Friday, 17 May 2024
ลาดพร้าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ แถลงผลความคืบหน้าการขยายผลคดีเว็บพนันออนไลน์ ดำเนินคดีนายตำรวจใหญ่เป็นนายทุนเบื้องหลัง

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 66 กรณีนายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี อายุ 24 ปี ผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีถูกกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 7 คน อุ้มจากที่พักย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ไปทำร้ายร่างกายและทวงเงิน และได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือและแทปเล็ต รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท

โดยมูลหนี้มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ในพื้นที่ สน.โชคชัย ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ครบทั้ง 7 คน รวมทั้งยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้ความช่วยเหลือในการค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายส่งให้กลุ่มผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น 

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าวด้วย เนื่องจากผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เว็บพนันดังกล่าวมีนายตำรวจเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังด้วย โดยให้ดำเนินการสืบสวนความเชื่อมโยงและไล่เส้นเงินจากผู้เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีโดยเด็ดขาดทั้งหมด

เบื้องต้นในส่วนของคดีปล้นทรัพย์นั้น ได้สรุปสำนวนฟ้องเสนอพนักงานอัยการแล้ว คดีอยู่ในชั้นศาล และในส่วนของสำนวนคดี ป.ป.ช.ซึ่งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์นั้น ป.ป.ช.ได้พิจารณาชี้มูลความผิดและส่งให้ ภ.จว.สระแก้ว ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว 

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวพบว่า เว็บไซต์การพนันที่เกี่ยวข้องมี 3 เว็บไซต์ ได้แก่ sexy789 red789 และ blue789 โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนในการเป็นแอดมิน และการจัดหาบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมจำนวน 9 ราย โดยได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวครบแล้วทั้งหมด

ประกอบด้วย
1. พล.ต.ต.เอกภพ อายุ 52 ปี (เจ้าของเว็บ)
2. พ.ต.อ.ปวริศ  อายุ 41 ปี (จัดหาบัญชีม้า)
3. น.ส.พัชวัญญ์ อายุ 39 ปี (ซุปเปอร์แอดมิน)
4. นายมนตรี   อายุ 39 ปี (ซุปเปอร์แอดมิน)
5. น.ส.อมรรัตน์   อายุ 26 ปี (จัดหาบัญชีม้า)
6. นายสนธิ์  อายุ 57 ปี (บัญชีม้า)
7. นางวันเพ็ญ   อายุ 59 ปี (บัญชีม้า)
8. นายคมเดช   อายุ 32 ปี (บัญชีม้า)
9. น.ส.กนกวรรณ อายุ 37 ปี (บัญชีม้า)

โดยจะดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันโดยการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่ของทรัพย์สินนั้นหรือกระทำด้วยประการใดๆเพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ว่าในขณะได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และร่วมกันฟอกเงิน นอกจากนี้ยังได้ส่งเรื่องให้ทาง ป.ป.ง. ทราบและพิจารณาดำเนินการในการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อยึดอายัดในขั้นต่อไปแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ได้ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในการอุ้มผู้เสียหายเพื่อนำไปทวงเงินได้แล้วนั้น เจ้าหน้าที่สืบสวนได้มีการขยายผลดำเนินคดีกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวด้วย โดยได้ข้อมูลจากผู้เสียหายว่า มีนายตำรวจอยู่เบื้องหลังการดำเนินการดังกล่าว

จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่สืบสวนและพนักงานสอบสวน ให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด และให้นำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีทุกราย แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศใดก็ตาม ทั้งนี้ขอยืนยันว่า จะมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาครบทุกคน ไม่มียกเว้นแน่นอน

‘ดร.เอ้’ ฟาด!! ‘กทม.’ เหตุปัดความรับผิดชอบ กรณีชายตกท่อดับ ชี้!! โยนกันไปมา ไร้เจ้าภาพ แนะ!! ควรมี กม.เพื่อความปลอดภัย

(4 พ.ค.67) ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม.ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อถึงเหตุการณ์ชายตกท่อ ลาดพร้าว 49 เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.67) ถึงการ ‘ปัดความรับผิดชอบของกทม.’ เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ และชี้หน่วยงานโยนไปมา หาเจ้าภาพไม่เจอ บอกถึงเวลาแล้ว ไทยต้องเป็นสังคมปลอดภัย พร้อมชวนประชาชนลงชื่อ เสนอกฎหมาย ‘จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ’

ส่วนตัวรับไม่ได้ กรณีชายอายุ 59 ปี พลัดตกท่อย่านลาดพร้าว 49 เพราะ ยังมีคนเสียชีวิตจากการตกท่ออีก แต่สิ่งที่ทุกคนเห็น แต่ละหน่วยงานโยนกันไปมา ทั้ง กทม. กฟน. บีทีเอส สายสีเหลือง สุดท้ายแล้วคนตาย ‘หาเจ้าภาพไม่เจอ’ และเกิดเหตุซ้ำซาก จึงเป็นที่มาถึงเวลาของประเทศไทยต้องเป็นสังคมปลอดภัย ตนได้รณรงค์ให้ประชาชนมาลงชื่อให้เกิน 10,000 คนขึ้นไป เพื่อเสนอกฎหมายจัดตั้ง ‘องค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ’ อย่างน้อยจะหาคนกลางหรือเจ้าภาพได้เมื่อเกิดเหตุขึ้น สามารถร้องเรียนที่คณะกรรมการ หรือองค์กรนี้ได้ทันที ซึ่งอาจขึ้นตรงกับผู้นำประเทศ และองค์กรอิสระนี้สามารถติดตามความเสี่ยง พร้อมเผยแพร่ข้อมูล ประชาสัมพันธ์ และทำให้หน่วยงานหลักที่เป็นเจ้าของ เข้าไปแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด หรือเกิดการสูญเสียถึงแก่ชีวิตหรือสูญเสียทรัพย์สิน ก็ยังมีการถอดบทเรียน ไม่ใช่ ‘วัวหายล้อมคอก’ คนตายไปสุดท้ายไม่ได้ทำอะไร และตายฟรี ดังนั้น ขอเชิญชวนประชาชนมาลงชื่อได้ที่ suchatvee.com ให้เกิน 10,000 ชื่อ ซึ่งเรากำลังร่างกฎหมายเสนอสภา เพื่อให้เหมือนกับในต่างประเทศ เพราะมีหน่วยงานกลาง ดูแลความเสี่ยง ถอดบทเรียนหาผู้รับผิดชอบ เอาผิด จะได้เข็ด รวมทั้งเยียวยาผู้สูญเสียที่เป็นธรรม

ขณะเดียวกัน กรณีหากเกิดเหตุ ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น ดร.เอ้ กล่าวว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะผู้รับเหมาต้องทำงานและได้เงินเร็วที่สุด แต่หลายครั้งการทำแบบนี้ ก็ได้มาซึ่งความสูญเสีย มาตรฐานที่ไร้คุณภาพ เช่น เจ้าของงานจ้างผู้รับเหมามาสร้างบ้าน ก็ต้องจ้างคนคุมงานมาดูแลด้วย ดังนั้น จากกรณีนี้ เจ้าของพื้นที่ คือ กทม. จะโยนไปที่ กฟน. ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะพื้นที่เกาะกลางถนน ฟุตบาท เป็นของ กทม. ใครจะทำอะไรต้องมาขอ กทม. และระหว่างทำ กทม. มีหน้าที่ในการดูแล ส่วนการส่งมอบ กทม. ก็ต้องมีส่วนร่วมในฐานะเจ้าของบ้าน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ในอดีตหน่วยงานโยนกันไปมา และ จบที่การ ‘กล่าวแสดงความเสียใจ’ ปัดออกจากตัวหมด

จากนั้น พอไปถึงหน่วยงานซึ่งดูเหมือนจะเป็นเจ้าของ หน่วยงานนั้นก็โยนให้ผู้รับเหมา และผู้รับเหมาโยนไปที่บริษัทประกันชีวิต ทั้งนี้ เมื่อถึงบริษัทประกันชีวิต ก็จะสู้ด้วยข้อกฎหมาย ที่อาจระบุว่า คนเดินแล้วเกิดอุบัติเหตุ อาจจะประมาท มีสภาพร่างกายอาจไม่สมบูรณ์ กว่าจะจ่ายเงินเยียวยาก็ใช้เวลานาน หรือหลายกรณีไม่ได้เงิน เพราะครอบครัวไม่รู้จะเอาอะไรไปต่อสู้ จึงย้อนกลับมาว่า ประเทศไทยไม่มีองค์กรกลางที่จะช่วยหาข้อมูล หลักฐานส่งฟ้อง เพื่อให้ประกันดูแลเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม และนี่คือสาเหตุของการเกิดเหตุซ้ำซาก เพราะคนเกี่ยงกัน คนผิดไม่เคยได้รับผิด คนสูญเสียไม่ได้รับการเยียวยา หรือได้รับการเยียวยาช้าเกินไป เพราะฉะนั้น ผู้นำรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยนำอุทาหรณ์เหล่านี้มาเป็นบทเรียนในการสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้น เพราะนี่คือ ‘สิทธิพื้นฐาน’ ของประชาชนที่ควรจะได้รับ

‘เพจดัง’ แฉปม ‘ท่อไร้ฝา ที่ลาดพร้าว’ เผย!! ปชช. เคยร้องเรียนแล้ว แต่ ‘กทม.’ แก้ปัญหามักง่าย แค่นำไม้ มาวางพาดปากหลุม

(4 พ.ค.67) จากเหตุการณ์มีผู้พลัดตกบ่อพักท่อร้อยสายไฟฟ้าที่บริเวณเกาะกลางถนนใกล้ตอม่อทางเดินรถไฟฟ้า ซึ่งมีต้นไม้ปลูกเป็นแนวไว้ ปากซอยลาดพร้าว 49 เสียชีวิตนั้น

ทางเพจ Drama-addict ได้ออกมาโพสต์ ภาพจากลูกเพจ หลังเคยร้องเรียนกับ กทม. ผ่านทราฟฟี่ฟองดูว์ ในกรณีหลุมไม่มีฝาท่อย่านลาดพร้าว หวั่นจะเกิดอันตรายกับประชาชนถึงชีวิตได้ ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการแก้ปัญหาด้วยการนำไม้มาวางพาดปากหลุม

ทั้งนี้ ทางเพจได้ระบุข้อความว่า

"ลูกเพจฝากมา เขาว่ากรณีหลุมไม่มีฝาท่อแถวนั้น ยังมีอีกเพียบ เรียงเป็นตับเลย และแจ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว เขาว่า "แก้ไขเสร็จสิ้น" ตามแบบในภาพ"

อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก และมีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก เช่น ทำงานได้หัว ค มากครับ, ให้คนทำเดินไป เดินมา สัก 1ชม., ว้าว การแก้ไข แบบนี้ ไม่มีใครคิดได้เลย นอกจาก…, แก้ปัญหาได้ห่วยแตกมาก คุณภาพชีวิตเรียกร้องได้จากไหน, ต้องรอให้ญาติ ๆ ผรม.ตกลงไปในท่อก่อนหรือครับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top