Sunday, 20 April 2025
ว่ายข้ามโขง

คนพื้นที่มองมุมต่าง 'โตโน่' ว่ายข้ามโขง ได้มากกว่าที่คิด งานใหญ่ยกระดับจังหวัด ที่ชาวนครพนมไม่มองว่าเป็น 'ภาระ'

(8 ต.ค. 65) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Warat Kasonrat' ซึ่งกล่าวว่าตนเป็นคนในพื้นที่จังหวัดนครพนม ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกิจกรรมการว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อช่วยการกุศลของ 'โตโน่' ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ไว้ว่า...

“ว่ายน้ำข้ามโขง”

ในความคิดของคนในพื้นที่ ละกันนะครับ 🙂

เราเห็นถึงความตั้งใจ ของโตโน่ มากๆ กับกิจกรรมการกุศลครั้งนี้

กระเเสดราม่าที่เกิดขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ทำให้หลายๆ คน รู้จักจังหวัดนครพนมมากขึ้น ว่ามันอยู่ตรงไหนของเเผนที่ประเทศไทย 

'เจ เจตริน' ภูมิใจแทน 'โตโน่-ทีมงาน' หลังยอดบริจาคถล่มทลายทะลุ 60 ลบ.

ภายหลังจากที่นักร้องหนุ่มโตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้ทำภารกิจว่ายน้ำข้ามโขงกับโครงการ 'One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้' เพื่อรวบรวมเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน ฝั่ง สปป.ลาว จนได้ยอดเงินไปมากกว่า 60 ล้านบาทแล้วในขณะนี้

ล่าสุดนักร้องดังรุ่นพี่ เจ-เจตริน วรรธนะสิน ก็ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่าก่อนหน้านี้หนุ่มโตโน่เคยมาปรึกษาถึงโครงการดังกล่าวตนจึงได้แนะนำทีมเรือและทีม Rescue ที่ดีที่สุด พร้อมเผยรู้สึกภูมิใจแทนนักร้องหนุ่มรุ่นน้องและทีมงานที่มีคนช่วยบริจาคมากมายขนาดนี้

“โตโน่เคยมาหาที่บ้าน และขอปรึกษาตั้งแต่โครงการแรก บอกว่าอยากว่ายข้ามอ่าวไทย ข้ามเกาะ เราได้ให้คำแนะนำจากประสบการณ์ทางน้ำทางทะเลกลับไปบ้าง เพราะเคยขี่เจ็ทสกีข้ามอ่าวไทย หรือ ขี่ข้ามเกาะมาพอควร เลยได้แนะนำทีมเรือและทีม Rescue ที่ดีที่สุด ที่โตโน่และทีมงานใช้อยู่ในปัจจุบัน ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจกับโน่และทีมงานมากๆ ที่ไม่ละความพยายามในการที่จะสร้างสถิติให้ตัวเอง เพื่อชนะใจตัวเอง และความตั้งใจที่ดี ที่จะสร้างกุศล หาหนทางที่จะหาเงินที่สามารถช่วยผู้ป่วยได้อีกมากมายหลายชีวิตทั้งคนไทยและคนลาว รู้สึกภูมิใจแทนโน่และทีมงานที่มีผู้มีจิตศรัทธาและน้ำใจจากคนไทยหลั่งไหลมาช่วยกันบริจาคมากมาย และ ผมคือหนึ่งในนั้น #onemanandtheriver #หนึ่งคนว่ายหลายคนให้ #ท่าแขก #นครพนม #คนไทยสามัคคีกัน #คิดดีทำดี #ไทย #ลาว #แม่น้ำโขง #จิตศรัทธา #ชนะใจตัวเอง”

นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช คุณหมอ นักร้อง และนักแสดง กล่าวถึงกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงของ 'โตโน่'

หลังจากกิจกรรม ‘หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ ที่ 'โตโน่' ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ว่ายข้ามน้ำโขงเพื่อขอรับบริจาคไปช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนมและโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว เสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ (22 ตุลาคม) กระแสพูดถึงก็ยังคงเหลืออยู่ โดยล่าสุด 'หมอริท' นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช คุณหมอ นักร้อง นักแสดง และรุ่นน้องคนสนิทของโตโน่ ก็ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ ว่า...

ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจและความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ

อย่างไรก็ตาม นพ.เรืองฤทธิ์ ก็ได้กล่าวอีกว่า ต่อให้โตโน่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1000 ล้าน หมอ พยาบาล เขาก็เหนื่อยเท่าเดิม

ระบบสุขภาพของประเทศไทย คือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรับ ซึ่งจริงๆ ดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ

ทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอน้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อย

ว่ายข้ามโขงจบ ดรามาไม่จบ ล่าสุด ‘ตุ้ม’ ปริญญา เจริญผล โพสต์หมอยังเหนื่อยต่อไป หากยังมีรปภ. เป็นกัปตันขับเครื่องบิน

จบลงไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับกิจกรรม ‘ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา โดย ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ ‘โตโน่ เดอะสตาร์’ ว่ายน้ำข้ามแม่โขงจากฝั่งไทยไปลาว และว่ายกลับ ระดมเงินบริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบให้แก่โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว โดยได้เงินบริจาคมากกว่า 60 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ตุลาคม)
 

ว่ายข้ามโขงจบ แต่ดราม่ายังไม่จบ หลังชาวเน็ตแห่โยง ‘หมอก้อง’ ฟาด ‘หมอริท’ พูดเพื่อ??? ใช่เวลาไหม ? หลังบอก ‘โตโน่’ ว่ายน้ำ 10 รอบ ได้เงินบริจาค 1,000 ล้าน หมอ-พยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม

ก่อนหน้านี้ ‘หมอริท’ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช หรือ ‘หมอริท เดอะสตาร์’ ได้แสดงความเห็น ถึง ‘โตโน่’ หลังภารกิจ ‘One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ ว่ายน้ำข้ามโขง ระยะทางไปกลับ 15 กิโลเมตร เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้ โรงพยาบาล ไทย-ลาว ว่า ‘ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจ และความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ

ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพยาบาลเขาเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุผลพวกนี้นะครับ (ไหน ๆ คนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว) 

1.ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1,000 ล้าน หมอ พยาบาล เขาก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรับ 
 
(ซึ่งจริงๆดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม 

ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอๆก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ 

2.พี่บอกว่าหมอพยาบาลเสี่ยง คำถามคือ แล้วใครปล่อยให้หมอพยาบาลทำงานภายใต้ความเสี่ยง? ถ้ารู้ว่าเขาทำงานแบบเสี่ยงอยู่ ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ แล้วถ้างบไม่พอจริงๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค? 

ส่วนตัวมองว่า การบริจาคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ที่มาหลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปในตัวด้วยครับ ถ้าพี่สื่อสารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเหตุสมควรมากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top