนไขไว้เพื่อเตรียมที่จะก่อความวุ่นวายขึ้นหลังการเมืองหรือไม่?

"ที่ผมออกมาพูดวันนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า หากคุณก่อความวุ่นวาย ก็จะได้เจอดีกัน ผมอยากให้ลองไปศึกษาประวัติศาสตร์ของนักศึกษาเมียนมาที่เคยก่อเหตุมาแล้วเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ท้ายที่สุดแตกพ่าย หนีกระเซอะกระเซิงมาพึ่งพิงในประเทศไทยและไปศึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาให้ดีๆ ด้วย

‘สส. ปุ้ย พิมพ์ภัทรา’ ย้ำ “ทำหน้าที่ เจ้าบ้านที่ดี” หลังถูก ‘สนธิญาณ’ โพสต์โจมตี ด้านอินฟลูฯ เดือด! อัดคลิปแจงแทน

(3 มี.ค. 68) จากกรณีนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย อดีตแกนนำ กปปส. ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ‘สนธิญาณ story’ กรณีปรากฏภาพ สส.ปุ้ย นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส. นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ ยกมือไหว้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในงานทำบุญที่อ.สิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุข้อความว่า อุดมการณ์ กปปส. รวมไทยสร้างชาติ เลขาพรรค เป็น พยาน คดี ๑๑๒ ส.ส.อดีตรัฐมนตรี ไหว้ทักษิณ อย่างนอบน้อม

ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย - ไม่เหมาะสม แต่บางส่วนก็มองว่า สส.ปุ้ย อยู่ในฐานะเจ้าบ้าน และปัจจุบัน พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ อีกทั้งตัว สส.ปุ้ยเอง ก็เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด

ขณะที่ ทางด้าน นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ทำหน้าที่ เจ้าบ้านที่ดี

นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้ Tiktok ชื่อบัญชี djchangtiktok ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมโพสต์คลิปบรรยากาศช่วงที่ สส.ปุ้ย ซึ่งถูกนายนัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เรียกหา เพื่อขึ้นเวทีมาทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมในงานบุญ เมื่อขึ้นมาถึง สส.ปุ้ย ก็ได้ยกมือไหว้ซ้ายทีขวาที แต่ทางด้านซ้ายมีนายทักษิณ ยืนอยู่พอดี และก็มีการยกมือรับไหว้ ทำให้เกิดการนำภาพนิ่งไปปั่นกระแสจนเป็นประเด็นขึ้นมา โดยเจ้าของบัญชี djchangtiktok ยังได้กล่าวด้วยว่า มีคนพยายามนำภาพดังกล่าวไปสร้างกระแสเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดในตัว สส. ปุ้ย พร้อมกล่าวถึงคนที่พยายามทำเรื่องนี้ว่า ให้นำความจริงไปทำคอนเทนต์ อย่านำเรื่องที่ไม่จริงไปปั่นกระแส เพราะคนเค้ากินข้าวไปไม่ได้กินหญ้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top