Wednesday, 23 April 2025
ลดราคา

‘เทสลา’ ประกาศ ปรับราคาจำหน่าย หวังกระตุ้นยอดขาย - จูงใจผู้บริโภค

Tesla ประกาศลดราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในแถบเอเชีย ใกล้ๆ บ้านเรา ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย โดยเหตุผลในการปรับลดราคาคือ ในเอเชียรถยนต์ไฟฟ้านั้น มีการแข่งขันที่สูงขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ภาพรวมตลาดรถยนต์อีวียังประสบปัญหา 

และหากเจาะไปที่ประเทศจีนจะพบว่า การปรับลดราคาของ Tesla รุ่น Model Y และ Model 3 จะทำให้ราคาจำหน่ายของทั้งสองรุ่นถูกกว่าที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา 23-32% เช่น รุ่น Model 3 จากราคาเริ่มต้น 2.65 แสนหยวน เหลือ 2.29 แสนหยวน หรือราว 1.13 ล้านบาท

นอกจากนี้การปรับลดราคายังมาผลมาจากการเลิกมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากทางการปักกิ่ง ทำให้ Tesla ต้องตัดสินใจ ปรับลดราคาเพื่อกระตุ้นตลาดและจูงใจผู้บริโภคในยุคที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และโรคโควิด-19 ยังระบาด ทำให้ทุกคนต้องควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ในการตัดสินใจครั้งนี้ ก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ซื้อรถยนต์ Tesla ไปก่อนหน้านี้จนเกิดการประท้วงกันที่หน้าโชว์รูม

รมว.กระทรวงพาณิชย์เปิดงานโครงการ 'พาณิชย์…ลดราคา! Grand Sale ทั่วไทย'

กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าลดราคาสินค้า บรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร ทำให้ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ ภายใต้โครงการพาณิชย์...ลดราคา! Grand Sale ทั่วไทย จำนวน 274 จุด ทั่วประเทศ 

คาดว่าสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนประมาณ 350 ล้านบาท ในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานจำหน่ายสินค้าลดราคาให้แก่ประชาชน โดยได้รับความร่วมมืออันดีจากผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ/ห้างท้องถิ่น นำสินค้าอุปโภคบริโภค มาจำหน่ายรวม 10 หมวดสินค้า กว่า 1,000 รายการ โดยลดสูงสุด 75 % ประกอบด้วย หมวดอาหารสด อาหารแปรรูป ข้าวสาร ซอสปรุงรส สินค้าชำระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องครัว/เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าชุมชน ระหว่างวันที่ 10 – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บริเวณลานกีฬาใต้สะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลท์ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ

‘เจ๊จง’ เปิดใจลดราคาหมูทอด ไม่ได้ทำเอากระแส แต่เมื่อราคาวัตถุดิบลดราคา ร้านค้าควรลดตาม

จากกรณีร้านหมูทอดเจ๊จง ร้านหมูทอดชื่อดังประกาศลดราคาหมูทอด ทั้งขายเป็นขีดเป็นกิโล จากขีดละ 31 บาท เหลือขีดละ 30 บาท หมูทอดราคา 300 บาทต่อกิโลกรัม จนทำเอาได้ใจผู้บริโภค

(23 เม.ย.67) คุณจงใจ กิจแสวง หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘หมูทอดเจ๊จง’ เจ้าของร้านหมูทอดชื่อดัง เผยถึงสาเหตุของการประกาศลดราคาหมูทอดลงว่า จริง ๆ ไม่มีอะไรเลย แต่สืบเนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตนไปหาหมอกับลูก ที่มีสาขาอยู่ที่ตลาดสดธนบุรี และลูกเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้ามาบอกว่ารักตนมาก เพราะเวลาของขึ้นราคาก็ขึ้น เวลาของลดราคาก็ลงตามด้วย ตนเลยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ารักดี

ต่อมาวันอาทิตย์เวลาประมาณสามทุ่ม ตนเลยโทรหาลูกทุกคนว่า “โอเคมั้ย ถ้าวันจันทร์จะลด 10 บาท” ลูกก็บอกว่าแล้วแต่ตน ก็เลยตัดสินใจที่จะประกาศลดราคา แต่ยกเว้นสาขาในห้างสรรพสินค้า เนื่องด้วยราคาค่าเช่าที่แพง โดยตนมองว่าที่ตนลดขีดละ 1 บาท แต่ถ้าเป็นกิโล ก็เท่ากับลด 10 บาท ก็ไม่ใช่น้อย ๆ บางคนซื้อไป 1 กิโลกรัม สามารถกินได้หลายวันเลย

สำหรับเรื่องนี้ เจ๊จงมองว่า แล้วแต่มุมมอง แต่ถ้าหากว่าอยากจะอยู่นาน ๆ ก็ต้องมีความจริงใจต่อผู้บริโภค ‘เธอบ้าง ฉันบ้าง’ ไม่ใช่ว่าจะเอาอย่างเดียว มันเลยทำให้ตนยังอยู่ได้มากว่า 20 ปี และยังส่งต่อธุรกิจให้กับลูกอีก 4 คนได้ด้วย รวมถึงยังทำให้ลูกค้ารักร้านตน และรักลูกตนด้วย

เจ๊จง กล่าวอีกว่า ไม่ได้มองว่าที่ตนทำเป็นการสวนกระแส แต่ตนเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ขนาดช่วงที่หมูแพง มีผู้ใหญ่มาดูราคาขายให้ตนว่าต้องขายเท่านี้ แต่ตนมองว่าแพงไป ก็ไม่ขายราคานั้น หรือช่วงที่หมูลดราคา แต่ของอย่างอื่นขึ้น เช่น แก๊ส, พริก หรือแม้กระทั่งค่าแรง แต่ตนไม่กังวล เพราะค่าแรงลูกจ้างร้านตนได้เยอะกว่าที่รัฐบาลจะให้ขึ้นค่าแรงอยู่แล้ว ซึ่งราคาที่ลดมานี้ ตนคิดว่าน่าจะสามารถตรึงเอาไว้อีกสักพักเลย

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ลดราคาเพื่อหวังให้ลูกค้ามาซื้อเยอะขึ้น เพราะลูกค้าที่ร้านตนเยอะแบบนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ตนเป็นคนที่เล่นโซเชียลมีเดีย เห็นว่ามีคนที่ลำบากอีกเยอะ อย่างเคสหนึ่งที่ยอมขายของในบ้านทั้งหมด เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก ตนเลยมองว่าการช่วยเหลือแค่นิด ๆ หน่อย ๆ อาจทำให้เขาดีขึ้นก็ได้

ทั้งนี้ตนก็แปลกใจที่เมื่อเวลาราคาวัตถุดิบขึ้น ร้านค้าต่างขึ้นราคา แต่เมื่อถึงเวลาราคาวัตถุดิบลดราคา กลับไม่ลดราคาสินค้าตามด้วย แต่ร้านตนนั้นทำแบบนี้มานานแล้ว เวลาขึ้นราคาจะขึ้นครั้งละ 1-2 บาท และเวลาลดราคาก็จะลดครั้งละ 1-2 บาท ตามราคาที่ขึ้นไป

ตนจึงอยากให้แม่ค้าหลาย ๆ คนดูเป็นแบบอย่างว่า ถ้าอยากจะขายได้นาน ๆ ส่งต่อถึงรุ่นลูกได้ ก็ลองนำไปปรับใช้ดู แต่ทั้งนี้ตนก็เข้าใจร้านเล็ก ๆ ว่าอาจจะขายน้อย เวลาซื้อวัตถุดิบ ก็ซื้อในปริมาณที่เยอะไม่ได้ แต่ถ้าขายได้ทำราคาได้ ก็ควรจะแบ่ง ๆ กัน ลดราคาได้ก็ลด จะได้ขายได้นาน ๆ

ที่ตนออกมาประกาศลดราคาแบบนี้ ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปทำลายร้านอื่น ตนเข้าใจแต่ตนอยากให้ดูร้านตนมากกว่าว่าทำไมถึงขายมาได้นาน

สุดท้ายนี้อยากขอบคุณลูกค้าทุกคน ที่รักในแบรนด์หมูทอดเจ๊จง ยืนยันว่าจะแบบนี้ไปเรื่อย ๆ และจะส่งเจตนารมณ์ไปถึงรุ่นลูกด้วยว่าอย่าเอาเปรียบซึ่งกันและกัน แล้วจะอยู่ในสังคมได้ ส่วนที่หลายคนอวยยศตนว่า ‘เจ๊จง คนจริง’ นั้น ตนมองว่าเป็นคนจริงใจมากว่า

ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ร้านหมูทอดเจ๊จง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาซื้อหมูทอดและอาหารที่ร้านเป็นประจำ เนื่องจากมีราคาที่ถูก และมองว่าการที่เจ๊จงลดราคาแบบนี้ถือเป็นการคืนกำไรให้ผู้บริโภค และจริงใจต่อลูกค้า บางรายเป็นลูกค้าประจำเดินทางมาไกล เพื่อซื้อหมูทอดโดยเฉพาะ เพราะรักเจ๊จง เจ๊จงช่วยเหลือคนที่ลำบากมาเยอะ

‘BYD’ ร้อนแรง!! ประกาศหั่นราคา SEAL 3 รุ่น ลดสูงสุด 126,000 บาท ถึง 31 ก.ค.นี้

(2 ก.ค. 67) หลังจากเมื่อวานมีการประกาศลดราคารถ บีวายดี รุ่นออตโต้ 3 ถึง 340,000 บาท วันนี้ บีวายดี ออกแคมเปญลดราคา บีวายดี รุ่น SEAL อย่างต่อเนื่อง

โดยลูกค้าที่ ซื้อรถไฟฟ้า BYD SEAL รุ่น Dynamic รุ่น Premium และ รุ่น Performance และได้รับใบกำกับภาษีออกในช่วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยจะได้รับสิทธิพิเศษดังนี้

>> BYD SEAL รุ่น Dynamic ส่วนลด 126,000 บาท จากราคาขายปลีกปกติ 1,325,000 บาท เหลือราคาพิเศษ 1,199,000 บาท หลังหักส่วนลด

>> BYD SEAL รุ่น Premium ส่วนลด 50,000 บาท จากราคาขายปลีกปกติ 1,449,000 บาท เหลือราคาพิเศษ 1,399,000 บาท หลังหักส่วนลด

>> BYD SEAL รุ่น Performance ส่วนลด 100,000 บาท จากราคาขายปลีกปกติ 1,599,000 บาท เหลือราคาพิเศษ 1,499,000 บาท หลังหักส่วนลด

‘ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน’ เปิด 3 เหตุผล ปม ‘BYD’ ลดราคาถล่มทลาย ชี้!! เกิดจากปัจจัยนอกไทย ‘ผลิตล้นตลาด-อเมริกาขึ้นภาษี-ยุโรปไม่ซื้อ’

(4 ก.ค.67) เพจเฟซบุ๊ก ‘MCOT News FM 100.5’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีน เปิด 3 เหตุผล BYD ลดราคาถล่ม ชี้เกิดจากปัจจัยนอกประเทศไทย

จากกรณีรถยนต์ไฟฟ้า BYD ประกาศลดราคาลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยรวมส่วนลดสูงสุดถึง 340,000 บาท จนสร้างความไม่พอใจให้ผู้บริโภคที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ กระทั่งมีการนัดรวมพลยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สคบ. นั้น

ล่าสุด ผศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีน โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X ถึงกรณีดังกล่าวระบุว่า เรื่อง BYD ลดราคานี้มันมีเหตุมาจากนอกประเทศไทย

1. จีน subsidize ผู้ผลิต EV แบบเว่อร์วังอลังการมากจึงมีการผลิตออกมาเกินความต้องการของตลาดไปมาก

2.อเมริกาขึ้นภาษี EV จีนแบบโหดและกะทันหันมาก

3.ยุโรปไม่ซื้อด้วยหลายสาเหตุ

การเอาสินค้ามา dump ที่ประเทศมหามิตรแล้ว dump ราคาเพื่อระบายสินค้าจึงเกิดขึ้น ดังนั้นผู้ซื้อรวมตัวกันไปต่อรองไม่น่าเป็นผล

‘เลขาฯ กขค.’ แจง!! ‘BYD’ ลดราคารถ ไม่ผิด พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ยัน!! ไม่ได้กระทบผู้ผลิตชิ้นส่วน แค่หั่นกำไรตัวเอง ช่วยกระตุ้นการแข่งขัน

(8 ก.ค.67) นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยถึงกรณีค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จากจีน คือ BYD ลดราคาขายรถอีวีในไทยหลายแสนบาทว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า BYD ไม่ได้ขายรถอีวีในไทยในราคาต่ำกว่าทุนแปรผันเฉลี่ย เพื่อเป็นการฆ่าคู่แข่ง และยังไม่ได้บังคับให้ซัพพลายเออร์ ต้องลดราคาขายชิ้นส่วน หรืออะไหล่รถยนต์ให้กับบริษัท จึงไม่ได้เป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 เพราะเท่าที่ทราบ ราคาที่ขายในไทย ยังแพงกว่าราคาที่ขายในจีน แม้ถูกกว่าที่ขายในยุโรป อีกทั้งการลดราคาดังกล่าว ไม่ได้เป็นการทำลายคู่แข่ง แต่ทำให้เกิดการแข่งขัน และผู้บริโภคได้ประโยชน์

“ผมมองว่า BYD ยอมขาดทุนกำไร หรือมาร์จินของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้ามากขึ้น และผู้บริโภคได้ประโยชน์ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ภายใต้พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า การขายราคาต่ำกว่าทุน สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลทางธุรกิจ และทำภายในระยะเวลาที่จำกัด เช่น ล้างสต๊อกสินค้า หรือทดลองตลาดสำหรับสินค้าที่จะออกใหม่” นายวิษณุ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กขค.ไม่จำเป็นต้องเชิญค่ายรถยนต์มาหารือ เพราะพฤติกรรมยังไม่เข้าข่ายกระทำผิดตามพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า แต่กขค.จะจับตาการแข่งขันของรถยนต์อีวีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม ผู้ประกอบการไม่เอารัดเอาเปรียบกันจนทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ ส่วนกรณีของ BYD ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นในส่วนของผู้บริโภคที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้า ซึ่งมีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ดูแลอยู่แล้ว

ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า “กรมได้ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เพื่อส่งเสริมและการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมเพื่อเสริมพลังความร่วมมือกำกับดูแลการประกอบธุรกิจให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม เพื่อเสริมพลังเพิ่มศักยภาพในการกำกับดูแลและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าในประเทศให้มีความเป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการ พร้อมกับดูแลประชาชนและผู้บริโภคทั่วประเทศให้ได้รับการพิทักษ์ประโยชน์ โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ สำหรับสนับสนุนการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินค้าและบริการ และใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายที่เหมาะสม”

“กรมมีช่องทางการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 อยู่แล้ว หากประชาชน หรือผู้ประกอบการ ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า ก็สามารถร้องเรียนมาได้ หากเกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า กรมก็จะส่งต่อให้ กขค.พิจารณา ซึ่งถือเป็นการช่วยกันสร้างความเป็นธรรมทางการค้า และส่งเสริมบรรยากาศการแข่งขันที่เป็นธรรม” นายวัฒนศักย์ กล่าว

'ออสเตรเลีย' ฟ้อง 2 ซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ หลังทำโปรโมชัน 'หลอก' ลดราคาสินค้า

(24 ก.ย. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมาธิการการแข่งขันและผู้บริโภคของออสเตรเลีย (ACCC) ยื่นฟ้องซูเปอร์มาร์เก็ตวูลเวิร์ธ (Wollworths) และ โคลส์ (Coles) ฐานเอาเปรียบผู้บริโภค โดยการขึ้นราคาสินค้าจากปกติ แล้วเสนอขายในราคาลดลง ถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคทางอ้อม โดยมีพฤติกรรมหลอกลวงเกี่ยวกับการลดราคาสินค้า ระบุว่า ซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 2 แห่งนี้ได้คงราคาสินค้าบางอย่างเป็นเวลานานถึง 2 ปี จากนั้นได้ขึ้นราคา เพียงเพื่อจะนำมาโฆษณาหลังจากนั้นว่ากำลังอยู่ในช่วงลดราคา

จีน่า คาสส์ กอตต์ลิบ ประธานสำนักงานคุ้มครองดูแลผู้บริโภคของออสเตรเลีย กล่าวว่า หลังจากที่มีการโฆษณาทางการตลาดมาหลายปี บรรดาลูกค้าต่างเข้าใจว่าโปรโมชัน Prices Dropped ของ Woolworths และ ‘Down Down’ ของ Coles หมายถึงการลดราคาปกติของผลิตภัณฑ์ในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างต่อเนื่องแต่กลับพบว่าในหลายกรณีส่วนลดนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา 

จากการตรวจสอบข้อร้องเรียนพบว่า Woolworths ได้ให้ข้อมูลเท็จแก่ลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประมาณ 266 รายการในช่วง 20 เดือน ที่ผ่านมา และทางด้าน Coles ได้ให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ 245 รายการในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์มีตั้งแต่อาหารสัตว์ พลาสเตอร์ และน้ำยาบ้วนปาก ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ยอดนิยมจากออสเตรเลีย เช่น Tim Tam หรือจะเป็นซีเรียลของ Kellogg's

โดยทั้งสองบริษัทได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ลดราคาปลอมไปหลายสิบล้านชิ้น และได้รับรายได้จำนวนมากจากการขายเหล่านั้น ในขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากต้องพึ่งพาส่วนลดเพื่อช่วยให้มีงบประมาณในการซื้อของชำใช้ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ค่าครองชีพพุ่งสูงเช่นนี้ 

ต่อมาแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐบาลของเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะผู้บริโภคไม่สมควรถูกซูเปอร์มาร์เก็ตกระทำราวกับเป็นคนโง่เขลา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top