Thursday, 16 May 2024
มะเร็ง

‘สรพงศ์ ชาตรี’ พระเอกดังเสียชีวิตแล้ว หลังป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด

หลังจากมีข่าวอดีตพระเอกในตำนาน "สรพงศ์ ชาตรี" ป่วยเป็นโรคมะเร็ง (เริ่มแรกระบุว่าเป็นมะเร็งสมอง ต่อมาคนใกล้ตัวยืนยันว่าเป็นมะเร็งปอด) นั้น ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าตัวได้เสียชีวิตลงแล้ว

"เอก สรพงศ์ ชาตรี" ปัจจุบันอายุ 71 ปี ชื่อเดิมคือ พิทยา เทียมเศวต เกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2493 ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เจ้าตัวจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่ 8 ปี จนลาสิกขาเมื่อ อายุ 11 ปี ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ภัยทันสมัยในม่านควัน หรือวาทกรรมที่ถูกปั้นเพื่อให้คนกลัว

“...แวดวงนักกลืนควันในอดีต เวลาจุดบุหรี่สูบก็ต้องสูบให้หมดมวน แต่บุหรี่ไฟฟ้าสูบคำสองคำก็พอ ทำให้ลดการสูบลง” คือคำพูดของเด็กหนุ่มใกล้ตัวที่คุยกับผม ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ได้รับความนิยมอย่างสูงในแวดวงนักกลืนควันวันนี้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มบอกว่ามันก็มีอันตรายไม่แตกต่างจากบุหรี่ (จริง)

บรรพบุรุษของบุหรี่รุ่นแรกมีหน้าตาค่อนไปทางซิการ์ คือ มวนโตและห่อพัน (ใบยาสูบ) ด้วยใบยา (อีกที) และดูเหมือนจะมีมาก่อนในดินแดนเม็กซิโกและอเมริกากลาง ราวศตวรรษที่ 9 ซึ่งก็คือบริเวณที่ชาวมายาและแอซเท็กเริ่มสูบยา รวมถึงใบยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทกับพิธีกรรมทางศาสนา โดยพบหลักฐานภาพวาดบนเครื่องปั้นดินเผาและภาพแกะสลักบนวิหาร เป็นภาพนักบวชหรือเทพเจ้ากำลังสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งซิการ์กับบุหรี่คือ วัฒนธรรมของชนชาวพื้นเมืองแถบแคริบเบียน, เม็กซิโก, อเมริกากลาง และใต้ ก่อนเผยแพร่ไปทั่วโลกเพียงไม่กี่ทศวรรษ

“สูบบุหรี่แก้ขวย ช่วยเข้าสังคม” คือคำโฆษณาจากรัฐบาลยุคมาลานำไทย เชิญชวนให้คนสูบบุหรี่ (ซึ่งเป็นกิจการของรัฐ) นัยว่าช่วยพัฒนาประเทศทางอ้อม ด้วยภาพลักษณ์ของการสูบบุหรี่ยังดูโก้เก๋ ทันสมัย มีอารยะ

คนไทยโบราณไม่ว่าหญิงหรือชายจะมีของติดตัวกันแทบทุกคน สำหรับสตรีไทย คือ ‘กระทายหมาก’ หรือ ‘เชี่ยนหมาก’ ส่วนของบุรุษก็คือ ‘กลักบุหรี่’ หรือ ‘กระป๋องใส่บุหรี่’ ที่ยังไม่ได้มวนพร้อมสูบ สมัยนั้นเวลาจะสูบบุหรี่สักที ก็ต้องนั่งมวนต่อมวน แล้วจุดด้วยไฟที่เกิดจากการตี ‘หินเหล็กไฟ’ จนเกิดประกายติดใส่นุ่นในหลอดที่มีพร้อมอยู่ข้างกาย จึงจะได้สูบบุหรี่สำเร็จได้ดังใจนึก

บุหรี่หรือยาสูบ เคยถูกใช้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนควบคู่กับ ‘หมาก - พลู’ โดยเห็นได้จากคำกล่าว “หมากพลู บุหรี่” รับแขกบนชานเรือนของตน ก่อนการแพทย์และสาธารณสุขจะล่วงรู้ถึงภัยร้ายของควันบุหรี่ จนกระทั่งสังคมก็เริ่มเสื่อมความนิยมต่อ ‘บุหรี่’ ลงเป็นลำดับ

แต่หากดูตามสถิติ ‘นักสูบหน้าใหม่’ ก็ยังเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยหันหาสิ่งที่เรียกว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ มากขึ้น ๆ และด้วยความเชื่อว่า ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ มีภัยต่อร่างกายน้อยกว่า ‘บุหรี่’ จริง

‘หมอหนุ่ม’ ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย แจ้งข่าวดีหลังรักษา 6 เดือน เผย อาการดีขึ้นตามลำดับ เชื้อไม่มีการกระจายไปอวัยวะอื่นเพิ่ม

หมอหนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย แจ้งข่าวดีหลังรักษา 6 เดือน ก้อนในปอดขวายุบลงครึ่งหนึ่ง ก้อนเล็กในปอดซ้ายหายเกือบหมด ไม่มีการกระจายไปที่กระดูก ตับ ไต หรือต่อมน้ำเหลือง ไม่ว่าชีวิตจะเลวร้ายแค่ไหน อย่าหมดหวังกับชีวิตเด็ดขาด

หมอหนุ่มป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วานนี้ (15 เม.ย.66) นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี อัปเดตผลการรักษา 6 เดือน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘สู้ดิวะ’ โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ตัวเลข 6 เดือนนี้มีสำคัญมาก มันแปลว่าที่ 6 เดือนหลังจากวินิจฉัยจะมี 50% ของคนที่เป็นโรคมะเร็งปอดชนิดนี้ ที่มีการลุกลามของมะเร็งเพิ่มขึ้น และดื้อต่อการรักษาหลักที่กำลังให้อยู่

เดือน ต.ค.65 หมอกฤตไท ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งปอดที่มีการลุกลามไปสมอง โดยหมอกฤตไทได้รับการผ่าตัด ตรวจร่างกาย รับยาเคมีบำบัด รับการฉายแสง ต่อมาในเดือน พ.ย.65 หมอกฤตไทได้รับผลข้างเคียงทุกอย่าง ขนร่วงหมดตัว

เดือน ธ.ค.65 ติดตามผลการรักษาครั้งแรกที่ 3 เดือน ผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บอกว่าก้อนที่ปอด มีขนาดเล็กลง และมะเร็งไม่มีการกระจายไปที่อวัยวะอื่นเพิ่มเติม ตัวโรคในภาพรวมยังคงสงบ แต่ก้อนในสมอง ไม่ใช่แบบนั้น เนื่องจากยาที่ได้ ผ่านเข้าสมองได้น้อยมาก เชื้อมะเร็งในเนื้อสมองจึงเริงร่า

เดือน ม.ค.66 อาการของหมอกฤตไทย ดีขึ้นมากๆ กลับไปออกกำลังกายได้แทบจะปกติ ได้กลับไปสอนนักศึกษา ได้กลับไปทำงาน เริ่มวางแผนที่จะกลับไปใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป

เดือน ก.พ.66 การติดตามในสมอง 3 เดือนหลังจากฉายแสงครบ ถึงแม้ก้อนที่ฉายแสงไปจะยุบลง แต่มีก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมา 3 ก้อน  ตอนนั้นหมอกฤตไทตัดสินใจที่จะสังเกตอาการไปก่อน หลังจากนั้นกลับมารับการตรวจสมองอีกครั้ง ก้อนที่เจอครั้งก่อน โตขึ้นเป็น 2 เท่า ร่วมกับมีก้อนใหม่เพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ในหัวของหมอมีทั้งหมด 13 ก้อน และมีอาการชักร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงทั้งศีรษะ เพื่อกำจัดเชื้อมะเร็งที่น่าจะกระจายไปทั่วสมอง ซึ่งก็แปลว่าเนื้อสมองส่วนปกติของผมก็จะโดนรังสีไปด้วย ส่งผลให้สมองผมเสื่อมแน่นอน แค่มากหรือน้อย เร็วหรือช้าเท่านั้น จะเรียนปริญญาเอกอีกใบก็คงจะเป็นไปได้ยากมาก ๆ ถึงผมจะไม่อยาก แต่มันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วจริง ๆ

เดือน มี.ค.66 หมอกฤตไท เริ่มรับการฉายแสงทั่วศีรษะ โชคไม่ดีเท่าไหร่ สมองบวมเยอะ ทำให้มีความดันในกะโหลกเพิ่มขึ้น หมอปวดหัวมากๆ ปวดแบบลูกตาจะกระเด็นออกมา อ้วกพุ่งออกมาทางจมูกด้วยความแรงเดียวกับที่พุ่งออกทางปาก ต้องนอนโรงพยาบาลสังเกตอาการ และรับยาสเตียรอยด์เพื่อกดการอักเสบของสมอง ยาทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ต้องแลกกับผลข้างเคียงของยา

หลังจากนั้น หมอกฤตไทมีอาการปวดหัวรุนแรงอีกครั้ง ผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองบอกว่า ก้อนในสมองผมมีเลือดออกและเลือดนั้นทำให้แรงดันในสมองเพิ่มขึ้น อาจต้องรับการผ่าตัดระบายเลือดออก โชคดีที่สุดท้ายปริมาณเลือดนั้นไม่ได้มากพอที่จะต้องผ่าตัดเปิดสมอง อาการปวดหัวน่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการฉายแสงมากกว่า แต่ก็ต้องรอทำเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กินยากดการอักเสบลดสมองบวมต่อไปก่อน ซึ่งพอกินยาตัวนี้ติดต่อกันนานๆ ทำให้ต้องกินยาป้องกันการติดเชื้อราในปอดควบคู่ไปด้วย ค่าผลเลือดต่าง ๆ พังไปหมด ทั้งที่ออกกำลังกายและคุมอาหารอย่างดีกินยาสม่ำเสมอในขนาดสูงสุด แต่ค่าไขมันเลวในเลือดก็สูงกว่าค่าปกติมากๆ นอกจากนี้ยังต้องกินยากันชักและยาชะลออาการสมองเสื่อมทุกวันเช้า-เย็น มีอาการปวดกระดูกซี่โครง ที่ไม่รู้ว่ามะเร็งลุกลามไปกระดูกหรือเปล่า

“ก่อนหน้านี้ผมจองตั๋วไปญี่ปุ่นเอาไว้ แต่จากอาการต่างๆ ทำให้ความหวังที่จะได้ไปเที่ยวดูเป็นเรื่องตลกมาก ๆ 2 วัน ก่อนบินไปญี่ปุ่น ผมยังแอดมิทอยู่ด้วยซ้ำ เหลือเชื่อมาก ๆ ที่ผมได้ไปเดินกับพีมในสวนที่เต็มไปด้วยดอกซากุระ ได้พาพีมไปดูภูเขาไฟฟูจิ ไปสูดอากาศสะอาด ไปกินอาหารอร่อย ได้ไปสวนสนุก ได้ใส่ชุดกิโมโนคู่กัน และผมได้กินเนื้อโกเบ ผมยังคงกินยามหาศาล นอนได้วันละ 2-3 ชั่วโมง ยังคงท้องผูกและต้องคอยสังเกตอาการตัวเองอย่างจริงจังตลอดเวลา แต่ผมก็ยังไปด้วยความหวัง ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย”

เดือน เม.ย.66 ตอนนี้ คือ 6 เดือน หลังจากได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ผบเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ทรวงอกและช่องท้อง รวมถึงตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง พบว่า ก้อนที่ปอดขวายุบลงไปครึ่งหนึ่งจากของเดิม ก้อนเล็กๆ ที่ปอดซ้ายหายไปเกือบหมด ก้อนในสมองทุกก้อนยังอยู่ แต่ถือว่าสงบ ไม่มีก้อนขึ้นใหม่ที่อวัยวะอื่น ไม่มีการกระจายไปที่กระดูก ตับ ไต ปอด หรือต่อมน้ำเหลือง มีเพียงก้อนที่เยื่อหุ้มปอดที่โตขึ้นไปกดกระดูกซี่โครงทำให้มีอาการปวด ซึ่งสามารถทำการฉายแสงเฉพาะจุดที่ก้อนได้

‘หมอกฤตไท’ เจ้าของเพจ ‘สู้ดิวะ’ โพสต์ซึ้ง ทุกอย่างจบเร็วกว่าที่คิด  ยังมีอีกหลายสิ่งที่ไม่ทันได้ทำ หลังเตรียมจากไปช่วงกลางเดือนหน้า

(5 พ.ย.66) นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่อายุยังไม่มาก ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพตัวเองดีเยี่ยมเสมอมา ซึ่งโลกออนไลน์ต่างติดตามคุณหมอ ให้กำลังใจ ข้อคิดชีวิตเป็นเพื่อนใจกันมาตลอด

ล่าสุด คุณหมอกฤตไท ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“ผมคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วครับ ใครมีอะไรอะไอยากพูดอยากบอกผม เชิญได้เลยครับ ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า จากนั้นไว้เจอกันใหม่ชาติหน้านะครับ ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ก็เอาละครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30 ที่ผ่านมาครับ ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจ”

“ผมคงไม่ได้ไปดู NBA ผมคงไม่ทันได้เข้าไปอยู่ในบ้าน อรสิริน Belive คงไม่ทันได้เจอพี่เพียวอีก จากนี้ฝากบ้าน ฝากพีม ฝากครอบครัวด้วยนะครับ ขอบคุณจากใจให้กับทุกคนที่ช่วยดูแลด้วยครับ”

ก่อนจะเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นภาพงานแต่งงานของคุณหมอ และแชร์โพสต์จุดเริ่มต้นการแชร์เรื่องราว หลังทราบว่าป่วยเป็นโรคร้าย พร้อมระบุว่า “จบเร็วกว่าที่คิดเนาะ”

'ฮีท' มือเบส X Japan เสียชีวิตแล้ว หลังมะเร็งลุกลามอย่างรวดเร็ว

เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.66) สื่อญี่ปุ่นรายงานข่าวเศร้า เกี่ยวกับวงร็อกระดับตำนาน X Japan ว่า ‘ฮิโรชิ โมริเอะ’ หรือ ‘ฮีท’ มือเบสของวงได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 55 ปี ซึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่หลายคนไม่ได้ทำใจเอาไว้ก่อนเลย

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โยชิกิ ลีดเดอร์ของ X Japan ตัดสินใจยกเลิกงานทั้งหมด และเดินทางจากอเมริกากลับบ้านเกิดที่ญี่ปุ่นอย่างฉุกเฉิน หลังทราบข่าวเศร้าว่า ฮีท ได้เสียชีวิตลงแล้ว

ตามข้อมูลของสื่อญี่ปุ่น ฮีท เริ่มรู้สึกไม่สบายตั้งแต่ต้นปี จนตัดสินใจไปพบแพทย์ และตรวจพบว่าเขาป่วยเป็นมะเร็ง จากนั้นมะเร็งก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายเสียชีวิตลงในปลายเดือน ต.ค. ทีผ่านมา

"เขาเสียชีวิต หลังการวินิจฉัยได้เพียงไม่นาน มันกระทันหันจนเขาไม่มีโอกาสที่จะบอกสมาชิกในวงว่าตัวเองเป็นมะเร็งหรือกำลังต่อสู้กับโรคนี้ด้วยซ้ำ" คนสนิทของ ฮีท กล่าว

X Japan ไม่ได้ทำกิจกรรมในฐานะวงมาตั้งแต่ปี 2018 เนื่องจากปัญหาต่างๆ ข่าวบอกว่า ฮีท เป็นสมาชิกเพียงคนเดียว ที่ตั้งความหวัง และรอคอยที่จะให้วงกลับมาร่วมกันมากที่สุด

โดย ฮีท เข้าร่วมวงเอ็กซ์ X Japan ในปี 1992 แทนที่ ไทจิ ซาวาดะ มือเบสคนแรกของวง เขามีผลงานสตูดิโออัลบั้มร่วมกับ X Japan 2 ชุด คืออัลบั้ม Art of Life และ Dahlia

'เจ้าหญิงเคท' แถลงการณ์ผ่านคลิปวิดีโอ ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งระยะเริ่มต้น

เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.67) เคเทอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หรือเจ้าหญิงเคท พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงแถลงผ่านคลิปวิดีโอ ว่า พระองค์ทรงป่วยเป็นมะเร็งระยะเริ่มต้น อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด (คีโม)

เจ้าชายวิลเลียมและพระองค์เอง พยายามจัดการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว เพื่อทำความเข้าใจกับลูก ๆ อย่างเหมาะสม เวลานี้ต้องการเวลา พื้นที่ และความเป็นส่วนตัว

‘สคบ.’ โพสต์เตือน!! ‘พัดลมคล้องคอ’ อันตราย อย่าหาใช้ เสี่ยงเจอสารก่อมะเร็ง ด้าน ‘สวีเดน’ นำออกจากตลาดแล้ว

(19 เม.ย.67) เพจ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ. โพสต์ภาพพร้อมข้อความแจ้งเตือนผู้บริโภค ความว่า พัดลมคล้องคอ อันตราย อย่าหาใช้

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ในประเทศสวีเดน แจ้งเตือนภัยพัดลมคล้องคอ สำหรับการคลายร้อน โดยได้นำผลิตภัณฑ์นี้ออกจากตลาด รวมถึงในตลาดบนโลกออนไลน์แล้ว เนื่องจากตัวประสานบนแผงวงจรที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่ และในสาย USB มีตะกั่วเข้มข้นมากเกินไป และวัสดุพลาสติกสายเคเบิล มีความเข้มข้นของ สารเสริมสภาพพลาสติก (DEHP) , (DBP) และ (SCCPs) มากเกินไป

ซึ่งหากได้รับสารเหล่านี้ทางผิวหนังเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top