Friday, 25 April 2025
สถาบันเอฟเคไอไอไทยแลนด์

'อลงกรณ์' เปิดตัว 'เอฟเคไอไอ.' ดันไทยสู่มหาอำนาจอาหารโลก ผนึก 'หอการค้า-สภาอุตสาหกรรมฯ' ขับเคลื่อนนวัตกรรมพลิกโฉมประเทศ

“…เราต้องกำหนดเกมและนำประเทศเข้าสู่สนามแข่งที่เราเก่งมีศักยภาพ นั่นคือเกษตรและอาหาร… “
อลงกรณ์….

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์ เปิดเผยวันนี้ (27 มิ.ย.67) ว่า 

สถาบันเอฟเคไอไอ ไทยแลนด์ (FKII Thailand) ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วและจะเป็นหนึ่งการงัด อัปเกรดประเทศไทยสู่มหาอำนาจอาหารโลกโดยนวัตกรรม เทคโนโลยีและการวิจัยด้วยแพลตฟอร์มความร่วมมือกับทุกภาคีภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารเป็นอันดับ 12 ของโลก และเป้าหมายต่อไปคือการก้าวสู่ท็อปเทนเพื่อเป็นมหาอำนาจอาหารของโลก โดยสถาบันเอฟเคไอไอ.องค์กรเครือข่ายนวัตกรรมพร้อมจับมือกับหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาเอสเอ็มอี. องค์กรเอกชน องค์กรเกษตรกร ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) สถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐพัฒนาอาหารและเกษตรมูลค่าสูง ยกระดับรายได้ของเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพิ่มจีดีพี.ของประเทศด้วยขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพใหม่ของประเทศ ซึ่งในเฟสแรกของการทำงานเอฟเคไอไอ.จะโฟกัสกิจกรรมส่งเสริมต่อยอดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร อาหาร อีคอมเมิร์ซ ไครเมทเทค เอไอและดิจิตอล เทคโนโลยีภายใต้ 12 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตและแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เศรษฐกิจคาร์บอน (Carbon Economy) เศรษฐกิจนวัตกรรม (Innovation Economy)และ เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เพื่อตอบโจทย์อนาคตทั้งโอกาสและภัยคุกคามเช่นภาวะโลกรวนโลกร้อนทะเลเดือด ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร การเพิ่มของประชากรและสังคมสูงวัย ประเด็นเอไอ.-เทคโนโลยี ดิสรัปชั่น สงครามและความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ ผมเชื่อว่า โอกาสมีอยู่ในทุกวิกฤติและหนึ่งในโอกาสของประเทศไทยคือภาคเกษตรและอาหาร เราต้องกำหนดเกมและนำประเทศเข้าสู่สนามแข่งที่เราเก่งมีศักยภาพ “

ทั้งนี้ในงานเปิดตัวสถาบันเอฟเคไอไอ.เมื่อวานนี้ที่หอประขุมสวนเสียงไผ่ ทาวน์อินทาวน์มีการปาฐกถาและบรรยายพิเศษเช่น หัวข้อ : FKII กับ เศรษฐกิจนวัตกรรมสู่การอัพเกรดประเทศไทยโดยอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
หัวข้อ : นวัตกรรมอุตสาหกรรมเพื่อการรับมือความท้าทายของโลกยุคใหม่
โดยนายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ
รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

หัวข้อ : ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทยกับโอกาสในโลกยุคใหม่ 
โดยดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ 
รองประธานหอการค้าไทย
และนายธรรศ ทังสมบัติ
รองประธานหอการค้าไทย

หัวข้อ : Innovation ใน carbon credit สำหรับประเทศไทย 
โดย นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ 
นายกสมาคมธุรกิจไม้

หัวข้อ : สถานการณ์ล่าสุด ความท้าทาย และ ทางออกของ AI eCommerce ไทย 
โดยนายภาวัต พุฒิดาวัฒน์ 
ประธานกรรมการบริหารบริษัท GoShip จํากัด

หัวข้อ : Value Chain ของการสร้างเกษตรมูลค่าสูงสู่ตลาดโลก
โดยนส.ภัททดา สามัคคี 
กรรมการผู้จัดการบริษัท PDI Trading จํากัด อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการพืชผักผลไม้ไทย

หัวข้อ : ข้อเสนอต่อก้าวใหม่ของานFKII
โดยนายกฤชฐา โภคาสถิตย์ 
เลขาณุการคณะทํางานฯ  FKII Thailand 

หัวข้อ : แผนการดําเนินงานของ FKII Thailandกับโจทย์อนาคตของโลกและของไทยโดยนายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ผู้อำนวยการสถาบันเอฟเคไอไอ.และ
ประธานสถาบันทิวา
โดย ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะที่ปรึกษาเอฟเคไอไอ.กล่าวสรุป
ถึงวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่และนวัตกรรม

นอกจากนี้มีผู้บริหารภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการภาคประชาสังคมและเกษตรกรกว่า120คนร่วมงานอย่าง คึกคักเช่น นพ.บุญเทียม เขมาภิรัตน์ อดีตรมช.คมนาคม ดร.เอกพร รักความสุข อดีตรมช.แรงงาน นายเกียรติ สิทธิอมร อดีตประธานผู้แทนการค้า ประเทศไทย ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัด กระทรวงการคลัง ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) ดร.เกษมสันต์ วีระกุล ประธานบริษัทSE-ED ม.ล สุภาพ ปราโมช สมาคมการค้าไทย-จีนและเศรษฐกิจเอเชีย พลเอก พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ นายกสมาคมภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ นายราม คุรุวาณิชย์ นักวิชาการอิสระและเซเลปTikTok ชื่อดังดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ที่ปรึกษาและอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร นายประพันธ์ บุณยเกียรติ อดีตประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย นาง ลักขณา นะวิโรจน์ ภัทรประสิทธิ์ ผู้บริหารกลุ่มบริษัทThe mall - ตลาดไท - กูรเมย์ นายมงคล เจริญสุข ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย ผศ.ดร.นิคม แหลมสัก รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม นายพรพล เอกอรรถพร อดีตผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจไม้ ประธานผลิตภัณฑ์ไม้ Asian อุปนายกสมาคมเครื่องเรือนไทย นายตฤณ วุ่นกลิ่นหอม นายกสมาคมดิจิตอลเทรด ดร.สุทัศน์  ครองชนม์  นายกสมาคมไทย IoT นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด อดีตคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ นายณฐกร สุวรรณธาดา อดีตกรรมการคณะกรรมการองค์การตลาดเพื่อการเกษตร นายสุเมฆ ปัณฑรานุวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย นายสานิตย์ จิตต์นุพงศ์ สำนักงานโครงการข้าวรักษ์โลก ฯลฯ

'อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.' เปิดเวที 'ก้าวต่อไปไทยแลนด์' เชิญ 'ท็อป-จิรายุส' เจาะลึกเทรนด์ใหม่ปัจจัยเสี่ยงจากการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก(WEF)

รายงานข่าวจากสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand) เปิดเผยวันนี้ว่า สถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand) ร่วมกับสถาบันทิวา(TIVA:Transformation Valley Institute) จัดงานเอฟเคไอไอ. ฟอรั่ม ในหัวข้อ “ก้าวต่อไปไทยแลนด์ เทรนด์ใหม่จากสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum 2025)“

โดยมีวิทยากรที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนประเด็นแนวโน้มโลกในมิติเศรษฐกิจการเมืองการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยีกับแนวทางการรับมือของประเทศไทย ได้แก่อดีตรัฐมนตรีอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII Thailandและอดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นายชยดิฐ หุตานุวัชร ประธานสถาบันทิวาและนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ท็อป-จิรายุส)ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดจะมาอินไซด์และตีโจทย์สาระสำคัญของการประชุมประจำปี 2025 ของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII Thailand)กล่าวว่า ฟอรัมนี้จะอัพเดทเทรนด์ของโลกปี2025ในมิติต่างๆและปัจจัยความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมกับประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นสงครามภาษีศุลกากร(Tariff War)ที่จะนำไปสู่สงครามการค้ารอบใหม่ สงครามเอไอ(AI War)ที่จะเปลี่ยนโลกแบบดิสรัปรุนแรงเหมือนที่อินเตอร์เน็ตเคยเปลี่ยนโลกมาแล้วพร้อมกับการเกิดสงครามเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายใหม่ที่มาเร็วและแรง

ภายใต้สถานการณ์ที่ยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามของภาวะโลกร้อนและโลกรวนรวมทั้งปัญหาภูมิเศรษฐศาสตร์ (Geoeconomics) และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์(Geopolitics)
สงครามสู้รบและการเผชิญหน้าในภูมิภาคต่างๆ 

คำถามที่ต้องร่วมกันหาคำตอบคือ ประเทศไทยจะมีทางออกอย่างไรและต้องปรับตัวรับมืออย่างไรทั้งในมุมของภัยคุกคามและโอกาสในวิกฤต  “เราช้าไม่ได้อีกแล้ว กระสุนนัดแรกถูกยิงออกมาแล้ว สัญญาณอันตรายที่WEFกังวลใจอย่างยิ่งคือกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐออกคำสั่งขึ้นภาษีศุลกากรทันทีที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 21 มกราคมที่ผ่านมาโดยหลายประเทศเริ่มตอบโต้สหรัฐเช่น แคนาดา เม็กซิโกและจีน

นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐยังสั่งให้ทีมเศรษฐกิจศึกษาเพื่อวางแผนการเรียกเก็บภาษีต่างตอบแทนหรือแบบตอบโต้ (Reprocical Tariff) กับประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐ โดยการบังคับใช้ภาษีอาจมีผลเร็วที่สุดวันที่ 1 เมษายนนี้ซึ่งประเทศไทยและอาเซียนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐ มีการคาดการณ์ว่าการค้าที่อิงกับกลุ่มภูมิรัฐศาสตร์อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกได้มากถึง 6.75 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 226 ล้านล้านบาท) นี่คือตัวอย่างของผลกระทบที่ประเทศไทยยากจะหลีกเลี่ยงและยังมีภาษีคาร์บอนหรือCBAMของอียูที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ย่อมส่งผลต่อการส่งออกของไทยโดยตรง เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องระดมวิสัยทัศน์ความรู้และประสบการณ์ของทุกภาคส่วนมาช่วยประเทศของเรา จึงขอเชิญมาร่วมแสดงความคิดเห็นและมุมมองในการสัมมนาของเอฟเคไอไอ. ในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 – 13.00 น. ณ TVA Hall สวนเสียงไผ่ ทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพมหานคร“

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด
ที่ LineOA FKII Thailand: https://lin.ee/BgPCPvd
ติดต่อสอบถาม คุณวรวุฒิ 091-1805459
ติดตาม FKII Thailand
Facebook : www.facebook.com/FKIIThailand
Youtube : www.youtube.com/@FKIITHAILAND
TikTok : www.tiktok.com/@fkiithailand
X : https://x.com/FKIITHAILAND
LineOA : https://lin.ee/BgPCPvd
Line Voom : https://shorturl.at/FdqZs


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top