Monday, 24 June 2024
รถเมล์อนาคต

'ส.ก.ก้าวไกล' เตรียมชง 'กม.รถเมล์อนาคต' เข้าสภา กทม. เปลี่ยนรถเมล์ทั่วกรุงเป็น EV ลดควันเสีย-ฝุ่นละออง

'พิธา' เผย 'ส.ก.ก้าวไกล' เตรียมชง 'กฎหมายรถเมล์อนาคต' เปลี่ยนรถเมล์กทม. ทั้งหมดเป็น EV ภายใน 7 ปี เชื่อสภากทม. ไฟเขียว โว สร้างประวัติศาสตร์ผ่านกม. โดย ส.ก. ครั้งแรกในรอบ 22 ปี 

(22 ม.ค.66) เวลา 13.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก. เขตบางซื่อ และนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก. เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัวกฎหมาย 'รถเมล์อนาคต' ซึ่งเป็นข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร ที่จะกำหนดให้รถเมล์ที่วิ่งในกทม. ต้องเป็นรถไฟฟ้า หรือ EV ทั้งหมด โดยมีระยะเวลาสำหรับการเปลี่ยนผ่าน 7 ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายลดฝุ่นละออง PM2.5 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงจะพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถเมล์ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีผู้ใช้งานหลักล้านคน 

โดยนายพิธาได้นำสื่อมวลชนชมรถเมล์สาย 8 แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ หรือตำนานรถเมล์กรุงเทพ โดยกล่าวว่ารถเมล์คันนี้ แม้สีสันจะดูใหม่ แต่ข้างในเก่า รถคันนี้เดิมเป็นรถเมล์สีครีมแดง ของข.ส.ม.ก. ก่อนจะปลดระวางมาขายต่อให้รถร่วมฯ เปลี่ยนสีใหม่ แต่เครื่องยนต์เก่า พื้นเป็นไม้กระดาน ซึ่งรถคันนี้สร้างเมื่อปี 1960 วันนี้มีอายุ 62 ปีแล้ว ถ้าเป็นคนก็ต้องเกษียณอายุแล้ว แต่กลับยังใช้งาน วิ่งปล่อยควันเสีย ฝุ่นละอองอยู่ทุกวัน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่มีมลภาวะติดอันดับโลก

‘ก้าวไกล’ เผย ‘รถเมล์อนาคต’ วาระแรก ผ่านสภา กทม.แล้ว ดันกฎหมายรถเมล์ไฟฟ้าทั้งกรุงเทพฯ ภายใน 7 ปี

(11 เม.ย. 66) เฟซบุ๊กแฟนเพจหลักของ ‘พรรคก้าวไกล - Move Forward Party’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงประเด็นร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต โดยมีเนื้อหาระบุว่า…

[ร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต ผ่านสภา กทม. วาระ 1 ด้วยคะแนนเสียง 33-3 เป็นความสำเร็จของ ส.ก.ก้าวไกล ที่ผลักดันกฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคน กทม. ลดฝุ่น ลดโลกร้อน ได้รถเมล์ดีมีคุณภาพ]

ส.ก.พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล ในฐานะ ส.ก.คนสำคัญที่ผลักดันข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต เปิดเผยว่าเนื้อหาสำคัญของกฎหมาย ‘รถเมล์อนาคต’ คือการเปลี่ยนรถเมล์สันดาป เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) ภายใน 7 ปี

นายพุทธิพัชร์ กล่าวว่า กลไกของข้อบัญญัตินี้ ไม่ได้บังคับผู้ประกอบการเดินรถโดยตรง แต่เป็นการบอกว่า “เฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่สามารถเดินทางได้ภายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร”

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา กทม. จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปี ถ้าพ้นจาก 1 ปีไปแล้ว นอกจากรถเมล์ที่ยังมีสัมปทานเดินรถ รถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถเดินทางสัญจรได้ในพื้นที่ กทม.

ส่วนรถเมล์ที่มีสัมปทานเดินรถเดิม ก็จะทยอยหมดอายุสัมปทาน ซึ่งอายุสัมปทานนานที่สุดที่มีการต่อคือ 7 ปี นั่นหมายความว่าภายใน 7 ปี รถเมล์ทั้งหมดที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นรถเมล์ EV ทั้งหมด

นายพุทธิพัชร์ ยืนยันว่า ข้อบัญญัติที่สภา กทม. ทำไม่ใช่การจำกัดสิทธิเสรีภาพของเอกชน แต่เป็นการใช้อำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยืนยันว่าเราไม่อนุญาตให้รถที่ไม่ผ่านมาตรฐานเดินทางเข้ามาในพื้นที่ กทม.

“เรื่องนี้เป็นการใช้อำนาจของท้องถิ่นปกป้องชีวิตคนในเมือง ในอดีตก็เคยมีการใช้อำนาจแบบเดียวกันมาแล้วในสมัย อดีตผู้ว่าฯ กทม. พิจิตร รัตกุล ที่เคยสั่งห้ามรถเมล์ที่ก่อมลพิษเกินค่ามาตรฐานเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ” นายพุทธิพัชร์ กล่าว

ข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต หลังจากที่ผ่านวาระ 1 รับหลักการในวันนี้แล้ว คาดว่าจะผ่านวาระ 3 ได้ในสมัยประชุมหน้า ต้นเดือนกรกฎาคม 2566 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ข้อบัญญัติ ‘รถเมล์อนาคต’ ผ่าน นายพุทธิพัชร์ เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลเราจะเดินหน้าต่อในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นร่างแก้ไขข้อบัญญัติควบคุมอาคาร ที่จะมีข้อกำหนดเรื่องการควบคุมการปล่อยความร้อนและพื้นที่สีเขียว หลังจากนั้นเราจะเดินหน้าต่อเรื่องการลดการปล่อยฝุ่นควัน PM2.5 จากแหล่งอื่น ๆ

“ปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาที่เรารอไม่ได้ ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ แม้แต่คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ก็กำลังสูดมลพิษทางอากาศเข้าไป เท่ากับสูบบุหรี่วันละ 3.2 มวน อากาศในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ข้อบัญญัติแบบนี้จึงสมควรมีตั้งนานแล้ว” นายพุทธิพัชร์ กล่าว

นอกจากนี้ ‘Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า ได้แสดงความเห็นต่อความสำเร็จของพรรคก้าวไกลในสภากรุงเทพฯ ว่า กฎหมายรถเมล์อนาคตผ่านสภากรุงเทพฯ เป็นการเปิดมิติใหม่ในการพัฒนาเมือง

รถเมล์ไฟฟ้าจะช่วยเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนกรุงเทพฯ ตนภูมิใจมากที่พรรคก้าวไกลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ และผลักดันจนเป็นกฎหมายเมืองออกมาได้สำเร็จ และมากไปกว่านั้น กฎหมายเมืองฉบับนี้คือมิติใหม่ของการเมืองท้องถิ่นอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา เราแทบไม่เคยเห็นกรุงเทพ, อบจ. จังหวัดต่าง ๆ, เทศบาล หรือ อบต. เสนอกฎหมายเพื่อการพัฒนาบ้านเมืองตัวเองเลย การพัฒนาล้วนแต่ถูกกำหนดกฎเกณฑ์และรูปแบบผ่านส่วนกลาง

นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์ของการพัฒนาท้องถิ่น เป็นการเปิดประตูบานใหม่ เป็นการเพิ่มเครื่องมือในการพัฒนาเมืองให้กับท้องถิ่น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top