Thursday, 28 March 2024
ลักลอบขนยาเสพติด

‘ตำรวจ’ รวบเครือข่ายชาวม้งลอบขนยาเสพติด จับกุมได้พร้อมของกลาง ยาบ้ากว่า 1.6 ล้านเม็ด

(23 พ.ย. 65) จากนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ให้ทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด เดินหน้าเชิงรุกทุกมิติการทำงาน เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน ทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดให้ครอบคลุม รวมทั้งขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดให้สิ้นซาก ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) / ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผบ.ตร. / รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส., ได้สั่งการให้ทุกหน่วยใน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดกั้นจับกุมและสืบสวนขยายผลการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั่วประเทศ 

ล่าสุด ช่วงวันที่ 20 - 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกันจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหา คือ 
1.) นายเนติพงษ์ แซ่ว้าง อายุ 22 ปี
2.) นายนพเดช แซ่ซ้ง อายุ 28 ปี
3.) นายเอกภพ แซ่เฮ่อ อายุ 35 ปี ลำดับ (1-3 เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง จังหวัดตาก)
4.) นายจักรกฤษณ์ สวยรักษ์ อายุ 53 ปี 

หลังสืบทราบว่า กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ซึ่งมีภูมิลำเนาในอำเภออุ้มผางและพบพระ จังหวัดตาก มักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ กทม. และจังหวัดใกล้เคียงเป็นประจำ วันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมาพบว่าจะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้าโดยจะใช้รถกระบะ และรถยนต์ใช้ในการขนส่ง กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สะกดรอยติดตามรถของขบวนการซึ่งตรงตามที่สืบทราบมา จนเวลาประมาณ 16.00 น. สามารถสกัดจับรถต้องสงสัยคือ รถกระบะ ISUZU D-MAX สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 394 พิษณุโลก ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และรถยนต์ HONDA CIVIC หมายเลขทะเบียน กย 2637 ลำปาง มี นายเนติพงษ์ แซ่ว้าง, นายนพเดช แซ่ซ้ง และนายเอกภพ แซ่เฮ่อ เป็นผู้ขับขี่และนั่งมากับรถ ตรวจสอบในรถพบยาบ้า ถูกซุกซ่อนมาในกระเป๋า 16 ใบ รวม 1,600,000 เม็ด ภายในรถกระบะ 

นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง, ไอแพดสีดำ 1 เครื่อง ทั้งหมดรับว่า รับจ้างขนยาบ้าไปส่งลูกค้าตามที่ผู้ว่าจ้างสั่งการ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ‘ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง ของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน’ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ที่บริเวณสถานีบริการปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกำแพงเพชร-สุโขทัย ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร 

สตม.จับผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดตามหมายจับทางการจีน หนีซุกไทย

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพรผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

จับผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดตามหมายจับทางการจีน หนีซุกไทย สตม. ได้รับมอบหมายจาก ตร. ให้ดำเนินการกรณี สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย แจ้งข้อมูลนายป๋อเหวิน (นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานลักลอบขนยาเสพติด โดยสำนักงานศุลกากรปักกิ่งได้สืบทราบว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 นายป๋อเหวิน ได้ร่วมกับนางเหว่ย (นามสมมติ) หญิงชาวจีน ลักลอบนำเข้าเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนัก 3,311.3 กรัม โดยทางเรือ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกหมายจับนายป๋อเหวินและนางเหว่ย แต่นายป๋อเหวิน ได้หลบหนีออกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายป๋อเหวิน ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งหลังสุดเข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 15 วัน (VISA ON ARRIVAL) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ มีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ผบก.สส.สตม. จึงได้อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ นายป๋อเหวิน และได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามตัวนายป๋อเหวิน เพื่อนำตัวมาดำเนินการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร จึงได้ระดมกำลังสืบสวนติดตามหาตัวนายป๋อเหวิน ตามย่านที่พักอาศัย และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจีนทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด ต่อมาสืบทราบว่านายป๋อเหวิน จะเดินทางออกจากประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 และงานตรวจคนเข้าเมืองขาออก ด่าน ตม.ทอ.สุวรณณภูมิ บก.ตม.2 เพื่อหาตัวนายป๋อเหวิน จนกระทั่งได้พบนายป๋อเหวินขณะรอรับการตรวจอนุญาตให้เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร จึงได้แจ้งหนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ได้รับทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top