Sunday, 20 April 2025
รถไฟสายใต้

การรถไฟฯ เปิดเดินรถด่วนพิเศษสายใต้เพิ่ม 2 ขบวน เส้นทาง ‘กรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ - กรุงเทพ’ หนุนท่องเที่ยว

‘การรถไฟฯ’เปิดให้บริการขบวนรถด่วนพิเศษสายใต้ เพิ่ม 2 ขบวน เส้นทางกรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพ เริ่ม 11ส.ค. นี้ หนุนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

11 ส.ค. 2565 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเชื่อมต่อระหว่างไทยและมาเลเซีย หลังจากที่ ศบค. ได้ประกาศผ่อนคลายข้อปฏิบัติมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

ทั้งนี้การรถไฟฯ จึงได้เปิดให้บริการขบวนรถสายใต้ เส้นทางกรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพ จำนวน 2 ขบวน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ประกอบด้วย

ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 กรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 15.10 น. ถึงปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) เวลา 09.50 น. (ตามเวลาประเทศไทย) และ2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 46 ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพ ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) เวลา 17.06 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึงกรุงเทพ เวลา 12.45 น.

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้เปิดเดินขบวนรถพิเศษจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ – ชุมทางหาดใหญ่ จำนวน 4 ขบวน ได้แก่

1.ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 947 ชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ เวลาออก 07.30 น. เวลาถึง 08.25 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
2. ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 948 ปาดังเบซาร์ – ชุมทางหาดใหญ่ เวลาออก 07.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เวลาถึง 08.25 น.
3. ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 949 ชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ (ตามเวลาประเทศไทย) เวลาออก 07.30 น. เวลาถึง 08.25 น. 
และ4. ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 950 ปาดังเบซาร์ – ชุมทางหาดใหญ่ เวลาออก 07.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เวลาถึง 08.25 น.

ทั้งนี้ เมื่อเปิดเดินขบวนดังกล่าวแล้วส่งผลให้การรถไฟฯ จะมีขบวนรถให้บริการรวม 200 ขบวนต่อวัน

โดยแบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 56 ขบวน ขบวนรถเชิงสังคมเปิดให้บริการ 144 ขบวน และแบ่งตามเส้นทางได้เป็นสายเหนือ 36 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 46 ขบวน สายใต้ 52 ขบวน สายตะวันออก 24 ขบวน สายมหาชัย 34 ขบวน และสายแม่กลอง 8 ขบวน

‘บิ๊กป้อม’ เคาะ!! ‘EIA รถไฟรางคู่สายใต้’ งบ 5.7 หมื่นล้าน เชื่อมต่อ ‘สุราษฎร์ฯ–หาดใหญ่–สงขลา’ ระยะทาง 321 กม.

เมื่อไม่นานนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ผ่านระบบ VTC ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด โดยที่ประชุมรับทราบเรื่องสำคัญ ประกอบด้วย รายงานสถานการณ์มลพิษฯ ปี 2565 สรุป คุณภาพน้ำ ทั้งแหล่งผิวดิน น้ำทะเลชายและน้ำบาดาล โดยรวมอยู่ในเกณฑ์คุณภาพดี คุณภาพอากาศและเสียงมีแนวโน้มดีขึ้นขยะมูลฝอยชุมชนของเสียและสารอันตรายพบว่าขยะมูลฝอยเพิ่มขึ้นมีการขัดแยกและกำจัดขยะถูกต้องเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันของเสียอันตรายและวัตถุอันตรายมีปริมาณเพิ่มขึ้นกากอุตสาหกรรมที่มีอันตรายมีการแจ้งและนำเข้าสู่ระบบการจัดการเพิ่มขึ้นมูลฝอยติดเชื้อมีปริมาณเพิ่มขึ้นและได้รับการกำจัดอย่างถูกต้องเพิ่มขึ้น

ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการอ่างเก็บน้ำแม่คำ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี – ชุมทางหาดใหญ่ – สงขลา นอกจากนั้น ยังให้ความเห็นชอบการปรับปรุงมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงไฟฟ้า เพื่อควบคุมและแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง

โดยรองนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ร่วมกันทำหน้าที่ให้ข้อคิดเห็นและมุมมองต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อเนื่องที่ผ่านมา พร้อมย้ำโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ขอให้ใช้ความรอบคอบทั้งหลักวิชาการและสภาพจริง รวมทั้งต้องยึดประโยชน์ส่วนรวมและรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อย่างรอบด้าน

พร้อมกำชับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงปัญหาสถานการณ์มลพิษ ทั้งคุณภาพน้ำ อากาศและเสียง รวมทั้งขยะมูลฝอยชุมชน ของเสียและวัตถุอันตราย บางพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม จำเป็นต้องให้น้ำหนักเข้าไปแก้ปัญหาให้ทั่วถึง สำหรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งการทำการเกษตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การปล่อยปริมาณน้ำเสียลงผิวดินเพิ่ม ประกอบกับระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนที่ไม่เพียงพอและไม่สามารถรองรับ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องประสานการทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยขอให้มีแผนงาน มาตรการรองรับและมีการกำกับที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำผลการประชุมดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และดูแลกำกับโครงการต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนด

เปิดตารางเดินรถไฟโดยสารสายใต้ช่วง ‘นครปฐม-ชุมพร’ พบส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ตรงเวลา เลทไม่เกิน 20 นาที

เปิดระบบติดตามขบวนรถไฟ วิ่งผ่านช่วง ‘นครปฐม-ชุมพร’ ส่วนใหญ่ตรงเวลา รถไฟโดยสาร เลทไม่เกิน 20 นาที!!

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 เพจ ‘โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure’ ได้โพสต์อัปเดตความตรงเวลาของขบวนรถไฟ สายใต้ ผ่านระบบติดตามขบวนรถไฟ ระบุว่า…

แล้ววันนี้ก็มาถึง!! วันที่รถไฟทางคู่สายใต้ช่วง ‘นครปฐม-ชุมพร’ ก็ได้เริ่มทะยอยเปิดให้บริการ (วันนี้เปิดช่วงสถานีบ้านคูบัว- สะพลี)

ซึ่งอย่างที่หลายๆ คนทราบว่า เมื่อมีการเปิดให้บริการทางคู่แล้ว ก็มีการปรับเวลาการให้บริการใหม่ทั้งหมด โดยลดเวลาการรอหลีกตามสถานีต่างๆ ซึ่งทำให้เวลาการเดินทางลดลงสูงสุด 2 ชั่วโมง!!

พร้อมเปิดสถานีในทางคู่ โดยเฉพาะสถานีหัวหิน ที่เป็นสถานียกระดับผ่านกลางเมือง แก้ปัญหาจุดตัดจราจรไปด้วย

รายละเอียดตารางเดินรถไฟใหม่
https://www.facebook.com/100067967885448/posts/669466995328891/
—————————

แต่!! ที่เราต้องมาลุ้นมากกว่านั้นคือ พอเปลี่ยนเป็นเวลาใหม่ มันจะเลท 2 - 3 ชั่วโมง แบบในช่วงก่อสร้างหรือไม่?

ผมจึงได้ไปทำการตรวจเช็กจากในระบบ Train Tracking System (TTS) ของการรถไฟ

ลิงก์ระบบตรวจเช็กเวลารถไฟ คลิก >> https://ttsview.railway.co.th

ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจมาก ขบวนส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ตรงเวลา เลทไม่เกิน 20 นาที โดยเฉพาะรถไฟที่วิ่งอยู่ในช่วงทางคู่ใหม่ ดูเวลาแล้วแทบจะไม่เลทเลย!!

ทำได้แบบนี้ก็ต้องชื่นชมครับ ว่าใช้งานได้อย่างเต็มที่

แต่!! ระบบของเราในส่วนอาณัติสัญญาณ ETCS L1 Track Side ยังไม่เสร็จ เพราะจะสามารถเพิ่มความถี่ขบวนรถไฟได้กว่า 4 เท่าตัว รถสามารถวิ่งติดๆ กันไปได้เลย เท่าที่ทราบน่าจะเสร็จอีกประมาณเป็นปี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top