Tuesday, 10 June 2025
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

‘มณีรัตน์’ ชูนโยบาย "มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า" ตอบโจทย์ลดรายจ่าย ช่วงน้ำมันแพง

ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภูมิใจไทย “พระโขนง - บางนา” ชูนโยบาย “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” เชื่อ ตอบโจทย์ลดรายจ่ายช่วงน้ำมันแพง – แก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ

(29 มี.ค. 66) น.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตพระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยมีโอกาสได้พูดคุยกับวินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ และผู้ใช้รถจักรยานยนต์ พบว่าเกือบทุกคนประสบปัญหาราคาน้ำมันแพง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มต้นทุนของอาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไรเดอร์ส่งสินค้า ตลอดจนประชาชนทั่วไป 

ประกอบกับปัญหาโลกร้อน และปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังวิกฤตส่งผลอันตรายต่อสุขภาพอย่างมากในตอนนี้ พรรคภูมิใจไทย เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงมีนโยบาย มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และติดตั้งแผงโซล่าร์ลูฟบนหลังคา เก็บพลังงานแสงอาทิตย์เปลี่ยนมาเป็นไฟฟ้า เป็นการประหยัดค่าไฟลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ทั้งอากาศ และสิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้ ตอบโจทย์ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษ PM 2.5 และยังช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า ให้พี่น้องประชาชนอีกด้วย 

น.ส.มณีรัตน์ กล่าวต่อว่า นโยบายนี้หากบ้านไหนติดตั้งแผงโซล่าร์ลูฟบนหลังคา จะให้สิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบ้านละ 1 คัน ในราคา 6,000 บาท ด้วยระบบผ่อนชำระเพียงเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา นานถึง 60 งวด และสามารถใช้เครดิตพลังงานเติมกระแสไฟฟ้าได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าพลังงานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายให้แก่ประชาชน ทั้งการซื้อรถราคาถูก และไม่ต้องเสียเงินค่าพลังงาน ส่วนตัวจึงเชื่อว่า นโยบายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะตอบโจทย์ทั้งลดช่วยต้นทุน เพิ่มรายได้ พร้อมยกระดับชีวิตพี่ๆวินมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องแบกรับภาระหนักซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ รายรับไม่พอรายจ่ายอีกต่อไป

‘Swap & Go - OR’ รุกขยายสถานีสลับแบตฯ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เชื่อมต่อการเดินทางทุกรูปแบบ ตั้งเป้า 100 แห่ง ภายในปี 67

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) และนางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด ตอกย้ำโปรเจกต์ความร่วมมือ ‘Swap & Go - Universal Battery Swapping Network Expansion Empowered by OR’ การขยายเครือข่ายแพลตฟอร์มสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของสวอพ แอนด์ โก ที่ใช้ได้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ (Universal Swapping) ภายในสถานีบริการ PTT Station ของโออาร์ ตอบโจทย์การเดินทางที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว 

เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) ตั้งเป้าขยายจุดให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่ครอบคลุมกรุงเทพฯ ปริมณฑลกว่า 100 แห่งในปี 2567 และบริการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง ผ่านเครือข่ายสถานีบริการ PTT Station เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้นวัตกรรมพลังงานสะอาดและเป็นทางเลือกของผู้บริโภคในการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน โดยสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าทุกมิติ เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเติบโตไปพร้อมกัน

‘ตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า’ สัญญาณการเติบโตที่สดใส หลัง ‘ผู้ผลิต-ภาครัฐ’ หนุนเทรนด์รักษ์โลก ดันไทยสู่ฮับอาเซียน

เมื่อไม่นานมานี้ ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เฉพาะแค่รถยนต์ 4 ล้อ เท่านั้น สัญญาณการเติบโตของ ‘มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า’ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน 

ประเทศไทยมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นฮับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของภูมิภาค ด้วยศักยภาพของตลาด EV ในประเทศไทยที่เติบโตสูงสุดในอาเซียน 

และในฐานะผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาค ที่มี Supply Chain ของชิ้นส่วนต่าง ๆ ครบวงจร รวมทั้งมีมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายในสู่ EV อย่างชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเช่น บีโอไอ เป็นต้น

มาตรการสนับสนุนการลงทุนของบีโอไอใน กิจการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ จะอยู่ในรูปแบบ ‘Package’ ประกอบด้วยการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่และการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า และกำหนดให้ผู้ขอรับส่งเสริมการลงทุนมีการจัดทำแผนต่าง ๆ 

เช่น แผนการผลิตหรือจัดหาชิ้นส่วน แผนการพัฒนาสถานีประจุไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฟฟ้า แผนการพัฒนาผู้ผลิตวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนในประเทศ (Local Supplier) ในด้านเทคโนโลยี ซึ่งเอื้อต่อการสร้าง Ecosystem ในประเทศให้กับอุตสาหกรรมนี้อย่างยั่งยืน และยังช่วยสนับสนุนให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยเข้าไปมีบทบาทใน Supply Chain ยานยนต์ไฟฟ้าโลกมากยิ่งขึ้น 

อย่างไรก็ตาม 6 แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เข้ามาช่วยเพิ่มกระแสความน่าสนใจของอุตสาหกรรม EV อีกหนึ่งกลุ่มของยานพาหนะไฟฟ้าที่กำลังสร้างโอกาสและความเป็นไปได้ให้กับผู้ประกอบการในยุครักษ์โลก มีดังนี้

1. Zero Motorcycles - หนึ่งในผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในโลก รุ่นยอดนิยมที่สุด คือ SR/S ดีไซน์สวย ทรงพลัง และปราศจากมลพิษ 

2. Energica - แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างรถซูเปอร์ไบค์ไฟฟ้า (Electric Superbike) ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ผลิตรุ่น Ego หนึ่งใน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก 

3. Super Soco - แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก มีจุดเด่นที่แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้และมีช่องเก็บแบตเตอรี่สำรองภายในรถ ตอบโจทย์การขับขี่ระยะไกล

4. Lightning - มีจุดเด่นเรื่องความเร็วที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

5. Vespa - บริษัทรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้ผลิตรถสกู๊ตเตอร์ ‘Vespa Elettrica’ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสุดคลาสสิกที่คงเอกลักษณ์แบรนด์สกู๊ตเตอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

6. Harley-Davidson - บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ในตำนาน ที่ในปี 2562 ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ‘LiveWire’ ซึ่งเป็นโมเดลมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลแรกของ Harley-Davidson ที่ถูกพัฒนามาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่รักเทคโนโลยีและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยไม่ลืมเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Harley-Davidson 

นอกจาก จะเป็นพาหนะที่เป็นวิถีของคนรุ่นใหม่แล้ว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มโอกาสและเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้แข็งแกร่งไม่เป็นรองชาติใด

‘สโกมาดิ’ พร้อมยกระดับโรงงานผลิตสกู๊ตเตอร์ ‘บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก’ ในไทย พร้อมเปิดโมเดลใหม่!! ขยายดีลเลอร์ ปั้นคอมมูนิตี้ ขยายเพิ่มฐานลูกค้า ให้มากขึ้น

(28 ธ.ค. 67) นายแม็กซิม วองเดอเรเกน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) หรือ Scomadi กล่าวว่า เราเป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์สไตล์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก ที่ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก ที่ผ่านมาเราเน้นการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่เป็นตลาดสำคัญของธุรกิจรถจักรยานยนต์

รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตและส่งออกประจำภูมิภาค ผ่านการนำเสนอโมเดลรถสกู๊ตเตอร์ทรงคลาสสิกขนานแท้ ที่ใช้งานในชีวิตจริงได้อย่างคล่องตัว สำหรับผู้ขับขี่ทุกไลฟ์สไตล์ ตามแนวคิด Timeless design with high functionality

สำหรับประเทศไทยในปี 67 นี้เราได้ชูรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่น Turismo Electronica เป็นโมเดลหลักประจำปี นอกจากเอกลักษณ์สวยงามมีระดับตามแบบฉบับสโกมาดิ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ใช้งาน ด้วยสมรรถนะจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่ง

ขณะเดียวกันก็ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดเพิ่ม 2 รุ่น ได้แก่ Technica 200i Adventure Series ABS และ Technica 200i Urban Series ABS” ที่มาพร้อมระบบเบรค ABS และตัวเลือกสีใหม่ พร้อมให้ออกเดินทางไปกับโร้ดทริปแบบมีสไตล์ สอดรับเจตนารมณ์การเป็นแบรนด์ที่รองรับความต้องการของคนรักสกู๊ตเตอร์คลาสสิก ทั้งในเชิงฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ อย่างครบครันที่สุด

นายแฟรงก์ แซนเดอร์สัน ผู้ร่วมก่อตั้งสโกมาดิ กล่าวว่า สโกมาดิ ถือกำเนิดจากความหลงใหลในรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาของรถสกู๊ตเตอร์แบบดั้งเดิม ผสานกับความรู้ด้านวิศวกรรมรถจักรยานยนต์ ที่สั่งสมจากการเป็นเจ้าของสำนักแต่งรถสกู๊ตเตอร์ และประสบการณ์การทำงานกว่า 60 ปี แรงบันดาลใจนี้นำมาสู่การสร้างสรรค์รถสกู๊ตเตอร์สโกมาดิคันแรกในปี 2548 ณ ประเทศอังกฤษ ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี

ทั้งนี้ เรามีการพัฒนารถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงยึดมั่นในดีเอ็นเอ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก อย่างเข้มข้น สะท้อนในการออกแบบทั้งโครงรถ ตัวถังเหล็ก เส้นสายโค้งมน เบาะหนังเย็บอย่างปราณีต ไปจนถึงไฟ LED ทรงกลม ที่รักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวครบถ้วน ผสานนวัตกรรมทันสมัย เช่น ระบบเบรค หน้าจอดิจิทัล และสมรรถนะเหนือระดับ เพื่อครองใจนักขับขี่ผู้มีใจรักความคลาสสิกในทุกยุคสมัย

นายพรเศก ภาคสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในบปี 2568 นี้สโกมาดิ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชนคนขับสโกมาดิ ผ่านกิจกรรมทดลองขับขี่ และกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายดีลเลอร์ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้สนใจสามารถชมรถรุ่นต่าง ๆ รวมถึงให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถเข้ารับบริการจากสโกมาดิได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในปีหน้าสโกมาดิยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชีย ด้วยการยกระดับมาตรฐานโรงงานผลิตในไทย เพื่อรองรับความต้องการและการส่งออก รวมถึงเตรียมขยายการดำเนินธุรกิจในทวีปยุโรป ด้วยการทำใบรับรองมาตรฐานยูโร เพื่อให้สามารถจำหน่ายรถรุ่นใหม่ได้ในหลายประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้สโกมาดิสามารถสร้างความสำเร็จในฐานะแบรนด์ สกู๊ตเตอร์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิกที่ครองใจผู้ขับขี่ทุกคน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top