Saturday, 10 May 2025
มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง

มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง Zhejiang University แหล่งกำเนิดอัจฉริยะ AI แห่ง DeepSeek

ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยที่ปั้นบรรดาอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีระดับโลก หลายคนอาจจะนึกถึง MIT Stanford หรือ Oxford แต่รู้ไหมว่าในเอเชียก็มีมหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่งด้าน AI และเทคโนโลยีไม่แพ้กัน และที่ ๆ เราจะพาไปรู้จักคือ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง Zhejiang University - ZJU หนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ TOP 3 ของจีน และ อันดับ 9 ของเอเชีย ปี 2025 ตามการจัดอันดับของ Times Higher Education และ Top 50 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก (QS World University Rankings)

มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงก่อตั้งเมื่อปี 1897 ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงมีด้วยกัน 7 วิทยาเขต และเปิดสอนในหลากหลายสาขาวิชา มีนักศึกษาต่างชาติกว่า 6,000 คน จาก 140 ประเทศ เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษมากกว่า 50 หลักสูตร และยังมีทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เช่น Chinese Government Scholarship (CSC) ด้วย

ZJU ไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัยธรรมดา แต่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น 'Silicon Valley แห่งประเทศจีน' ที่นี่มีศูนย์วิจัย AI และหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน มีหลักสูตรวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ข้อมูลของที่นี่ถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนให้เป็น 'Double First-Class Initiative' หรือโครงการมหาวิทยาลัยระดับโลก เป็นสมาชิกของ C9 League (ซึ่งเทียบเท่ากับ Ivy League ของจีน) รวมทั้งยังมีความร่วมมือมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยกับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba Huawei Tencent และสตาร์ตอัป AI ชั้นนำเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอีกด้วย

ที่สำคัญไปกว่านั้นมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงยังเป็นแหล่งผลิตอัจฉริยะ AI มากมายหลายคนอย่างศิษย์เก่าระดับ Billionaire อย่างติง เหล่ย์ (Ding Lei) ผู้ก่อตั้ง NetEase เฉิน หนิง หยาง (Chen-Ning Yang) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล หลี่ หลันเจี๋ย (Li Lanjuan) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด COVID-19 เฉิน จงเว่ย (Chen Zhongwei)  นักวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีและเหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ผู้ก่อตั้ง DeepSeek AI ที่กำลังมีประเด็นท้าชนร้อนแรงจนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ OpenAI และ ChatGPT อยู่ในปัจจุบันนี้

เหลียง เหวินเฟิง แห่ง DeepSeek เรียนที่ ZJU เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระดับปริญญาโทในสาขาวิศวกรรมข้อมูลและสื่อสาร หลังจากสำเร็จการศึกษา เหลียงได้เริ่มต้นอาชีพในวงการการเงิน โดยในปี 2016 เขาร่วมก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ประเภท Quantitative Hedge ชื่อ "High-Flyer" ซึ่งใช้ AI และคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขาย และใช้อัลกอริทึมเพื่อคาดการณ์แนวโน้มตลาด เพื่อตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สะสมมาจากการศึกษาและการทำงานในวงการการเงิน ได้นำเหลียงไปสู่การก่อตั้งบริษัท DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปด้าน AI ที่พัฒนา AI ที่ทรงพลัง โดยใช้ต้นทุนเพียงแค่ 6 ล้านดอลลาร์ และได้รับการยอมรับในระดับสากลในยุคนี้ค่ะ

มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง 'สแตนฟอร์ดจีน' กับบทบาทผู้พลิกโฉมวงการ AI ผ่าน DeepSeek

(6 มี.ค. 68) The Economist รายงานว่า สื่อต่างประเทศกำลังพุ่งไปที่ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University) ที่ได้กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจของโลก หลังจากเป็นจุดกำเนิดของ DeepSeek บริษัท AI จากจีนที่กำลังท้าทายมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยการเปิดตัวโมเดล DeepSeek-R1 ที่มีศักยภาพสูงและต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง OpenAI และ Google

ด้วยชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น 'สแตนฟอร์ดแห่งจีน' โดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน Silicon Valley และสร้างสรรค์บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Google, Apple, Tesla และ NVIDIA

เป็นที่มาที่ทำให้มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงถูกยกย่อง เนื่องจากนักวิจัยและศิษย์เก่าของที่นี่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา AI และเทคโนโลยีล้ำสมัย หนึ่งในนั้นคือ เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ผู้ก่อตั้ง DeepSeek ซึ่งต่อมากลายเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังสร้างความฮือฮาในวงการเทคโนโลยี 

บริษัทนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลังจากเปิดตัวโมเดล AI ชื่อ R1 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 โดย โมเดล R1 ของ DeepSeek มีความสามารถในการให้เหตุผลที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่าโมเดล o1 ของ OpenAI โดยใช้ต้นทุนในการพัฒนาที่ต่ำกว่าอย่างมาก โมเดลนี้ใช้ชิป Nvidia H800 ประมาณ 2,000 ตัว คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าการลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ อย่างมาก

ความสำเร็จของ DeepSeek สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในการผลิตบุคลากรที่มีความสามารถสูงในด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีเป้าหมายที่จะเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกภายในปี 2027 โดยใช้มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเป็นต้นแบบ เพื่อรองรับการเติบโตของ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงได้เปิดหลักสูตรเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งสนับสนุนให้นักศึกษาได้ทดลองพัฒนาโมเดล AI ของตนเอง รวมถึงเรียนรู้แนวคิดขั้นสูง เช่น Machine Learning, Deep Learning และ Natural Language Processing (NLP) สิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บุคลากรจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากล

จีนกำลังผลักดันให้ AI กลายเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ โดย DeepSeek ถือเป็นตัวอย่างของบริษัทที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรม AI ของโลกได้ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและแนวคิดการพัฒนาที่แตกต่าง

ความสำเร็จของ DeepSeek ไม่ได้เป็นเพียงจุดเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่า จีนกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI ของโลกอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ วิลเลียม เคอร์บี้ (William Kirby) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจาก Harvard Business School ได้กล่าวถึงการเติบโตของมหาวิทยาลัยในประเทศจีน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เขาชี้ให้เห็นว่าการเกิดขึ้นของมหาวิทยาลัยเช่นเจ้อเจียง สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแวดวงการศึกษาระดับโลก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top