Saturday, 19 April 2025
ลิโอเนลเมสซี่

The Last Dance การเต้นรำครั้งสุดท้ายของ ลิโอเนล (เมสซี่) จากผู้ปลุกผีฟ้าขาวที่ชื่อ ลิโอเนล (สกาโลนี่)

และแล้วเราก็ได้คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ 

โค้งสุดท้ายแล้ว เกือบ 1 เดือนเต็มที่หลายคนอดตาหลับขับตานอนเพื่อดูฟุตบอลโลก ชมและเชียร์ทีมรักให้ถึงเป้าหมาย และอย่างที่ทราบครับ อาร์เจนติน่า เป็นทีมแรกที่เข้าไปชิงชนะเลิศในปีนี้ โดยคู่แข่งคนสำคัญในนัดชิงคือ แชมป์โลกครั้งที่แล้ว ฝรั่งเศส สมน้ำสมเนื้อครับ

สิ่งที่น่าสนใจที่อยากมาเล่า คือ บทสัมภาษณ์ของ เมสซี่ ที่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยบอกว่าฟุตบอลโลกหนนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเค้าแล้ว เพราะตอนนี้ก็อยู่ในวัย 35 ปีแล้ว อะไรที่เค้ามีและสามารถช่วยทีมได้ ก็จะพยายามทุ่มเทให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่า

แน่นอนว่า ชื่อชั้นของ เมสซี่ เกิดขึ้นอย่างว่องไว ด้วยวัย 22 ที่คว้าบัลลังดอร์มาครองครั้งแรกได้ แต่ต่อให้ทำได้ดีแค่ไหนก็มักจะมีเสียงวิจารณ์ถูกเป็นแพะรับบาปในวันที่อาร์เจนติน่าไม่ชนะบอลโลกกับเขาเสียที 

แม้ผลงานที่โดดเด่นในระดับสโมสรจะส่งให้ เมสซี่ เหมือนอยู่ในตำแหน่งที่ยิ่งสูงยิ่งหนาว ซึ่งเป็นจุดที่ใครๆ ก็โยนความคาดหวังให้กับชายคนนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายครั้งที่มีการพูดถึง เมสซี่ ว่าเป็นคนคาตาลันรึป่าว เค้าจึงไม่พร้อมหรือไม่เต็มทีกับทีมชาติอาร์เจนติน่า เมสซี่ ใหญ่เกินไป ใหญ่เกินทีมทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นยาก หรือบ้างก็อาจจะพูดถึงในเชิงอิทธิผลของ เมสซี่ ที่เหนือกว่าโค้ช

วิบากกรรมของ เมสซี เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะผลงานในฟุตบอลโลก ยังไม่ถึงฝั่งฝันในการคว้าโทรฟี่นี้มาครอง ซึ่งหากย้อนกลับไปช่วงทีมชาติตั้งแต่ครั้งแรกในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน 2021 อาร์เจนติน่ายังคงวนเวียนอยู่กับความรู้สึกเดิม ๆ เรื่องเดิม ๆ ของความผิดหวังใกล้เคียงที่สุดในการเป็นรองแชมป์โลกในปี 2014 แพ้เยอรมนี รวมถึงการเป็นรองแชมป์โคปาอเมริกา แต่มันก็ยังไม่ถึงแชมป์ตามตั้งใจสักทีนั้นคือเหตุผลที่ทำให้ เมสซี่ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง

ครั้งนึงถึงขั้น ดิเอโก้ มาราดอนน่า ตำนานของทัพฟ้าขาวยังเคยออกมาสนับสนุนให้ เมสซี่ เลิกเล่นทีมชาติจริงๆเพราะว่าโดนเยอะมากและเห็นใจ เมสซี่มากๆ และมองว่าเหตุการณ์ไหนที่พาอาร์เจนฯ พ่ายแพ้ แพะที่ชื่อเมสซี่จะปรากฎโดยทันควัน จนแนะให้เลิกเล่นทีมชาติเพื่อเซฟตัวเองน่าจะดีกว่า

ขณะที่ ฮอร์เก้ ซามเปาลี อดีตกุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็เคยออกมาเปิดเผยภายหลังว่าปัญหาของทีมชุดนี้มันอาจเป็นเพราะ เมสซี่ แบกทีมมากเกินไป ไม่มีใครพยายามช่วยเค้าเลย โดนรุมกินโต๊ะอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถสร้างการเล่นได้มหัศจรรย์เหมือนแบบที่ บาร์เซโลน่า อาร์เจนติน่าจะไปได้ไกลแค่ไหนส่วนสำคัญมันขึ้นอยู่กับความเฉลียวฉลาดของ เมสซี่ แต่ทีมของเราไม่มีนักเตะไปเชื่อมโยงการเล่นกับค้าได้เลยมันจึงน่าผิดหวังมากๆ และน่าโมโห แรงผลักดันของทีมๆ นี้ก็คือ เมสซี่ แต่เรากลับหาเค้าไม่เจอ เราไม่มีความเป็นทีมเลย เราขาดการทำงานรวมกัน นั้นคือภาพรวมก้อนใหญ่ๆ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ติทีมชาติตั้งแต่ปี 2005 บทบาทของ เมสซี่ กับ อาร์เจนติน่ามันคือ THE แบก มันคือ One For All ถึงแม้จะยังไม่เกียรติยศในรูปธรรมแต่ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่าเป็นระยะเวลาเกิน 15 ปี กับเมสซี่ที่ต้องรับบทบาทนี้และเค้าก็ทำมันอย่างเต็มที่

โลกของฟุตบอล One For All มันอาจไม่ตอบโจทย์เพราะนี้คือเกมของการเล่นเป็นทีม มันต้องเปลี่ยนให้เป็น All For One ให้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องช่วยเหลือกันเพื่อความเป็นทีม เป็น 1 เดียวให้ได้และนั้นคือสิ่งที่ อาร์เจนติน่าเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนจะมาบอลโลกในครั้งนี้ แต่แน่นอนครับแฟนบอลรอคอยในการที่จะดูฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ เมสซี่ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน

จุดพลิกผัน!!

ภายหลังทีมชาติอาร์เจนติน่าเริ่มต้นหลังจากตกรอบ 16 สุดท้าย ปี 2018 แพ้ฝรั่งเศส 4-3 ฮอร์เก้ ซามเปาลี กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่าอำลาทีมไป คนที่เข้ามาคือ ลิโอเนล สกาโลนี่ จากตอนแรกขึ้นมาในหน้าที่โค้ชรักษาการ เพราะ สกาโลนี่ เคยทำงานอยาในทีมของ ซามเปาลี อยู่แล้วเพียงแต่ว่าโค้ชหนุ่มคนนี้ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่อยๆ แก้ไขจุดอ่อน สกาโลนี่ บอกว่าขอสรุปในการล้มเหลวจากบอลโลกปี 2018 ผมพบว่าการที่เราแพ้ให้ ฝรั่งเศส และ โครเอเชีย เป็นเพราะว่าเสียบอลในตำแหน่งที่ไม่ควรเสียมากเกินไป เราตั้งขบวนเกมรับไม่เป็น ขนาดที่พวกเค้าซ้อมกันมาเป็นอย่างดีและใช้เวลาแค่ 3-4 วินาที เข้าโจมตีและเปลี่ยนโอกาสนั้นให้เป็นประตู ซึ่งนี้คือต้นแบบโมเดิร์นฟุตบอล แล้วสกาโลนี่ก็ค่อยๆ นำศาสตร์ตรงนี้เข้ามาปรับเปลี่ยนทีมชาติอาร์เจนติน่า เล่นบอลให้จังหวะน้อยลง ตรงไปตรงมา เล่นไดเร็คฟุตบอลมากขึ้น บอลจากรับสู่รุกใช้เวลาน้อยลง ส่วนเรื่องนอกสนาม สกาโลนี่ ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ความเป็นรุ่นพี่ค่อยๆ ประคับประคองให้เกิดความปรองดอง 

โรดริโก้ เดอ ปอล 1 ในนักเตะอาร์เจนชุดนี้ บอกว่าช่วงแรกที่ สกาโลนี่เข้ามาเป็นโค้ชคนใหม่หลายคนมีความวิตกกังวล หวาดระแวง ไม่ยอมเปิดใจต่างคนต่างเล่น ต่างคนต่างมาเหมือนพักเบรคจากการทำงานแล้วก็มารวมตัวกันแล้วก็แยกย้ายมันออกไปแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ ซ้อมเสร็จประชุมเสร็จแยกย้ายเข้าห้อง แต่มันก็เริ่มค่อยๆ ดีขึ้น

3ปีผ่านไป เห็นสิ่งที่มันแตกต่าง!!

เดอ ปอล บอกว่า สกาโลนี่ปลูกฝั่งทัศนคติของผู้ชนะให้กับนักเตะทุกคน เค้ารวมทีมได้เป็น 1 จากการทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีเช่น มีวินัยในการกิน ออกกำลังกาย ทักทายทุกคน ทำให้ทุกๆ คนอย่ในทีมจริงๆ และช่วยเหลืออย่างที่ควรจะเป็นสร้างปฏิสัมพันธ์ด้วยตลอดเวลา ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างมันลงตัวขึ้น

ลิโอเนล เมสซี่ ก็ยังยอมรับว่า นาทีนี้มันเป็นบรรยากาศของทีมชาติในช่วงที่น่าจะดีที่สุดตั้งแต่เค้าเล่นให้อาร์เจนติน่ามา ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นอย่างรูปธรรมคือการคว้าแชมป์โคปาอเมริกาเมื่อปี 2021 เอาชนะบราซิล 1-0 สกาโลนี่ ทำให้ทีมก้าวกระโดดขึ้นไป 

เมสซี่ พูดถึง สกาโลนี่ว่าโค้ชคนนี้สะท้อนให้เห็นว่าเค้าเป็นพวกเดียวกับเรา รวมพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียวได้ เป็นคนใจกล้า ใจกว้าง โดยเฉพาะการเข้ามารับงานในช่วงที่ดูสุ่มเสี่ยง เพราะหลังจาตกรอบฟุตบอลโลก 2018 มันดูเหมือนเป็นยุคมืดของทีมชาติอาร์เจนติน่าด้วยซ้ำไป แต่ สกาโลนี่ กล้าหาญมากที่ขึ้นมารับงาน เค้าเชื่อใจนักเตะทุกคน ผู้เล่นหน้าใหม่ๆ อายุน้อย หรือตัวเก๋าประสบการณ์ สกาโลนี่ เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างให้เติบโตและเดินไปพร้อมๆ กัน นั่นคือสาเหตุสำคัญที่เค้าแสดงออก และเด็ก ๆ มีความมั่นใจและเชื่อใจ

แฟนบอลจีน วัย 18 ปี โดนแบน 1 ปี  หลังกระโดดพุ่งลงมาจากอัฒจันทร์ และสวมกอด ‘เมสซี่’

(ซินหัว) — แฟนบอลชาวจีนรายหนึ่งถูกสั่งห้ามเข้าสนามกีฬาเป็นเวลา 1 ปี หลังบุกเข้าสนามระหว่างการแข่งขันนัดกระชับมิตรอาร์เจนตินา-ออสเตรเลียในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน เมื่อวันพฤหัสบดี

(15 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ผู้ถูกตำรวจปักกิ่งระบุตัวตนด้วยนามสกุล “ตี่” ได้กระโดดลงมาจากอัฒจันทร์และสวมกอด ลิโอเนล เมสซี่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาตัวออกไปในช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันที่จัดขึ้น ณ เวิร์คเกอร์ สเตเดียม กรุงปักกิ่งของจีน

เมื่อวันศุกร์ (16 มิ.ย.) ตำรวจเขตเฉาหยางได้ชี้แจงบนบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ทางการของสำนักงาน ว่าสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเทศบาลกรุงปักกิ่ง สาขาเขตเฉาหยางได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวและสั่งห้ามไม่ให้เขาเข้าสนามกีฬาเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลเป็นเวลา 12 เดือน

ส่วนเด็กหนุ่มแซ่ตี่ได้ขอโทษสำหรับพฤติกรรมของเขาและยอมรับบทลงโทษของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อนึ่ง การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรดังกล่าวจบลงด้วยชัยชนะ 2-0 ของแชมป์บอลโลกอย่างอาร์เจนตินา โดยเมสซีทำประตูได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยทำมาในการแข่งขันระหว่างประเทศ โดยยิงประตูให้ทีมอาร์เจนตินาได้ตั้งแต่ 80 วินาทีหลังเริ่มการแข่งขัน

'เมสซี่' เบียด 'ฮาแลนด์-เอ็มบัปเป้' ผงาดคว้าบัลลงดอร์สมัยที่ 8

(31 ต.ค.66) ‘ลิโอเนล เมสซี่’ แข้งซูเปอร์สตาร์โลกได้รับเลือกให้คว้ารางวัลลูกฟุตบอลทองคำหรือบัลลงดอร์ 2023 มาครอง ในพิธีประกาศรางวัลที่ประเทศฝรั่งเศส

เมสซี่เบียดเอาชนะทั้ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มาพร้อมผลงาน 56 ประตู กับ 3 เเชมป์ และ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ หัวหอกปารีสแซงต์แชร์กแมง กับผลงาน 1 แชมป์ลีกเอิงและ 1 รองแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส

แข้งวัย 36 ปีพาเปแอสเชคว้าแชมป์ลีกเอิงโดยทำไป 21 ประตู กับ 20 แอสซิสต์ ใน 41 นัดทุกรายการ ก่อนจะย้ายไป อินเตอร์ ไมอามี่ ในเมเจอร์ ลีก สหรัฐอเมริกา ผลงานชิ้นโบว์เเดงคือพาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์มาครอง

"ผมขอบคุณมาก เเละอยากเเบ่งปันรางวัลนี้ให้เพื่อนร่วมทีมชาติของผม สตาฟ โค้ช, ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผมดีใจที่ได้มาอยู่ที่นี่อีกครั้งเพื่อจะได้เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้ การคว้าเเชมป์ฟุตบอลโลกคือการบรรลุเป้าหมายที่สูงสุดของผม ผมของเเบ่งปันรางวัลนี้ให้กับทุกคนที่มีส่วนร่วม" เมสซี่ขึ้นกล่าวในพิธีรับรางวัล

เมสซี่ยังคงสร้างสถิติคว้ารางวัลนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลข 8 สมัยมากที่สุดในประวัติการณ์ อันดับ 2 คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ไป 5 สมัย เเต่ไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งเเรกในรอบ 20 ปี

>> ส่วนรางวัลอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไอตานา บอนมาติ ผงาดคว้ารางวัล ‘บัลลงดอร์ เฟมิแน็ง’ หรือลูกฟุตบอลทองคำฝ่ายหญิง จากผลงานพา บาร์เซโลน่าทีมหญิง คว้าแชมป์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หญิง พร้อมพาสเปน คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลกหญิง 2023

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับเลือกให้คว้ารางวัล กองหน้ายอดเยี่ยม ประจำปี 2023 หรือ ‘แกร์ด มุลเลอร์ โทรฟี่’

จู๊ด เบลลิ่งแฮม กองกลางตัวเก่งของรีล มาดริด สโมสรชื่อดังของศึก ลาลีก้า สเปน ได้รับเลือกให้คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำปี 2023

เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ผู้รักษาประตูแอสตัน วิลล่าเเละทีมชาติอาร์เจนตินา คว้ารางวัล ‘ยาชิน โทรฟี่’ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำปี 2023
 

เปิด 30 รายชื่อ ผู้เข้าชิงรางวัล 'บัลลงดอร์ 2024' ไร้ชื่อ 'โรนัลโด - เมสซี่' เป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี

(5 ก.ย. 67) ‘ฟรองซ์ ฟุตบอล’ นิตยสารลูกหนังชื่อดังของประเทศฝรั่งเศส ประกาศ 30 รายชื่อผู้ท้าชิงรางวัลประจำปี ‘บัลลงดอร์ 2024’ หรือ ครั้งที่ 68 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี นับตั้งแต่ปี 2023 ที่ไม่มีชื่อคู่สตาร์ระดับโลกอย่าง ‘คริสเตียโน โรนัลโด’ แข้งจาก ‘อัล นาสเซอร์’ เจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัย และ ‘ลิโอเนล เมสซี่’ จาก ‘อินเตอร์ ไมอามี่’ เจ้าของรางวัล 8 สมัย

โดยสำหรับครั้งล่าสุดที่ไม่มี ‘คริสเตียโน โรนัลโด’ ติดโผรายชื่อ 30 นักเตะนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2003 ก่อนปีถัดมา 2004 ‘โรนัลโด’ ติดชื่อครั้งแรก สมัยค้าแข้งกับ ‘แมนฯ ยูไนเต็ด’ และได้อันดับ 12 ร่วม ขณะที่ ‘ลิโอเนล เมสซี่’ ที่เวลานั้นอยู่กับ ‘บาร์เซโลน่า’ ติดโผตั้งแต่ปี 2006 

ทั้งนี้ ‘บัลลงดอร์ 2024’ เป็นแข้งจาก ศึก ‘พรีเมียร์ลีก’ ที่มีชื่อลุ้นรางวัลมากที่สุดถึง 9 ราย ประกอบด้วย โรดรี, รูเบน ดิอาส, ฟิล โฟเดน, เออร์ลิง ฮาลันด์, มาร์ติน โอเดการ์ด, โคล พาลเมอร์, เดแคลน ไรซ์, บูคาโย ซากา และ วิลเลียมส์ ซาลิบา

สำหรับรายชื่อ 30 นักเตะ ลุ้นรางวัล ‘บัลลงดอร์ 2024’ มีดังนี้

1. จู๊ด เบลลิงแฮม (เรอัล มาดริด)
2. มาร์ติน โอเดการ์ด (อาร์เซน่อล)
3. ฮาคาน คาลฮาโนกลู (อินเตอร์ มิลาน)
4. โคล พาล์มเมอร์ (เชลซี)
5. ดานี โอลโม่ (บาร์เซโลน่า)

6. ดานี คาร์บาฆาล (เรอัล มาดริด)
7. รูเบน ดิอาส (แมนซิตี้)
8. เดแคลน ไรซ์ (อาร์เซน่อล)
9. อาร์เต็ม ดอบบิก (โรม่า)
10. โรดรี้ (แมนซิตี้)

11. ฟิล โฟเด้น (แมนซิตี้)
12. อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (เรอัล มาดริด)
13. เลฮานโดร กริมัลโด้ (เลเวอร์คูเซ่น)
14. บูกาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล)
15. เออร์ลิง ฮาแลนด์ (แมนซิตี้)

16. วิลเลียม ซาลิบา (อาร์เซน่อล)
17. มัตส์ ฮุมเมลส์ (โรม่า)
18. เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ (เรอัล มาดริด)
19. แฮร์รี่ เคน (บาร์เยิร์น มิวนิค)
20. วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด)

21. โทนี โครส (เรอัล มาดริด แขวนสตั๊ด)
22. วิตินญ่า (เปแอสเช)
23. อเดโมลา ลุคแมน (อตาลันต้า)
24. นิโก้ วิลเลียมส์ (แอตเลติก บิลเบา)
25. เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (แอสตัน วิลล่า)

26. ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (เลเวอร์คูเซ่น)
27. เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (อินเตอร์ มิลาน)
28. กรานิต ชาก้า (อาร์เซน่อล)
29. คีเลียน เอ็บบัปเป้ (เรอัล มาดริด)
30. ลามีน ยามาล (บาร์เซโลน่า)

อย่างไรก็ตาม พิธีประกาศรางวัลบัลลงดอร์ 2024 จะมีขึ้นในวันที่ 28 ต.ค. 67 นี้ ที่ ’เตียเตอ ดู ซาเตอเลต์’ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top