Sunday, 27 April 2025
ลอบวางระเบิด

นราธิวาส - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ

เมื่อวานนี้ (2 ต.ค. 67) เวลา 14.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอตากใบ หมู่ที่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล  หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอม) ยี่ห้อ MG5 สีเทา หมายเลขทะเบียน 5ขญ 1830 กรุงเทพมหานคร ของ นางสาว มาเรียม  ดอเลาะ โดยผู้ก่อเหตุได้ปล้นรถยนต์คันดังกล่าว และได้ทำการซุกซ่อนระเบิดไว้ภายในรถยนต์ จากนั้นนำมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านพัก ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์  ศิริวัลลภ นายอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย คือ พลทหาร กันตยศ  บินหรีม อายุ 22 ปี และ พลทหาร อนุวัฒ เหมรา อายุ 22 ปี ทั้ง 2 เป็นกำลังพลสังกัด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ 33 ซึ่งขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายรักษาตัวยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด

ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ บริเวณถนนหน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ หมู่ที่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มีการประสานงานร่วมกัน โดยเฉพาะการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลพื้นที่ ร่วมกันสร้างความสงบสุขและความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ประชุมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบความคืบหน้าของเหตุการณ์ และเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมมอบแนวการปฏิบัติงานเพื่อนำไปปรับแผนการปฏิบัติงานการรักษาความปลอดภัย ควบคู่การสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนต่อการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ได้เน้นย้ำและสั่งการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความระมัดระวัง เข้มงวดมาตรการ ในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วย เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

12 มีนาคม พ.ศ. 2553 พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 'วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด' ถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดเสียชีวิต

ย้อนกลับไปในวันนี้ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เป็นวันจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ 'จ่าเพียร ขาเหล็ก' พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็น 'วีรบุรษแห่งเทือกเขาบูโด มือปราบแห่งบันนังสตา'

พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เข้ารับราชการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2513 และเป็น ผบ.หมู่ สภ.บันนังสตา มาตลอด ขณะปฏิบัติราชการนั้น พ.ต.อ.สมเพียร ผ่านสมรภูมิรบ กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนับร้อยครั้ง วิสามัญคนร้ายได้นับร้อยศพ จนเป็นที่กลัวเกรงของกลุ่มคนร้าย และทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร มีชื่อเสียงในแวดวงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ในปี พ.ศ.2519 พ.ต.อ.สมเพียร ซึ่งยศในขณะนั้นคือ จ.ส.ต.สมเพียร ถูกกับระเบิดที่ขาซ้ายจนเกือบขาด ขณะต่อสู้กับกลุ่มโจรก่อการร้าย แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้ นี่จึงเป็นที่มาของฉายา 'จ่าเพียร ขาเหล็ก'

ต่อมาในปี พ.ศ.2526 พ.ต.อ.สมเพียร ถูกคนร้ายยิงในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จนได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังใน ด้วยความฉกาจฉกรรจ์ และจัดเป็นตำรวจชั้นฝีมือเยี่ยม ส่งผลให้ พ.ต.อ.สมเพียร ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รามาธิบดี และเหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร..

จนกระทั่งกรมตำรวจ (ในสมัยนั้น) อนุมัติให้ พ.ต.อ.สมเพียร เข้าอบรมหลักสูตร นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และได้เลื่อนขั้นเป็น ร.ต.ต. ก่อนจะย้ายให้ไปประจำการอยู่ที่ จ.สงขลา

กระทั่งในปี พ.ศ. 2550 พ.ต.อ.สมเพียร ถูกเรียกตัวกลับมาเป็น ผกก.สภ.บันนังสตา เพื่อปราบปรามกลุ่มโจรใต้ ที่ก่อเหตุรายวัน ซึ่ง พ.ต.อ.สมเพียร ก็ใช้ประสบการณ์ที่มี พร้อมกับพรสวรรค์บวกพรแสวงปราบคนร้าย และวิสามัญได้ถึง 19 ราย และยึดอาวุธสงครามได้อีกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สมเพียร ก็ถูกกลุ่มคนร้ายลอบโจมตีมาโดยตลอดเช่นกัน 

กระทั่งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 คนร้ายได้วางแผนลอบวางระเบิดหลายจุด เพื่อล่อให้ พ.ต.อ.สมเพียร นำกำลังเดินทางเข้าไปที่เกิดเหตุ ก่อนที่คนร้ายจะลอบวางระเบิดรถกระบะที่นั่งอยู่ แต่เดชะบุญ ครั้งนั้น พ.ต.อ.สมเพียร ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

จากเหตุการณ์นั้นเอง ทางครอบครัวของ พ.ต.อ.สมเพียร เกิดความหวั่นวิตกกังวล ถึงความปลอดภัยต่อชีวิต จึงได้ถือเคล็ดเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น 'ภูวพงษ์พิทักษ์' เพื่อความแคล้วคลาดจากภัยและอันตราย และเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่ พ.ต.อ.สมเพียร ก็ขอกลับมาใช้นามสกุลเดิม

ต่อมาวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 พ.ต.อ.สมเพียร จึงตัดสินใจเดินทางมา ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องเรียนกับ 'นายกรัฐมนตรี' โดยขอความเป็นธรรม จากใบคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง เพื่อขอย้ายเป็น ผกก.สภ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่างอยู่ ในปีสุดท้าย ก่อนจะเกษียณอายุราชการ แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณา....

และในที่สุดวันที่ 12 มีนาคม 2553 ตำนาน 'จ่าเพียร ขาเหล็ก' มือปราบแห่งเทือกเขาบูโด ก็ต้องรูดม่านลงอย่างน่าเศร้า เมื่อถูกคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน 5-8 คน ลอบวางระเบิด รถกระบะ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา พร้อมลูกน้อง 3 นาย และ อส.คนสนิท อีก 1 นาย

ส่งผลให้ พ.ต.อ.สมเพียร ขาหักทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ในที่สุด โดยสิริอายุ 59 ปี ท่ามกลางความเสียใจของ ประชาชนชาวบันนังสตา และความเสียใจจากครอบครัว

หลังจาก พล.ต.อ.สมเพียร เสียชีวิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เลื่อนให้ขั้น 7 ขั้นยศ เป็น พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา และมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พร้อมเงินสวัสดิการตำรวจอีก 3 ล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top