Thursday, 5 June 2025
ยาสูบ

‘ฟิลิปปินส์ - อังกฤษ’ ย้ำจุดยืน!! ‘ไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้า’ เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าแนะไทย ดูเป็นแบบอย่าง

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า เผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมยาสูบโลก ชี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ลุกขึ้นแถลงจุดยืนกลางที่ประชุมฯ ว่าจะเน้นนโยบายควบคุมยาสูบแบบสมดุล ทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และจะไม่แบนบุหรีไฟฟ้า เพื่อป้องกันผลเชิงลบ ขณะที่อังกฤษระบุอัตราผู้สูบบุหรี่ลดต่ำสุด เป็นผลมาจากมาตรการที่ครอบคลุมรวมถึงการสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า แนะประเทศไทยเดินตามรอยสองประเทศ เพื่อประโยชน์ประเทศและผู้สูบบุหรี่

นายอาสา ศาลิคุปต เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ และเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" เผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ ขององค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 9 หรือ FCTC COP 9 ระบุว่า “กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์เป็นตัวแทนของประเทศลุกขึ้นเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกพิจารณาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ เพื่อทำให้มาตรการควบคุมการสูบบุหรี่กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง ฟิลิปปินส์ยอมรับว่าการเก็บภาษีบุหรี่ทำให้รัฐบาลมีรายได้จำนวนมาก เพื่อใช้บริหารประเทศและทำกิจกรรมรณรงค์เลิกบุหรี่ แต่ฟิลิปปินส์รู้ว่าการเก็บภาษีอย่างสุดโต่งไม่ทำให้การเลิกบุหรี่สำเร็จได้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมยาสูบแบบสมดุลทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และย้ำอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแน่นอน”

นายเทอโดโร ลอคสิน จูเนียร์ รมว.ต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมระหว่างการเปิดประชุม FCTC COP 9 ว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งทำให้เกิดตลาดใต้ดินและการลักลอบนำเข้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งฟิลิปปินส์เสนอว่าการแก้ปัญหาบุหรี่และตลาดใต้ดินบุหรี่ไฟฟ้าจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และการปรึกษาหารืออย่างครอบคลุมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

ขณะที่ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศอังกฤษกล่าวว่า อัตราการสูบบุหรี่ในประเทศอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 20 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีบุหรี่ การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ และการสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับการควบคุม

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายลาขาดควันยาสูบ อีกรายกล่าวเสริมว่า “ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งสรุปตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ จึงเพิ่งผ่านร่างกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นกรอบควบคุมยาสูบรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้ดอันตรายให้กับผู้สูบบุหรี่ได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันการขายผลิตภัณฑ์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนอังกฤษก็เป็นประเทศต้นแบบที่สนับสนุนเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ สองประเทศนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการพิจารณาอย่างรอบคอบและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย มาตรการที่ออกมาจึงมีการศึกษาข้อดีและผลกระทบอย่างรอบคอบแล้ว”

 

‘ส.ส. ก้าวไกล’ ซัด!! ‘สสส.’ ขาดความโปร่งใสในการใช้งบ 4 พันล้าน ชี้!! สสส. ทำงานเหมือนแดนสนธยา

2 ส.ส. พรรคก้าวไกลชำแหละรายงานประจำปีกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ชี้เหมือนแดนสนธยา ใช้งบประมาณเก่ง แต่จัดการปัญหายาสูบไม่ประสบผลสำเร็จ ยกตัวอย่างการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่สวนทางนานาชาติ ซัดพูดความจริงไม่หมดและขาดความโปร่งใสในเรื่องบทบาททับซ้อน

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายรายงานประจำปีของ สสส. ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 15 ระบุว่า “สังคมไทยเริ่มมีการแสดงความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า แต่ในรายงานของ สสส. ยังคงยืนกระต่ายขาเดียวต่อต้านเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย และนำเสนอแต่ข้อมูลที่ผิด ๆ ที่พูดถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าและการเกิดนักสูบหน้าใหม่ ซึ่งตนเห็นว่า สสส. พูดความจริงไม่หมด เพราะมีงานวิจัยในต่างประเทศอีกจำนวนมากที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ สสส. รายงาน เช่น ประเทศอังกฤษ ที่กำลังศึกษาเพื่อใช้บุหรี่ไฟฟ้าทางการแพทย์เพื่อช่วยให้ผู้ติดบุหรี่เลิกบุหรี่ได้ นอกจากนี้ ผมยังได้ยินประสบการณ์ตรงจากคนรอบข้างที่เคยสูบบุหรี่มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นที่บอกว่าเมื่อเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ทำให้ไม่สามารถกลับไปสูบบุหรี่ได้อีก”

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อโลกมีทางเลือกใหม่ ประเทศไทยก็จำเป็นต้องศึกษาอย่างรอบด้าน นำผลวิจัยมาถกเถียงกันอย่างมีเหตุผล และหาวิธีป้องกันเยาวชน เช่น การห้ามการแต่งกลิ่นน้ำยานิโคติน ศึกษาวิจัยสารปนเปื้อน และทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ แทนที่จะยกงานวิจัยของฝ่ายเดียวมาพูด แล้วอ้างตรรกะผิด ๆ ว่างานวิจัยของฝ่ายตรงข้ามได้รับทุนวิจัยจากบริษัทบุหรี่ ปัจจุบันมี 35 ประเทศที่ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่อีก 73 ประเทศก็อนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าภายใต้การควบคุมได้ และไม่มีใครเรียกร้องให้เปิดเสรีบุหรีไฟฟ้า มีแต่เรียกร้องให้ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าและเก็บภาษีและมีมาตรการควบคุมที่เหมาะสมเช่นเดียวกับบุหรี่มวน เช่นการควบคุมอายุขั้นต่ำ การควบคุมปริมาณ สารนิโคติน ความปลอดภัย และการจัดประเภทให้ถูกต้อง”

“อยากตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของ สสส. ที่ให้ทุนงานวิจัยที่เป็นลบหรือศึกษาความอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น บางงานวิจัยที่ต้องการศึกษาอย่างเป็นกลางว่ามี harm reduction หรือไม่กลับไม่ได้รับทุน จึงอยากขอให้เปิดเผยโครงการงานวิจัยที่ได้รับทุนและที่มาขอทุน และตั้งคำถามว่าอีก 70 กว่าประเทศที่เขาอนุญาตบุหรี่ไฟฟ้าขายได้ตามกฎหมายนั้นได้รับทุนข้ามชาติหรือถูกล๊อบบี้จากบริษัทเหล่านี้หรือไม่ และยังต้องตั้งคำถามว่า สสส. ที่ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าขณะนี้ถูกล๊อบบี้จากใคร”

ด้าน “หมอเอก” นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส. เชียงราย ระบุว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ผมได้อภิปรายรายงานของ  สสส. เกี่ยวกับความโปร่งใสในการทำงานของ สสส. เพราะที่ผ่านมา 20 ปีทำงานโดยไม่มีความโปร่งใสเลย  สสส. ทำตัวเหมือนแดนสนธยา ใช้งบประมาณ 4 พันล้านบาทเทียบเท่า 1 กระทรวง ใช้เงินโดยไม่ผ่านสภาและไม่มีคนนอกมากำกับดูแล และไม่สามารถหาข้อมูลว่า สสส. ให้งบประมาณกับใคร หน่วยงานไหนไปแล้วบ้าง ก็ไม่สามารถหาข้อมูลได้ ผมจึงตั้งใจมาช่วยล้างบางมาเฟียใน สสส.

 

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า ชี้! นายกนิวซีแลนด์ หนุนมาตรการ ให้ทางเลือกผู้สูบบุหรี่ ยันไม่ปิดกั้นเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “ลาขาดควันยาสูบ” หรือ ECST และแอดมินเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน เผยหลังมีข่าวรัฐบาลนิวซีแลนด์เคาะมาตรการเด็ดขาดเพื่อหยุดการสูบบุหรี่ในคนรุ่นใหม่ โดยห้ามเด็กเกิดหลังปี 2551 ซื้อบุหรี่หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบไปจนตลอดชีวิตว่า “วัตถุประสงค์ของการทำให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศปลอดควันมี 2 ส่วนสำคัญคือ 

1.) การควบคุมผลิตภัณฑ์ไร้ควันและสร้างความแตกต่างจากบุหรี่แบบเผาไหม้เพื่อสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เลิกบุหรี่หรือเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกที่เป็นอันตรายน้อยกว่า

และ 2.) การเข้มงวดกับบุหรี่ซิกาแรตที่มีการเผาไหม้เพื่อค่อย ๆ ให้หมดไป เพราะนิวซีแลนด์ตั้งเป้าหมาย 'Smokefree 2025' เพื่อลดอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศให้เหลือต่ำกว่า 5% ภายใน ค.ศ. 2025 ซึ่งมาตรการทั้งหมดมาจากการยอมรับแนวทางการลดอันตรายจากยาสูบ (tobacco harm reduction) และชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้จำกัดการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนิวซีแลนด์มองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเลิกบุหรี่”

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิน กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “เรากำลังเห็นการใช้ผลิตภัณฑ์ไร้ควัน (การเวป) เป็นเครื่องมือในการเลิกสูบบุหรี่ของคนจำนวนมาก และนี่ทำให้เราสามารถผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อลดการสูบบุหรี่เพราะมีทางเลือกที่ผู้สูบบุหรี่สามารถใช้เลิกสูบบุหรี่ได้อย่างประสบความสำเร็จ เรารู้ว่าการเวปได้สร้างความแตกต่างให้กับคนเหล่านั้นเพื่อเลิกสูบบุหรี่และเป็นเครื่องมือที่สำคัญ”

คณะกรรมาธิการฯ เผยผลการศึกษา ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายเติบโตก้าวกระโดด เยาวชนเข้าถึงง่ายเกินกว่าจะควบคุม

คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพและการบังคับใช้กฏหมายด้านสาธารณสุข ได้มีการ พิจารณาปัญหาการควบคุมยาสูบที่ไม่สามารถลดอัตราผู้สูบบุหรี่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ของแผนควบคุมการ บริโภคยาสูบ มีการเติบโตขึ้นของตลาดบุหรี่ลักลอบนำเข้า และตลาดบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งมีการพิจารณาข้อมูลวิชาการทั้งจากของไทยและข้อมูลวิชาการจากต่างประเทศ พิจารณาปัญหาการบัง คับใช้กฏหมาย ปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ พิจารณาข้อร้องเรียนจากเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ ข้อร้องเรียนเพื่อคุ้มครองสิทธิของทั้งผู้สูบบุหรี่และผู้ไม่สูบ บุหรี่ ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการคุกคามสื่อ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของบุคคลบางกลุ่ม

ในวันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของอนุกรรมาธิการในเรื่องปัญหาการควบคุมยาสูบ ก่อนที่จะสรุปเป็นเล่ม รายงานส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

การประชุมวันนี้จะเป็นเรื่องพิจารณาข้อร้องเรียนจากสื่อมวลชนที่ถูกคุกคามเสรีภาพการเสนอข่าวเกี่ยวกับบุหรี่ ด้วยการตีความกฏหมาย พรบ.ควบคุมยาสูบ ในเรื่องการโฆษณาที่กว้างเกินกว่าที่ตัวบทกฏหมายกำหนด ด้วย การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เรียกสื่อมวลชนเข้าพบ หรือบางกรณีก็ถึงขั้นส่งดำเนินคดีก็มี และ อีกเรื่องที่สำคัญ คือ การจับกุมผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ตามที่เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมาหลายครั้ง ซึ่งทางอนุกรรมาธิการได้เคยมีการประชุมวาระประเด็นนี้โดยเชิญผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทน จากสำนักงานอัยการสูงสุดมาพิจารณาข้อกฏหมายร่วมกัน ได้ข้อสรุปจากการประชุมว่า บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ และมีประกาศคณะ กรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องการห้ามจำหน่าย จ่าย แจก ให้บริการ แต่สำหรับผู้ครอบครองนั้น ตาม พรบ.ศุลกากร ฉบับเดิม มีมาตรา 27ทวิ เขียนถึงความผิดเกี่ยวกับการครอบ ครอง การรับไว้ การเอาไปเสีย ซึ่งของต้องห้าม แต่ใน พรบ.ศุลกากร 2560 ได้ตัดมาตราเดิมนั้นออก และในส่วนของการลักลอบสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร นั้น ตามาตรา 242, 246 ไม่ได้กล่าวถึง ของต้องห้าม โดยใจความเป็นการเอาผิดกับของที่้ลักลอบหนีภาษีไม่ ผ่านพิธีการศุลกากร

สรุปคือ เจ้าพนักงานตำรวจจะตั้งข้อกล่าวหาผิด พรบ.ศุลกากร กับผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ จะถือว่าเป็นการ ตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีโดยมิชอบ

ในส่วนของผลการศึกษาของอนุกรรมาธิการ เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า การดำเนินการด้านการควบคุมยาสูบควร ต้องมีการทบทวนทั้งในส่วนของการดำรงตำแหน่งของกรรมการควบคุมยาสูบแห่งชาติโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ทรง คุณวุฒิ ซึ่งทางอนุกรรมาธิการได้ส่งเรื่องกรณีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง และ กรณีการขัดกันแห่งผล ประโยชน์ให้กรรมาธิการ ปปช. สอบหาข้อเท็จจริงต่อไปแล้ว

‘สหรัฐฯ’ ชี้ เยาวชนในประเทศ 2.8 ล้านคน ใช้ ‘ยาสูบ’ เกลื่อน พบ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ หนักสุด เตรียมใช้มาตรการควบคุมมากขึ้น

เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ รายงานจำนวนนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายในประเทศที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบรวมอยู่ที่ราว 2.8 ล้านคนในปี 2023 โดยบุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในหมู่เยาวชนอเมริกัน

รายงานระบุว่า ร้อยละ 25.2 ของนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายในสหรัฐฯ ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันสูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน และร้อยละ 89.4 สูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบปรุงแต่งรสชาติ โดยศูนย์ฯ เตือนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในรูปแบบต่างๆ ของเยาวชนนั้นไม่ปลอดภัย

ศูนย์ฯ ระบุว่า การเฝ้าติดตามทางสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับดำเนินยุทธศาสตร์ควบคุมยาสูบแบบอ้างอิงหลักฐาน เช่น การเข้าช่วยเหลือเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ การรณรงค์ผ่านสื่อมวลชน ระเบียบข้อบังคับของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ และนโยบายป้องกันยาสูบที่ผ่านการพิสูจน์แล้วอื่นๆ อาจลดการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบของเยาวชนได้

มุกดาหาร สรรพสามิตพื้นที่ตรวจยึดสุรา 145 ขวด ยาสูบ 25,940 ซอง รวมมูลค่าประมาณ 1,786,635 บาท ส่งขายออนไลน์

สรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร ตรวจยึดสุรา 145 ขวด และยาสูบ จำนวน 25,940 ซอง รวมมูลค่าประมาณ 1,786,635 บาท ที่บริษัทขนส่งเอกชน สาขามุกดาหาร เขตตำบลบางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร

วันที่ 20 ส.ค. 67 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต นายพยุง บุญสมสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม นางภาวนา เกียรติชูศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 4 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร โดยนายสันทัด รังคพุทธมานะ สรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร ทุกสาขาทุกพื้นที่ ดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดสินค้าตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะสินค้าสุรา ยาสูบ ที่ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดน และส่งขายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเข้มงวด กระทั่งวันที่ 19 สิงหาคม 67 นายสันทัด รังคพุทธมานะ สรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการส่งสุรา ยาสูบที่ผิดกฎหมายให้กับผู้สั่งซื้อทางออนไลน์ จากขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในมุกดาหาร จึงบูรณาการสายตรวจปราบปรามสรรพสามิตพื้นที่มุกดาหารทุกสาย เข้าดำเนินการ นำโดย นายยุทธนา หวังกลับ สรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองมุกดาหาร เข้าไปยังบริษัทขนส่งเอกชนสาขามุกดาหารแห่งหนึ่ง โดยแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมแจ้งว่ามีผู้จะมีการลักลอบส่งสุรา ยาสูบ ผิดกฎหมาย ณ บริษัทขนส่งเอกชน จึงขออนุญาตตรวจค้น โดยตัวแทนขนส่งเอกชนได้อนุญาตและยินยอมพร้อมนำพาการตรวจจนแล้วเสร็จ ผลการตรวจสอบพบกล่องพัสดุตามที่ได้รับแจ้ง ภายในกล่องพัสดุบรรจุยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรตและสุราที่มิชอบด้วยกฎหมายยี่ห้อต่างๆ ดังนี้ ยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต 1. ยี่ห้อ JN GREEN จำนวน 9,920 ซอง 2. ยี่ห้อ กรองทิพย์ 90 จำนวน 580 ซอง 3. ยี่ห้อ JN RED จำนวน 3,820 ซอง 4. ยี่ห้อ BATOS 8 (สีเขียว) จำนวน 2,070 ซอง 5. ยี่ห้อ BATOS 8 (สีฟ้า) จำนวน 460 ซอง 6. ยี่ห้อ เพ็ด (สีทอง/น้ำตาล) จำนวน 3,420 ซอง 7. ยี่ห้อ เพ็ด (สีแดง) จำนวน 2,130 ซอง 8. ยี่ห้อ LM สีแดง (BLEND OF U.S.A) จำนวน 550 ซอง 9. ยี่ห้อ LM สีเขียว (BLEND OF U.S.A) จำนวน 400 ซอง 10. ยี่ห้อ JN Slim (สีฟ้า) จำนวน 1,400 ซอง 11. ยี่ห้อ MARLBORO สีแดง จำนวน 480 ซอง 12. ยี่ห้อ MARLBORO สีเขียว จำนวน 260 ซอง 13. ยี่ห้อ TEXAS 5 สีเขียว จำนวน 130 ซอง 14. ยี่ห้อ TEXAS 5 สีแดง จำนวน 120 ซอง 15. ยี่ห้อ TEXAS 5 สีฟ้า จำนวน 160 ซอง 16. ยี่ห้อ TEXAS 5 สีทอง จำนวน 40 ซอง
ตรวจพบสุราต่างประเทศมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้

1. สุราขาว ขนาดบรรจุ 0.350 ลิตร จำนวน 130 ขวด 2. สุราผสม BLUE WHISKY ขนาดบรรจุ 0.700 ลิตร จำนวน 15 ขวด รวมของกลาง ยาสูบจำนวน 25,940 ซอง และสุราจำนวน 145 ขวด มูลค่าของกลางประมาณ 1,786,635 บาท คิดเป็นค่าภาษียาสูบประมาณ 1,119,839 บาท ค่าภาษีสุราประมาณ 5,061 บาท รวม 1,124,900 บาท เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางทั้งหมดไปที่ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top