ทูตสหรัฐฯ วอนรัสเซีย ‘อย่าเพิ่งสั่งปิดสถานทูตมะกัน’ ชี้!! 2 ชาติยังต้องคุยกัน แม้ความสัมพันธ์จะเลวร้าย
จอห์น เจ. ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมอสโก เรียกร้องรัฐบาลรัสเซียว่าอย่าได้สั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ เป็นอันขาด แม้วิกฤตการณ์ในยูเครนจะทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม พร้อมย้ำว่าอย่างไรเสีย 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลกยังจำเป็นต้องพูดคุยกัน
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เอ่ยถึงการส่งทหารรุกรานยูเครนว่าเป็น 'จุดเปลี่ยน' ในประวัติศาสตร์รัสเซีย และเป็นการปฏิวัติต่อต้านการครองความเป็นใหญ่ (Hegemony) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้นำเครมลินบอกว่าใช้อิทธิพลข่มเหงรัสเซียมาตลอดตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายเมื่อปี 1991
ฝ่ายยูเครน และบรรดารัฐตะวันตกที่ให้การสนับสนุนอ้างว่า นี่คือการต่อสู้เพื่อให้ยูเครนรอดพ้นจากแผนยึดดินแดนเยี่ยงนักล่าอาณานิคมซึ่งได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้วนับพันคน ทำให้ชาวยูเครนอีกกว่า 10 ล้านต้องพลัดถิ่นฐาน และทำให้เมืองต่าง ๆ ของยูเครนกลายสภาพเป็นที่ดินรกร้าง (Wasteland)
ซัลลิแวน ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS ว่า วอชิงตันและมอสโกไม่ควรจะตัดสัมพันธ์ทางการทูตกันง่าย ๆ
“เราจะต้องคงไว้ซึ่งความสามารถในการพูดคุยกันเสมอ” เขากล่าว
ทูตอเมริกันผู้นี้ยังฝากเตือนไปยังชาติตะวันตกว่าไม่ควรที่จะถอดหนังสือของ เลโอ ตอลสตอย (Leo Tolstoy) นักเขียนชาวรัสเซียออกจากชั้นวาง และไม่จำเป็นที่จะต้องปฏิเสธการบรรเลงเพลงของ 'ปิออตร์ ไชคอฟสกี' (Pyotr Tchaikovsky) ด้วย
อย่างไรก็ดี รัสเซียประกาศแล้วว่า “การเล่นเอาเถิดเจ้าล่อ” กับตะวันตกในยุคหลังสหภาพโซเวียตได้จบสิ้นลงแล้ว และหลังจากนี้มอสโกจะหันไปขยายความร่วมมือกับมิตรประเทศในซีกโลกตะวันออก
