Thursday, 9 May 2024
ม้าอรนภา

'อรนภา' แจง!! ตบดารารุ่นน้องกลางห้างดังเกาหลี ชี้!! ทนายดังเขียนเกินไป อย่าใช้คำว่าตบ

ม้า อรนภา เปิดปากพูดแล้ว หลังโดนโยงดราม่า ดารารุ่นใหญ่ตบดาราหนุ่มรุ่นน้องกลางห้างดังเกาหลี เหตุเพราะไม่ไปกินปูด้วย

(26 พ.ย.65) จากกรณี ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เผยข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “นักแสดงรุ่นใหญ่ลายคราม รับจ็อบพาลูกค้าซึ่งเป็นนักแสดงน้องใหม่ ไปเสริมหล่อที่เกาหลี ปรากฏว่าไม่พอใจที่ชวนไปกินปูแล้วน้องดาราไม่ไป ตบหน้าฉาดใหญ่กลางห้างดัง!!!” จนกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ มีการสอบถามกันจ้าละหวั่นว่า รุ่นใหญ่คนนั้นคือใคร?

‘เอ็ม นันทวัฒน์’ ประกาศกลางผับเชียงใหม่ ลั่น!! “ผมโดนตบ ไม่ได้โดนแตะ”

กรณีที่ ‘เอ็ม นันทวัฒน์ ผ่องบุรุษ’ ออกมายืนยันว่าตนเองถูกตบหน้า ไม่ได้โดนแตะที่ประเทศเกาหลี ตามที่ ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ อ้าง พร้อมยันให้อภัยม้า แต่จะขอฟ้องอีกฝ่ายให้บทเรียน

เรื่องเริ่มเงียบ ๆ ไปสักพัก แต่ล่าสุดก็มีประเด็นอีกแล้ว หลังจากมีการเผยคลิปเอ็ม อยู่ในสถานบันเทิงชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ดี ๆ เจ้าตัวก็ขึ้นบูธดีเจ คว้าไมค์มาพูดว่า “ผมอยากให้ทุกคนเอ็นจอย และเชื่อในสิ่งที่ผมอยากพูดนะครับ ผมโดนตบ ไม่ได้โดนแตะ” พูดเสร็จก็ลงจากเวทีไป ทำคนในร้านงงตาแตก

‘ม้า อรนภา’ เปิดใจ เหตุหายหน้าหายตาไปนาน เผย ไม่ได้อยากออกจากวงการเอง แต่ถูกบังคับ!!

(18 มี.ค. 66) หลังจากหายหน้าหายตาออกจากวงการไปนาน ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ ล่าสุดได้มาออกรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ให้แฟน ๆ หายคิดถึง หลังจากเคยมีประเด็นตบหน้า ณ กรุงโซลมาแล้ว 1 รอบ ก็มิวายโดนชาวเน็ตแซะเรื่อง ‘น้องเมญ่า ซันซัน’ Miss Fabulous Thailand 2023 อีกรอบ แถมโดนด่าแรงว่า “อีแก่” ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่าโกรธมาก แถมในรายการยังมีการเล่าถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าออกจากวงการเอง หรือถูกใครสั่งออกกันแน่อีกด้วย

เมื่อถามว่า วันที่ม้าตัดสินใจหันหลังให้วงการบันเทิง วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?

“จริง ๆ ดิฉันไม่ได้หันหลังให้กับวงการบันเทิง แต่เขาเพียงแต่ว่า ไม่ให้ดิฉันอยู่ในวงการบันเทิงมากกว่า” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามว่า ใครจะกล้ามาสั่งม้าให้ออกจากวงการบันเทิง?

“ก็วันนั้นที่ดิฉันต้องไปออกรายการอ่านข่าว และเขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งมาให้หยุดก่อน ตั้งแต่วันนั้นที่หยุด ก็หยุดไปจนถึงวันนี้ กระทั่งรายการที่เป็นรายการวาไรตี้” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำให้หยุดงานคืออะไร ม้า อรนภาไปทำผิด ไปทำคดี หรืออะไรที่เป็นคำสั่งศาลห้ามปรากฎตัวในสื่อหรือ?

“ก็มันไม่มีอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าเขาก็มีคำสั่งมาเอง ด้วยเหตุที่ว่าตอนนั้นกระแสมันออกมารุนแรงมากขึ้นใช่ไหมคะ อย่างบ้านเมืองเราวันนี้ มันเป็น 2 ฝ่ายใช่ไหม มันก็เป็น 2 ฝ่ายตลอดมาถึงทุกวันนี้ นั้นอีกฝ่ายหนึ่งมันก็รุมกระหน่ำ จนกระทั่งมันเป็นกระแสที่ทำให้ดิฉันวินาศสันตะโรได้ จากเรื่องที่ 1 คือในเฟซบุ๊กของน้องคนหนึ่งที่อยู่ในวงการ ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่แล้วนะคะ ฉันก็อยู่ในวงการ เสร็จแล้วเขาก็โพสต์เกี่ยวกับเด็กเมื่อก่อนที่เรากำลังมีปัญหาในสังคมกับการยกนิ้ว 3 นิ้วค่ะ และก็มีการแอนตี้ หรือวิธีการก่อม็อบกันในโรงเรียน เสร็จแล้วเขาก็จะมีกฎหมายซึ่งจะไม่ให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมแบบนี้ในโรงเรียนก็จะให้ผู้ปกครองเซนเด็กก็มาฉีกจดหมายแล้วเผา ยกมือ 3 นิ้ว เขาก็เอามาโพสต์แล้วก็บอกว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เยอะมากด่า ๆ กัน คือ ด่าเด็กไม่ควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ ดิฉันอ่านแล้วก็มีความรู้สึกว่า โรงเรียนนี้ดิฉันมีความผูกพันเพราะไม่ว่าจะเป็นพี่ น้อง ญาติ หลาน เรียนที่นี่กันหมด และเราก็รู้จักกับเบื้องบนด้วย นึกออกไหมคะ ดังนั้นเนี่ย เราเคยทำงานให้กับโรงเรียนนี้ด้วย ผลปรากฎว่าดิฉันก็ทนไม่ได้ว่า มันไม่ควรทำแบบนี้ เราก็เลยคอมเมนต์บ้าง ลักษณะคอมเมนต์ของดิฉันก็ ชัดเจน รุนแรง ตรงไป ตรงมา ถ้าทำแบบนี้ก็ให้ไปแหกนอนอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องมาเรียนแล้วกัน ง่ายดี นึกออกไหม มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องนึกออกไหมคะ ก็คือจบ” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามว่าม้า อรนภา มีความเห็น ก็เลยคอมเมนต์บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คอมเมนต์เพียงแค่ผู้เดียว ทุกคนก็คอมเมนต์?

“ใช่ค่ะ ทุกคนก็คอมเมนต์หมด แล้วเสร็จแล้วเนี่ย ดิฉันก็มีความรู้สึกว่าโอเค ก็ไปแต่งตัวจะไปทำงาน พอแว็บนึงประมาณ 5 นาที ดิฉันก็มีความคิดว่า เอ๊ะ มันคงแรงไปนะ ดิฉันเลยกลับมา แล้วลบออก แค่ 5 นาทีมาลบออก พอลบเสร็จ ทางฝ่ายรายการที่จะไปทำอ่านข่าว เขาก็โทรมาบอกเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันแบบว่า มันกระจายไวมากเลย ไม่ใช่พี่ใช่ไหม ก็บอกอันนี้เหรอพี่เอง อุ้ยทำไมมันไปเร็วขนาดนั้น  ทุกคนก็รุมเข้ามาด่าดิฉันในไอจีกับเฟซบุ๊ก ดิฉันโดนด่าแบบว่าเป็นหมื่น เป็นแสนคือด่าแบบวินาศสันตะโร จนกระทั่งผู้จัดบอกอย่ามาเลยให้หยุดก่อน นั้นก็คือเหตุผลเลย” ม้า อรนภา ตอบ

เมื่อถามถึงรายการอื่น ๆ ก็เลยแอนตี้ไปด้วยเลย ไม่ต้อนรับ ม้า อรนภาอีกเลยใช่หรือไม่?

“คงจะเป็นเช่นนั้น เพราะเขากลัว พอดิฉันไปออกโทรทัศน์ก็จะทำให้กระแสเนี่ยโดนรุมชาวเน็ตบอกว่าที่ ม้า อรนภาไม่มีงาน ไม่มีอะไรจะทำ เป็นเพราะทำตัวเอง ม้าคิดอย่างไร? อันนี้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ใช่ก็ได้ เพราะดิฉันเองก็เป็นคนคอมเมนต์ลงไปเอง ก็เหมือนกับที่ดิฉันตบหน้าเด็ก อันนั้นดิฉันก็ยอมรับว่าดิฉันทำ แต่มันมีเหตุที่ต้องทำ เหมือนกับอันนี้มันก็มีเหตุ ที่ทำให้ดิฉันต้องคอมเมนต์ แต่ดิฉันทำทุกอย่างมันไม่ได้นุ่มนวลหรือเป็นแบบว่าผู้ลากมากดี ดิฉันแบบตรงไปตรงมาชัดเจน” ม้า อรนภา ตอบ

‘ม้า อรนภา’ ฉุน!! เจอคอมเมนต์ด่าทอ ‘คุณแม่’ ถาม “จะด่าแม่ฉันทำไม” ด้านชาวเน็ตแนะให้ฟ้อง

‘ม้า อรนภา’ อีกหนึ่งคนดังในวงการบันเทิงไทยที่มักถูกชาวเน็ตสาดคำด่า เสียดสี ในโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง จากทัศนคติและความคิดของตนเองที่มีต่อเด็กนักเรียนจนต้องห่างหายจากวงการบันเทิงไป 

ล่าสุด ‘ม้า อรนภา’ ก็ออกอาการโมโหขั้นสุด เมื่อมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ด่าใต้โพสต์ภาพของคุณแม่ จึงได้แคปรูปมาประจานพร้อมตั้งคำถามว่า “จะด่าแม่ฉันทำไม”

หลังจากโพสต์ไปแล้ว ก็มีแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์แนะนำให้ ‘ม้า อรนภา’ จัดการพวกคอมเมนต์หยาบคายให้สิ้น โดยแนะนำให้ฟ้อง เช่น 

- ฟ้องเลยค่ะ คือทำเรา เราทนได้ แต่มาแตะพ่อแม่กันแบบนี้ มันเกินไปค่ะ ถ้าอุดมการณ์ไม่เหมือนกัน ก็ไม่ควรล้ำเส้นกันขนาดนี้ค่ะ
- ฟ้องเลยครับ เอาให้ก้มกราบให้เข็ด
- คนเราพิมพ์อะไรส่อถึงการเลี่ยงดูอบรมสั่งสอนค่ะ อย่าใส่ใจนะคะ เพราะคนดีๆ เขาจะไม่พิมพ์ว่าให้คนอื่นแบบนี้

-คุณม้าจัดการค่ะ เอาเป็นกรณีตัวอย่างค่ะ คำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้นค่ะ 
-เป็นกำลังใจให้คุณม้านะครับ ขอให้จัดการเด็ดขาดครับ
-ฟ้องค่ะ คุณแม่ท่านไม่ได้ข้องเกี่ยวะไร ท่านทำมาหากินสุจริต ไม่สมควรเอาท่านมาเกี่ยวข้อง

‘แสนดี’ โผล่ร่วมเฟรม ‘ม้า อรนภา’ หลังดรามาโพสต์ความเห็นการเมือง

จากกรณีข่าว ‘แสนดี-แสนปิติ สิทธิพันธุ์’ ลูกชายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ‘นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์วิจารณ์พรรคก้าวไกล ว่า ‘นายพิธา’ ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ อีกทั้งไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ ต่อมาทำให้กระแสโซเชียลดุเดือดเช่นกัน ก่อนที่เจ้าตัวต้องออกมาโพสต์ข้อความขอโทษและยืนยันว่า คือความคิดเห็นของตนไม่ได้แสดงความเกลียดชังต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลใด ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด วันเมื่อวันที่ 22 ก.ค.66 ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ โพสต์อินสตาแกรม เป็นรูปที่ถ่ายคู่กับแสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ ลูกชายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมข้อความว่า…

“แสนดี ผ่านมาร้านห่อหมกแม่คุณม้า #You’re the best”

สุดเศร้า ‘ม้า อรนภา’ สูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รัก เพื่อนร่วมวงการแห่ส่งกำลังใจอย่างเนืองแน่น

(3 ส.ค. 66) เป็นข่าวเศร้าอีกครั้งเมื่อพิธีกรชื่อดัง อ้วน รีเทิร์น ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจกับ ม้า อรนภา กฤษฎี นางแบบและพิธีกรชื่อดัง โดยระบุว่า คุณแม่ของม้า คือ คุณแม่ประมวล แสงสาธร ได้เสียชีวิตแล้วในวันนี้ 3 สิงหาคม 2566 “ขอแสดงความเสียใจ กับพี่ม้าด้วยค่ะ กราบลาคุณแม่ค่ะ”

ในขณะที่โซเชี่ยลของ ‘ม้า อรนภา’ ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่มีเพื่อนๆ เข้าไปโพสต์แสดงความเสียใจกับพี่ม้ากันเป็นจำนวนมาก

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ภายหลังจากที่ ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ ได้โพสต์ข้อความเชิงวิจารณ์ด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสม ทำให้ถูกปลดและขอลาออกจากการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ไป 3 รายการ ก็เลยทำให้ ม้า อรนภา มีเวลาว่างมาช่วยคุณแม่ทำห่อหมกปลาช่อนขาย กับร้านที่ชื่อว่า ‘ห่อหมกแม่คุณม้าอรนภา’ ซึ่งก็สร้างรายได้ช่วงที่ไม่มีงาน และมีเวลาอยู่ใกล้ชิดดูแลคุณแม่อีกด้วย

ที่ ม้า เคยเล่าให้ฟังว่า “แม่ทำห่อหมกมาตั้ง 40 ปีแล้ว พิถีพิถันแม้กระทั่งการเลือกปลาช่อน การแร่เนื้อปลา แม่จะทำโดยที่ไม่มีก้างเลยนะ เอาที่ถอนคิ้วมาคอยดึงก้างออกซะด้วยซ้ำ ไม่คาว น้ำพริกก็ตำเอง มะพร้าวพี่ก็ต้องคั้นกันสดๆเลย ประณีตมาก กว่าจะได้ กว่าจะกวนในหม้อดิน แล้วก็ต้องขึ้นเป็นวุ้น มันถึงจะสามารถเอาไปห่อได้”

‘ห่อหมกแม่คุณม้าอรนภา’ ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญรัถ หน้าร้านเสริมสวยพนิตนาฏ ใกล้ธนาคารกสิกรไทย ย่านวงเวียนใหญ่ แขวงและเขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยคุณแม่ประมวล แสงสาธร ที่จะมีอายุครบ 100 ปี ในปี 2567 ที่จะถึงนี้แล้ว มารดาของ ม้า อรนภา เป็นคนลงมือทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่แล่ปลา โขลกน้ำพริก ไปถึงกวนห่อหมก

โดยข้อมูลจากนิตยสาร Health and Cuisine เคยระบุว่า สูตรที่คุณแม่นำมาทำนั้น สืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่เคยรับใช้เจ้านายในวังหลัง สมัยเจ้าพระยารัตนพิมพาภิบาล (ม.ร.ว.สวัสดี อิศรางกูร) มีจุดเด่นที่เนื้อสัมผัสเนียนเบาแบบชาววังโบราณ ลูกค้าสามารถเลือกส่วนของปลา และชนิดของผักให้เลือก และยังมีเมนูพิเศษ คือ ห่อหมกหัวปลา ห่อหมกพุงปลา ห่อหมกหน้าอกปลา หรือ ห่อหมกคางปลา ลูกค้าที่ทานอาหารรสจัดหรือเผ็ดมาก สามารถระบุความเผ็ดได้อีกด้วย

‘ลุงตู่’ ส่งพวงหรีดร่วมอาลัย หลัง ‘ม้า อรนภา’ สูญเสียคุณแม่ ด้านเจ้าตัวยังคงเข้มแข็ง ยืนขายห่อหมกแม้ดวงตาบวมช้ำ

(6 ส.ค. 66) ขอแสดงความเสียใจ เมื่อ ‘ม้า อรนภา’ เจอความสูญเสียครั้งใหญ่ของชีวิต หลัง ‘คุณแม่’ ผู้เป็นที่รักเสียชีวิตลงในวัย 99 ปี โดยม้า อรนภานั้นได้โพสต์อาลัยคุณแม่ครั้งสุดท้าย พร้อมระบุข้อความว่า “กราบลาคุณแม่อันเป็นสุดที่รักของลูก ฝากบอกทุกคนด้วยค่ะ” ท่ามกลางพี่น้องวงการบันเทิงเข้ามาให้กำลังใจอย่างมากมาย

ต่อมาชาวเน็ตแห่ส่งกำลังใจให้ม้า อรนภา ขณะยืนขายห่อหมก หลังแม่เสียชีวิต โดยเธอนั้นได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะยืนขายห่อหมกด้วยดวงตาที่ยังบวมอยู่ ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาคอมเมนต์ เช่น

“ช่วงเวลาที่ใจสลาย​ พี่ม้ายังรับมือกับสถานการณ์​ได้ดีมากๆ​”
“แข็งแกร่งมากค่ะ​ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป​”
“คุณแม่ต้องภูมิใจในตัวพี่ม้าที่สุด​”
“เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ”
“ขอให้พี่ม้ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ”

ล่าสุด ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ นั้นก็ไม่ทอดทิ้งม้า อรนภา โดยภาพแรกที่เธอโพสต์ลงอินสตราเเกรมนั้นเป็นภาพที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ส่งพวงหรีดมายังครอบครัวของม้า อรนภา ซึ่งเธอได้โพสต์ระบุข้อความว่า…

“สวดพระอภิธรรม คืนที่ 2 ของแม่ อบอวลไปด้วยคนที่รักกันมายาวนาน และเป็นลูกค้าห่อหมกของแม่ คํ่าคืนนี้แม่เลยฝากห่อหมกให้กลับไปกินให้หายคิดถึง”

‘ม้า อรนภา’ ซึ้งใจ ‘ชมพู่’ พาลูกๆ ร่วมงานศพคุณแม่ พร้อมสวมกอด - ให้กำลังใจ ทำซาบซึ้งน้ำตาซึม

เรียกได้ว่าได้รับกำลังใจจากทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่คนบันเทิงและแฟน ๆ อย่างล้นหลามเลยทีเดียว สำหรับพิธีกรรุ่นใหญ่อย่าง ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ หลังสูญเสีย ‘คุณแม่ประมวล แสงสาคร’ คุณแม่สุดที่รักวัย 99 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับ

ซึ่งนอกจากจะได้รับกำลังใจจากโซเชียลอย่างล้นหลามแล้ว ภายในงานสวดอภิธรรมของคุณแม่ ก็มีเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่คนบันเทิงเดินทางไปร่วมงานและร่วมอาลัยกันเนืองแน่น เช่นเดียวกับซุปตาร์สาว ‘ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต’ ที่ได้พา ‘น้องสายฟ้า-น้องพายุ’ ไปร่วมอาลัยและส่งกำลังใจให้กับคุณยายม้าอีกด้วย

โดยเมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 66) อินสตาแกรมของโพลีพลัส ก็ได้เผยภาพทีม 3 แซ่บ ที่ได้ไปร่วมอาลัยคุณแม่ประมวล พร้อมกับเปิดคลิปนาทีอบอุ่บปนซึ้งที่ ‘ชมพู่’ และ ‘น้องสายฟ้า-น้องพายุ’ สวมกอดส่งกำลังใจให้กับ ‘ม้า อรนภา’ ซึ่งช็อตนี้ก็ทำเอาพิธีกรรุ่นใหญ่ซาบซึ้งน้ำตารื้นเลยทีเดียว

ขณะที่ ‘ม้า อรนภา’ ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศในงานสวดอภิธรรมคืนที่ 3 พร้อมกับเขียนแคปชั่นบอกว่า “สวดอภิธรรมคุณแม่คืนวันที่ 3 อบอวลไปด้วยความรักที่มีต่อแม่และม้า ขอบคุณทุกคนที่มีความรักต่อกันมาเสมอ เป็นคืนทีร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มมากที่สุด” ท่ามกลางเหล่าคนบันเทิงและแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจอย่างคับคั่ง

‘ม้า อรนภา’ น้ำตาไหล ‘ไก่ วรายุฑ-นิด อรพรรณ’ มาร่วมงานศพคุณแม่ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก หลังมีเหตุบางอย่างทำให้รู้สึกติดค้างในใจกัน

(16 ส.ค. 66) ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ ออกมาเปิดใจที่แรก หลังสูญเสีย ‘คุณแม่ประมวล’ วัย 98 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคมะเร็งปอด พร้อมเผยถึงบุคคลในวงการ 2 ราย ที่ทำให้รู้สึกซาบซึ้งใจจนมีน้ำตากลางงานศพคุณแม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่อง One31

สิ่งที่ไม่คาดฝันทั้งหลายกับการที่ในชีวิตอยู่ในวงการ รู้จักคนมาหมดทุกคนมากมายก็แล้วแต่ ไม่เคยคิดว่าทุกคนยังรักและระลึกถึงพี่อยู่เสมอ วันนี้เราได้เห็นอย่างชัดเจนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ที่เราคงความดี มีใจที่บริสุทธิ์กับทุกคนมาตลอดเวลา ทุกคนกลับมาหาเราหมด โดยที่เรานึกไม่ถึงเลยว่าเป็นอะไรที่โคตรแห่งความปลาบปลื้มใจ คนที่เคยมีความค้างคาใจ ไม่ว่าจะตอนทำงานช่วงวิกฤตในชีวิตที่ต้องหลุดออกมาจากวงการ ทุกคนก็มาให้กำลังใจดิฉัน มันเป็นอะไรที่มีความรู้สึกโคตรแห่งความซาบซึ้ง (เสียงสั่น) ทุกครั้งที่คนพวกนี้มา มันอดไม่ได้ที่จะปีติ แล้วน้ำตาแห่งความปีติจะหลั่งไหลออกมาตลอด มันพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำมาตลอดทั้งชีวิต มันตอบแทนให้เห็นถึงความรักเรา พูดทีไรเรารู้สึกว่าเราดีใจที่สุด (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) ไม่รู้จะว่ายังไง ขอบคุณมากจริง ๆ

>> มีแขกท่านนึงมา พี่ม้าชื่นใจแน่นอน เรารู้สึกได้ว่าพี่ม้าชื่นใจ ปีติ เราเห็นแววตาพี่ม้ากับแขกท่านนึง คือ ‘คุณนิด อรพรรณ’ มาที่งาน พี่ม้าเหมือนไม่คิดว่าจะมา?

“บอกตามตรงเลยนะ ตั้งแต่ออกจากวงการนี้มา (เสียงสั่นเครือ) พี่ขอบคุณทุกอย่างที่ให้โอกาส คนที่ให้โอกาสมาตลอด พอวิกฤตที่ออกไป รู้สึกว่าคงจบสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ทุกคนคงค่อย ๆ ลืมเลือนดิฉันไป ดิฉันไม่ได้หวังอะไร ว่าจะต้องมาเจอกัน มาร่วมงานกันอีก หรือมาร่วมทุกข์ร่วมสุข หรือโอบอุ้มเราต่อไป ดิฉันไม่นึกแล้วนะ ดิฉันปล่อยวางไปเลย ไม่นึกถึง แต่เราก็ไม่คิดว่าเขายังระลึกและรักเราอยู่เสมอ สิ่งนี้เลยทำให้เรารู้สึกว่า เราอาจมองผิดไป ดิฉันไม่ใช่ไม่รัก หรือไม่รู้จักบุญคุณนะ บุญคุณนี้นึกถึงเสมอ ต่อให้ใกล้ตายก็ยังนึกถึงบุญคุณกับทุกคนที่หยิบยื่นโอกาสให้ ไม่เคยลืมเลือน แต่ด้วยเหตุการณ์กับจังหวะชีวิตที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แยกย้ายกันไป ก็ได้แค่ระลึก ไม่นึกว่าจะได้กลับมาเจอะเจอ”

“ช่วงวิกฤตก็มีอีกคนที่เราไม่นึกเลย คิดว่าเขาคงไม่ชอบดิฉันไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่นึกว่าเขาจะมา คือ ‘พี่ไก่ วรายุฑ’ ณ ตอนนั้นดิฉันก็รู้สึกว่าดิฉันได้หลุดออกไปจากทุกรายการที่ดิฉันทำอยู่ทั้งหมด ก็คิดว่าทุกคนคงไม่ได้ชอบฉันแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดในชีวิตตัวเอง ก็ให้มันจบ ไม่เป็นไร ขอบคุณที่เราเคยอยู่ร่วมกัน ให้โอกาสเรามา ก็คิดว่าคงไม่มีแล้ว”

>> ได้คุยอะไรกับคุณนิดบ้าง? 
“ก็มีการพูดคุย บอกว่าพี่จำไว้นะ เรายังรักกันอยู่เสมอ ยังไงก็ไม่ทอดทิ้งกันอยู่แล้ว”

>> ชื่นใจมั้ย?
“ดิฉันน้ำตาไหลตลอดเวลาเลย”

>> ตอนพี่ไก่ล่ะ?
“อันนั้นโฮเลย เพราะไม่นึกว่าแกจะมา พี่ไก่พูดว่ายังไงฉันก็เป็นเพื่อนเธอ ฉันไม่มาไม่ได้ (เสียงเครือ) พี่ไก่มาวันเผาแม่ด้วย ไม่เคยนึกนะ เพราะเราคิดว่ามันคงจบไปหมดแล้ว นึกออกมั้ย”

“ขอบคุณที่สุดเลย ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ตั้งแต่อยู่เขาก็ให้โอกาส มันอยู่ในใจเรามาตลอดเวลา แม้เราไม่อยู่เขาก็ยังระลึกถึง ไม่รู้จะพูดยังไง ซาบซึ้งใจมากที่สุดแล้วนะ ที่เราทำไว้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครลืมเรา แม้เราไม่อยู่แล้วก็ไม่มีใครลืมเรา”

‘ม้า อรนภา’ ปลื้ม!! ‘ลิซ่า’ โผล่ทักทายหลังบังเอิญเจอในเกาหลี ชื่นชม!! เป็นเด็กน่ารัก ไม่แปลกใจที่โด่งดังระดับโลกขนาดนี้

(13 มี.ค. 67) ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ นักแสดงอาวุโส เผยแพร่รูปถ่ายคู่กับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ‘Ornapa Krisadee’ ระบุว่า…

มาเกาหลีครั้งนี้ ดีใจมาก เดินดูเสื้ออยู่ในร้านแบรนด์หนึ่ง ใน section ที่เงียบสงบ ได้ยินเสียงผู้หญิง 2 คนคุยกันเป็นภาษาอังกฤษที่โซฟา แต่เราไม่ได้สนใจ นอกจากดูเสื้อไปเรื่อย ๆ พอเดินใกล้ 2 คนที่นั่งอยู่นั้น ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนี่งเรียก “พี่ม้า” เราหันไปมองเสียงที่อยู่ใกล้มาก ๆ เห็นหญิงสาวใส่หน้ากากยืนอยู่ ดิฉันทำหน้างง ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า “ลิซ่าค่ะ” ฉันก็ยังงงอยู่ลิซ่าไหน จึงบอกว่า ถอดหน้ากากสิ พอถอดมาคือ ลิซ่า จริง ๆ ด้วย”

นักแสดงอาวุโส ระบุเพิ่มเติมว่า “ดิฉันตกใจมาก และดีใจมาก ๆ ที่ได้เจอเธอ ดิฉันจึงพูดว่า ขอบคุณมากนะที่ทักพี่ (คนดังระดับโลกทักดิฉัน) ดิฉันขอกอดนาง และตามด้วยขอถ่ายรูปได้ไหม ต้องถามเพราะนางมากับผู้จัดการ นางบอกว่าได้ แต่ขอทาปากหน่อย เพราะพึ่งลงเครื่องมาจากปารีส ยังไม่ได้ล้างหน้าเลย แต่มาช้อปปิ้งได้อิอิ เพราะคืนนี้นางต้องไปงานของ Bvlgari จึงได้รูปนี้มา โดยการขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อย เราคุยกันอยู่นานพอสมควร ด้วยความภาคภูมิใจที่เธอก้าวมาอยู่ถึงจุดนี้ได้ ปลื้มใจนางจริง ๆ นางบอกว่าจะไปเล่าให้แม่ฟังว่าเจอใคร และบอกว่าไม่คิดจะได้เจอพี่ม้า นางตื่นเต้นพอกับเรา ใช้เวลาเม้าส์นาน เราเลยบอกด้วยว่าบอกผู้จัดการเธอด้วยนะว่าพี่เป็นใคร จะได้ไม่หงุดหงิด แต่ผู้จัดการนางก็เป็นคนถ่ายรูปให้เรา ดีใจเป็นที่สุดที่ลิซ่าทักดิฉัน เด็กคนนี้น่ารักจริง ๆ ถึงไปได้ไกลขนาดนี้ ถึงยิ่งใหญ่ระดับโลกขนาดนี้”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top