Monday, 21 April 2025
รถซิ่ง

ตร. เตือน ‘สายซิ่ง – สายแว้น’ โทษหนัก!! เสี่ยงถูกยึดรถ ส่วนผู้ปกครอง เจ้าของรถและร้านแต่งรถ อาจโดนคดีด้วย!

วันที่ 2 พ.ย. 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) รับผิดชอบการป้องกันและปราบปรามในความความผิดการแข่งรถในทางฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 1,200,000 ราย และยึดรถที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนกว่า 320,000 คัน นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว ให้ทราบถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งท่านอาจจะต้องถูกดำเนินคดี โดยมีฐานความผิดหลักที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้แก่

ส่วนของผู้ขับขี่

- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(8) ประกอบมาตรา 160

- แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 เดือน เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 134 ประกอบมาตรา 160 ทวิ

ส่วนของผู้ปกครอง

- ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26(3) ประกอบมาตรา 78

- สนับสนุน ปล่อยปละละเลย ให้เด็กและเยาวชนรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อแข่งรถในทาง เจ้าหน้าที่สามารถตักเตือน ทำทัณฑ์บน หรือให้วางเงินประกัน และหากเด็กและเยาวชนกระทำความผิดซ้ำอีก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท และให้ริบเงินประกัน ตาม คำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง ข้อ 2

ส่วนของเจ้าของรถ

- ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26(3) ประกอบมาตรา 78

- เป็นเจ้าของรถหรือคนขับรถยินยอมให้ผู้ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือมีใบอนุญาตขับรถประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้ เข้าขับรถของตนหรือรถที่ตนเป็นคนขับ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 56 ประกอบมาตรา 60

ส่วนของร้านรับแต่งรถ

- โฆษณา จำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยรู้อยู่ว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 มาตรา 36 ประกอบมาตรา 55

- ดำเนินกิจการตามประเภทที่มีข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดให้เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมตามมาตรา 32 ในลักษณะที่เป็นการค้า จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ประกอบมาตรา 71

- ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้มีการแข่งรถในทาง โดยการผลิต ครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม คำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง ข้อ 3

 

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี แถลงข่าว ’กวาดล้างการแข่งรถ’!! จับกุม รถจยย.แต่งซิ่ง 136 คัน

เมื่อวันที่ 9 พฤจิกายน 2564 เวลา 13:00 น. พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางมหรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น การรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือโดยพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง อันเป็นการก่อความเดือดร้อน รำคาญและเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม 

ซึ่งในปัจจุบันยังปรากฎภาพข่าวหรือเหตุการณ์การแข่งรถในทาง การขับรถในลักษณะผิดปกติวิสัยของการขับรถธรรมดา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นเพื่อให้การดำเนินการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลภ.จว.ปทุมธานีได้ออกแนวทางการปฏิบัติและกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ใน ภ.จว.ปทุมธานี จากการระดมกวาดล้างดังกล่าวมีผลการปฏิบัติ 

ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

1. ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 136 คัน 

2.ตรวจยึดท่อไอเสียไม่ได้มาตราฐาน 52 อัน 

3.ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน 1 คดี 

4.เปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดระเบียบไว้และใช้รถนั้น 42 คดี 

5.ใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ 65 คดี 

6.ขับรถโดยไม่ได้รับอนุญาต 245 คดี 

7.ใช้รถที่ยังมิได้จดทะเบียน 7 คดี 

8.แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 คดี 

9. ทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ 7 คดี 

10.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 1 คดี 

ลูกแว๊น! สร้างความเดือดร้อน พ่อแม่งานเข้า!! ปล่อยปละละเลย ถูกจับ "ยึดรถ-ปรับ-ติดคุก"

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร. เผยว่า จากกรณีที่มีการจับกุมแก๊งจักรยานยนต์ที่มาจากหลายพื้นที่มารวมตัวร่วมขบวน “ทริปไม่อาบน้ำ” ไปเที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ห้วงวันที่ 6-7 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา 

โดยแก๊งรถจักรยานยนต์กลุ่มดังกล่าว จะขับขี่เกาะกันมาเป็นกลุ่ม ๆ บางกลุ่มจะขับขี่ด้วยความเร็ว และขับขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียวเต็มท้องถนน ส่งเสียงดังสนั่น แบบไม่สนใจใคร สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน อีกทั้งทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 

โดยเฉพาะหนึ่งในอุบัติเหตุนั้นก็คือ การที่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์(Big Bike) ได้ขับขี่ด้วยความเร็ว และเกิดการเฉี่ยวชนกัน จนทำให้รถเกิดเสียหลักไปชนท้ายรถยนต์เก๋งจนได้รับความเสียหาย ส่วนรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ถึงกับขาดออกจากกันเป็น 2 ท่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน ได้ยกซากรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป โดยไม่รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน นั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษก ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศหากพบการกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินคดีอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และได้จัดตั้ง“ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.)” ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ โดยมีพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็น ผู้อำนวยการศูนย์

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มรถจักรยานยนต์ไปแล้วหลายกลุ่มและบางคดีศาลยังมีคำพิพากษาให้ริบรถอีกด้วย จึงขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ที่มีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนบนท้องถนน ไม่คำนึงถึงปลอดภัยของพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และ ขอเตือนไปยังผู้ปกครอง ว่าอย่าได้ปล่อยปละละเลย และขอให้ช่วยทางเจ้าหน้าที่เป็นหูเป็นตาดูแลบุตรหลานของท่าน อย่าให้ออกมาสร้างความเดือดให้กับผู้อื่น เพราะไม่ใช่แค่ ผู้ขับ และ ผู้ซ้อน ที่จะมีความผิดแต่กฎหมายยังเอาผิดกับตัวผู้ปกครองอีกด้วย โดย 

>> "คนขับ" มีความผิดตาม มาตรา 43 พรบ.จราจรทางบกฯ - ผิด “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย” จำคุก 3 เดือน ปรับสูงสุด 10,000 บาท, คุมประพฤติ, ทำงานบริการสังคม 

>>"คนซ้อน" มีความผิดตาม มาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา - ผิด “สนับสนุน” รับโทษ 2 ใน 3 ของคนขับ, คุมประพฤติ, ทำงานบริการสังคม 

>> "ผู้ปกครอง" มีความผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็กฯ มาตรา 26(3) - บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติ เสี่ยงต่อการกระทำผิด ผู้ปกครองอาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุด 30,000 บาท 

>> "ยึดรถ" ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558

ข้อ 1 ห้ามมิให้ผู้ใดรวมกลุ่มหรือมั่วสุมหรือจัดให้มีการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือโดยพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนําไปสู่การแข่งรถในทางอันเป็นความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top