Tuesday, 22 April 2025
ราคาปาล์ม

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ซัด ก.พาณิชย์ อย่าเข้าข้างนายทุน จงใจหยุดรับซื้อผลปาล์ม

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดกระบี่ สังกัดพรรคก้าวไกล เปิดเผยปัญหาหนักใจจากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ หลังโรงงานพร้อมใจกันหยุดรับซื้อผลปาล์มดิบเมื่อช่วงหลังปีใหม่ ส่งผลให้ปาล์มล้นตลาด ทำราคาตก พร้อมซัดหนัก!! กระทรวงพาณิชย์ต้องจัดการ อย่ามัวเข้าข้างนายทุน

(13 ม.ค. 66) นายวศิน สิริเกียรติกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคก้าวไกล ได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในพื้นที่ ซึ่งตกต่ำเป็นอย่างมากอยู่ในช่วงนี้ ว่า วิกฤติราคาน้ำมันปาล์มพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่วนตัวคาดว่าเป็นผลมาจากการจงใจหยุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในช่วงปีใหม่ของโรงงานสกัดนํ้ามันปาล์มในพื้นที่ โดยต่างพร้อมใจกันหยุดรับซื้อผลปาล์มดิบเร็วขึ้นผิดปกติกว่าทุกปี คือ ประกาศปิดพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2565 และเริ่มทยอยกลับมาเปิดรับซื้อในวันที่ 2 มกราคม 2566 ส่งผลให้เกษตรกรที่มีรอบเก็บเกี่ยวในช่วงปีใหม่และมีผลปาล์มสุกเต็มที่ ต้องเร่งเก็บเกี่ยว ผลผลิตจึงล้นตลาด ทำให้ราคาร่วงลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งโรงงานสกัดบางแห่ง เดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มไม่เต็มกำลังการผลิต ทำให้เห็นรถบรรทุกปาล์มจากลานเท ต้องจอดคอยแถวยาวกันข้ามวันข้ามคืน ซึ่งยิ่งรอนานก็ยิ่งเสียโอกาสทางราคา

‘พีระพันธุ์’ ชี้ช่อง ‘ก.เกษตรฯ-ก.พาณิชย์’ แก้ปัญหา ‘ราคาปาล์มตกต่ำ’ ต้องขึ้นทะเบียนลานเท-คุมราคาหน้าลาน-คุยผู้ค้าฯ รับซื้อ B100 ราคาสูงขึ้น

(14 มิ.ย. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เกี่ยวกับการแก้ปัญหาการรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรที่มีราคาตกต่ำ ก่อนการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาว่า…

การประชุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุม ครม. เศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ขอให้ทางกระทรวงพลังงานช่วยดำเนินการให้ผู้ค้าน้ำมัน เช่น บมจ. ปตท. และ บมจ. บางจาก รับซื้อน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ B100 ที่นำมาใช้ผสมน้ำมันดีเซล ในราคาประมาณ 33-35 ต่อกิโลกรัม ตามที่สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ประกาศไว้ โดยทางกระทรวงเกษตรฯ เล็งเห็นว่า หากผู้ประกอบการผลิตน้ำมันปาล์ม B100 สามารถขายได้ในราคาสูงขึ้น ก็จะสามารถไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO จากโรงหีบหรือโรงสกัดในราคาสูงขึ้นได้ แล้วโรงหีบหรือโรงสกัดก็จะไปซื้อผลปาล์มจากลานเทในราคาสูงขึ้น ทำให้ลานเทสามารถขยับราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรสูงขึ้นได้ตามลำดับ

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้รับเรื่องที่จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง  และจากการตรวจสอบพบว่ากระทรวงพลังงานไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะบังคับให้ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อน้ำมันปาล์ม B100 ในราคาที่ สนพ. ประกาศ และประกาศของ สนพ. มีเพื่อใช้ประโยชน์ภายในของ สนพ. เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใช้เป็นราคาซื้อขายแบบประกาศของกระทรวงพาณิชย์

นายพีระพันธุ์เสนอแนะว่า หากต้องการจะช่วยเหลือเกษตรกรจริง ๆ แล้ว ควรให้กระทรวงพาณิชย์กำกับให้ลานเทรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตามกฎหมายมากกว่า เพราะปัญหาในปัจจุบันก็คือ ลานเทส่วนมากไม่รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ ในขณะที่โรงหีบหรือโรงสกัดส่วนใหญ่กลับเป็นผู้รับซื้อผลปาล์มจากลานเทตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ

นายพีระพันธุ์ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหาการรับซื้อผลปาล์มที่ลานเทว่า ปัจจุบันยังไม่มีการขึ้นทะเบียนลานเทว่า มีจำนวนเท่าใด ขนาดใด ในขณะที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำราคามาตรฐานของราคาปาล์มในแต่ละขั้นตอนไว้ว่า หากราคาขาย CPO อยู่ที่ 32-33 บาท ราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรที่ลานเทจะต้องอยู่ที่ประมาณ 5.50 - 5.75 บาท ซึ่งปัจจุบันราคา CPO อยู่ที่ 32-33 บาท 

ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ควรต้องประกาศราคารับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรที่ลานเทในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท จึงจะเป็นการช่วยเกษตรกรได้อย่างแท้จริงมากกว่าการขึ้นราคาซื้อ B100 แต่ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ประกาศราคารับซื้อผลปาล์มที่ลานเทที่ประมาณ 4.10 - 4.50 บาทเท่านั้น ขณะที่ลานเทรับซื้อจริงที่ประมาณ 3.90 บาทเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เกิดปัญหา

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ได้นำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวในการหารือระหว่างรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ก่อนการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมหารือด้วย ซึ่งรัฐมนตรีทุกท่านเห็นด้วยกับแนวทางที่นายพีระพันธุ์เสนอ โดยตกลงกันว่าจะให้เจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด รวมทั้งเกษตรจังหวัด ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มที่ลานเทในทุกจังหวัด และกระทรวงพาณิชย์จะไปพิจารณาปรับปรุงประกาศกำหนดราคารับซื้อผลปาล์มตามตารางของกรมการค้าภายในต่อไป

ด้านนายพีระพันธุ์จะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงานหารือขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันให้รับซื้อ B100 ในราคาที่สูงขึ้น โดยจะกำหนดให้ผู้ประกอบการผลิต B100 ต้องจัดการให้โรงหีบหรือโรงสกัดและลานเทที่เป็นคู่ค้าในแต่ละช่วงมาทำข้อตกลงว่าจะปรับราคารับซื้อผลปาล์มในแต่ละช่วงขึ้นเป็นสัดส่วนเดียวกัน เพื่อให้ประโยชน์ตกแก่เกษตรกรอย่างแท้จริง โดยที่ประชุมตกลงกันให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ไปกำกับดูแลในพื้นที่และทำการสำรวจและขึ้นทะเบียนลานเทให้ถูกต้องต่อไป 

‘รองนายกฯ พีระพันธุ์’ เล็งยกร่างกฎหมายปาล์มน้ำมัน ช่วยเกษตรกร หลังหยุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ปี 69 หวังสร้างความเป็นธรรมทุกฝ่าย

เหลือเวลาอีกหนึ่งปีนิด ๆ โดยปี 2569 จะเป็นปีสุดท้ายที่กองทุนน้ำมันฯ จะชดเชยราคา เชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งได้แก่ ไบโอดีเซล และเอทานอล แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ประเทศไทยจะยกเลิกการผสมเชื้อเพลิงชีวภาพในน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ราคาขายปลีกน้ำมันน่าจะยิ่งสูงขึ้น แต่เนื่องจากในปัจจุบันราคาเชื้อเพลิงชีวภาพอยู่ในระดับสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเท่าตัว ทำให้เมื่อผสมแล้วแทนที่จะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงถูกลงแต่กลับกลายเป็นยิ่งทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น ซึ่งทำให้ผิดไปจากเดิมวัตถุประสงค์ในการนำเชื้อเพลิงชีวภาพมาผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลง

ปัจจุบันไทยมีน้ำมันเชื้อเพลิงผสมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ 2 ชนิดได้แก่ (1) ไบโอดีเซล (Biodiesel) หรือ Fatty acid methyl ester (FAME) คือ น้ำมันที่ผลิตมาจากพืช ซึ่งถือเป็น 'เชื้อเพลิงทางเลือก' ที่ผลิตได้จากชีวภาพ เช่น ปาล์ม ทานตะวัน ถั่วเหลือง สบู่ดำ มะพร้าว หรือ ผลิตมากจากไขมันสัตว์หรือน้ำมันที่ผ่านการใช้งานแล้วซึ่งเป็นสารจำพวกไตรกลีเซอไรด์ ก็สามารถนำมาผลิตไบโอดีเซลได้โดยนำมาผ่านกระบวนการทางเคมี โดยไทยใช้น้ำมันปาล์มเป็นน้ำมันชีวภาพหลักสำหรับไบโอดีเซล และ (2) แก๊สโซฮอล คือ การเอาน้ำมันเบนซินพื้นฐาน มาผสมกับแอลกอฮอล ซึ่งจะกลายเป็นน้ำมันสูตรใหม่ที่เรียกว่า 'น้ำมันแก๊สโซฮอล'

- น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ได้จากการนำน้ำมันเบนซินพื้นฐานชนิดที่ 1 ผสมกับ เอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน 10 % 
- น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ส่วนผสมเช่นเดียวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 แต่ผสมจากการนำน้ำมันเบนซินพื้นฐานชนิดที่ 2 
- น้ำมันแก๊สโซฮอล Gasohol (E20) ส่วนผสมเช่นเดียวกับน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 แต่ผสมในอัตราส่วน 20% 
- น้ำมันแก๊สโซฮอล Gasohol E85 น้ำมันแก๊สโซฮอลที่ผสมเอทานอลบริสุทธิ์สูงถึง 85% กับน้ำมันเบนซิน 15% เป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Environmentally Friendly Fuel) เนื่องจากมลพิษที่ปล่อยจากไอเสียน้อยมากเมื่อเทียบกับเบนซิน

แต่จุดประสงค์ของการนำไบโอดีเซลมาผสมในดีเซล เอทานอลผสมในเบนซิน ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้ทำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร แต่ต้องการนำมาผสมเพื่อได้ปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นการช่วยลดต้นทุนราคาน้ำมัน ลดรายจ่ายจากการนำเข้าน้ำมันให้ประเทศ เนื่องจากกระบวนการอุดหนุนเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานจนทำให้กลายเป็นความเข้าใจทั่วไปว่า กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร แต่ความจริงแล้วความช่วยเหลือต่อเกษตรกรเป็นเพียงผลพลอยได้ ทั้งนี้ต้องเข้าใจด้วยว่า อันที่จริงแล้วภารกิจของกระทรวงพลังงานไม่ได้มีบทบาทหลักในการช่วยเหลือเกษตรกรเลย แต่ต้องรับผิดชอบดูแลสืบเนื่องมาจากนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพได้ถูกดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานมาแล้ว ทั้งยังไม่มีหน่วยงานอื่นใดร่วมช่วยคิดเพื่อแก้ปัญหา กระทรวงพลังงานจึงต้องรับหน้าที่ดังกล่าวเพื่อช่วยหาทางออกให้กับเกษตรกรไปก่อน แล้วหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจหลักของทั้ง 2 กระทรวงนี้ต่อไป

โดย 7 พฤศจิกายน 2567 รองพีร์ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาแนวทางการกำหนดสัดส่วนของน้ำมันไบโอดีเซล B100 ในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO : Crude Palm Oil) สูงขึ้นมาก ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันราคา CPO ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาไบโอดีเซลอยู่ที่ประมาณ 48 บาทต่อลิตร หรือราว 2 เท่าของราคาเนื้อน้ำมัน ทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลสูงขึ้นตามไปด้วย และจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลที่ขายให้พี่น้องประชาชนมีราคาสูงขึ้นด้วย ดังนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และเพื่อให้การจัดการราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุม กบง. จึงมีมติเห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลเป็นดังนี้ 
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 7% โดยปริมาตร (ส่วนผสมไบโอดีเซลลงถูกปรับจาก B7 เป็น B5)
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ไม่ต่ำกว่า 19% และไม่สูงกว่า 20% โดยปริมาตร
ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์แต่อย่างใดโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567เป็นต้นไป

ทั้งนี้ รองพีร์มีแนวคิดที่จะนำรูปแบบการแก้ปัญหาเรื่องอ้อยกับน้ำตาล ตามพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 มาปรับใช้เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาเรื่องอ้อยและน้ำตาลซึ่งหากปล่อยไว้โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อยกร่างกฎหมายที่คล้ายกันกับพ.ร.บ. อ้อยและน้ำตาลฯ ให้เป็นกฎหมายสำหรับปาล์มน้ำมันต่อไป โดยที่อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอยู่ในความรับผิดชอบกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรองพีร์ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้วย จะมีการทำงานร่วมกันระหว่างสองกระทรวงเพื่อรองรับเมื่อเชื้อเพลิงชีวภาพต้องถูกยกเลิกการชดเชยจากกองทุนน้ำมัน ฯ ในปี 2569 

โดยกฎหมายอ้อยและน้ำตาลภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรมจะมีส่วนช่วยทำให้การผลิตและจำหน่ายอ้อยและน้ำตาลทรายสอดคล้องกันกับชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลทรายในการร่วมมือกับทางการ ตั้งแต่ผลิตอ้อยไปจนถึงการจัดสรรเงินรายได้จากการขายน้ำตาลทรายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทุกวันนี้กลายเป็นระบบที่ดีเกษตรกรพอใจที่ได้ผลประโยชน์เพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้แล้ว รองพีร์ยังได้มองถึงการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) หรือ SAF เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพในอนาคต หากมีความต้องการสูงขึ้นจะสามารถดูดซับวัตถุดิบอย่างปาล์มน้ำมันไปใช้เพิ่มได้ แต่ต้องมีการวางแนวทางพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อให้รากฐานเข้มแข็ง เป็นการสร้างความมั่นใจในการลงทุนของผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top