ยูเครนจับ 2 ทหารเกาหลีเหนือกลางเคิร์สก์ ท้าคิม-รัสเซียแลกตัวสะเทือนสงคราม
(13 ม.ค. 68) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนสามารถจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือจำนวน 2 นายในพื้นที่สู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ โดยทหารทั้งสองถูกนำตัวมายังกรุงเคียฟเพื่อสอบปากคำและให้ข้อมูลกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยูเครน (SBU)
“เชลยศึกทุกคน รวมถึงทหารเกาหลีเหนือทั้งสองนาย จะได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น” เซเลนสกีกล่าว พร้อมระบุว่าสื่อมวลชนจะได้รับโอกาสสัมภาษณ์พวกเขาในอนาคต
ทั้งนี้ ยูเครนระบุว่าทหารเกาหลีเหนือมีบทบาทสนับสนุนการสู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งยูเครนเริ่มการบุกโจมตีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และยังคงควบคุมพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรในบริเวณนี้
ทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งระบุว่าตนเกิดในปี 2548 และเข้าร่วมกองทัพเกาหลีเหนือในปี 2564 อีกนายหนึ่งเกิดในปี 2542 และเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่ปี 2559 โดยมีตำแหน่งเป็นพลซุ่มยิง พวกเขาอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าว่าจะต้องเข้าสู่สมรภูมิในยูเครน โดยผู้บังคับบัญชาบอกเพียงว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการฝึกยุทธวิธี
หนึ่งในทหารกล่าวว่า ต้องการกลับเกาหลีเหนือ ขณะที่อีกนายกล่าวว่า หากมีโอกาส เขาอยากอาศัยอยู่ในยูเครน
เซเลนสกีเสนอว่า ยูเครนพร้อมพิจารณาแลกเปลี่ยนตัวเชลยเกาหลีเหนือ หากผู้นำคิม จอง-อึน ยินยอมจัดการแลกเปลี่ยนดังกล่าวกับทหารยูเครนที่ถูกรัสเซียควบคุมตัว
สำนักงานความมั่นคงของยูเครนและสำนักข่าวกรองเกาหลีใต้ (NIS) ยืนยันการจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือทั้งสองราย ระหว่างการสู้รบในเคิร์สก์เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา
รายงานจากสำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า ตั้งแต่ทหารเกาหลีเหนือเข้าร่วมการสู้รบในสงครามรัสเซีย-ยูเครนเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว มีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตประมาณ 1,100 นาย ขณะที่ยูเครนประเมินตัวเลขไว้สูงกว่า คือประมาณ 3,000 นาย
ยูเครนยืนยันว่าปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักมนุษยธรรมและกรอบอนุสัญญาเวียนนา โดยการสอบปากคำเชลยศึกดำเนินการผ่านล่ามที่ได้รับการรับรองเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม
จนถึงขณะนี้ รัสเซียและเกาหลีเหนือยังไม่มีการแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ ขณะที่ยูเครนเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะสามารถจับกุมตัวทหารเกาหลีเหนือเพิ่มเติมในอนาคต
