Wednesday, 24 April 2024
สงครามโลกครั้งที่สอง

วันนี้เมื่อ 78 ปีก่อน โลกได้จารึกปฏิบัติการยกพลขึ้นบกครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตร เปิดฉากบุกยึดคืนฝรั่งเศส จากนาซี จนนำไปสู่การชนะศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ในที่สุด

6 มิถุนายน พ.ศ. 2487 วันดี เดย์ (D Day) เป็นวันที่ทหารกองกำลังสัมพันธมิตร 156,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารอเมริกัน อังกฤษ และแคนาดา ยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดีเพื่อเริ่มปฏิบัติการปลดปล่อยประเทศที่ถูกนาซียึดครอง จึงเรียกว่าวันดีเดย์ (D-Day) ย่อมาจาก Deliverance Day ถือเป็นปฏิบัติการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เฉพาะวันแรกวันเดียวมีทหารล้มตายถึง 4,400 นาย

ยุทธการนี้ใช้เรือถึง 7,000 ลำ ลำเลียงกำลังพล 156,000 นาย และยานพาหนะ 10,000 คัน ไปยังหาดทั้ง 5 แห่งตามแนวชายฝั่งนอร์มังดี รวมถึงมีการสนับสนุนกองกำลังทางอากาศและทางเรือซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเอาชัยชนะมาได้

แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 7 ทศวรรษแล้ว แต่ “การรบที่นอร์มังดี” (The Battle of Normandy) ยังเป็นมรดกของประวัติศาสตร์สงครามที่นักการทหารยังต้องเรียนรู้เสมอ อีกทั้งยังปรากฏในรูปของภาพยนตร์ให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน และอย่างน้อยก็ทำให้คนไทยคุ้นเคยกับคำว่า “ดี เดย์” นั่นเอง

6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมือง ฮิโรชิมะ ส่งผลญี่ปุ่นยอมแพ้ นำไปสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่สอง

ในช่วงเช้าของวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เครื่องบิน B-29 ของสหรัฐ อเมริกา ได้ปล่อยระเบิดปรมาณู อาวุธที่คิดค้นขึ้นใหม่ใส่พื้นที่ของเมืองฮิโรชิมะ ของญี่ปุ่น ทำลายเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง คร่าชีวิตผู้คนนับแสนคนในพริบตา ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมยุติสงครามในเวลาต่อมา

การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ เป็นการโจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ อเมริกา ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โดยคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แฮร์รี เอส. ทรูแมน เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม และวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488 หลังจากการโจมตีทิ้งระเบิดเพลิงตามเมืองต่าง ๆ 67 เมืองของญี่ปุ่นอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาติดต่อกันถึง 6 เดือน สหรัฐอเมริกาจึงได้ทิ้งระเบิดปรมาณู หรือที่เรียกในปัจจุบันว่าระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งมีชื่อเล่นเรียกว่า ลิตเติลบอย ใส่เมืองฮิโรชิมะในวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ตามด้วย ‘แฟตแมน’ ระเบิดปรมาณูลูกที่สองใส่เมืองนางาซากิ นับเป็นระเบิดนิวเคลียร์เพียง 2 ลูกเท่านั้นที่นำมาใช้ในประวัติศาสตร์การทำสงคราม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top