Saturday, 21 June 2025
มณเฑียรเจริญผล

‘อนุทิน’ รับสนิทผู้ว่าฯ สตง. กว่า 10 ปี ยันไม่เคยช่วยเหลือกรณีตึกถล่ม ซัดเพจดังสร้างข่าวเท็จ

(6 เม.ย. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมงานครบรอบการก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ที่สำนักงานใหญ่พรรค กรณีเพจ CSI LA เผยแพร่ภาพความสนิทสนมระหว่างตนกับนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการสอบสวนเหตุอาคารสำนักงาน สตง. ถล่ม

นายอนุทินยอมรับว่า ตนสนิทกับนายมณเฑียรจริง และเป็นเพื่อนรักกันมานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่เรียนหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ร่วมกัน โดยตนเป็นประธานรุ่น ส่วนนายมณเฑียรเป็นเลขารุ่น ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ในเชิงส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ พร้อมย้ำว่า ข้อมูลที่อ้างว่ามีการช่วยเหลือกันในกรณีอาคารถล่มนั้น “เป็นเรื่องเท็จ และเป็นการกุข่าวโดยไร้หลักฐาน”

“เรื่องความเป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้ปฏิเสธ แต่จะบอกว่าเราช่วยเหลือกันในเรื่องไม่ถูกต้อง แบบนั้นมันไม่จริง และไม่สามารถทำได้ด้วยซ้ำ” นายอนุทินกล่าว

พร้อมกันนี้ นายอนุทินยังระบุว่า อาคารดังกล่าวไม่ได้มีการลงนามในสัญญาก่อสร้างโดยนายมณเฑียร เพราะเจ้าตัวเพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. ได้ไม่นาน และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อช่วงปลายปี 2567 ในขณะที่อาคารก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ

“รูปที่เขาเอาไปโพสต์กัน บางรูปก็เก่ามาก ตั้งแต่สมัยยังไม่มีรอยตีนกาเลยด้วยซ้ำ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนจะนำเสนอข้อมูล เพราะกรณีนี้มีแต่ความสูญเสีย ไม่มีใครจะไปช่วยใครให้รอดพ้นความผิดได้” นายอนุทินกล่าว

รองนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การสอบสวนเหตุอาคารถล่ม เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใครแทรกแซงหรือชี้นำได้ โดยคณะกรรมการสอบสวนประกอบด้วยตัวแทนจากสภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และจากหลายมหาวิทยาลัย เพื่อความโปร่งใส

“ถึงแม้จะสามารถแทรกแซงได้ ผมก็จะไม่ทำ เพราะมันไม่ถูกต้อง และไม่มีใครควรช่วยคนผิดให้รอดจากความผิดกรณีแบบนี้เด็ดขาด” นายอนุทินกล่าวหนักแน่น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับเพจที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ถ้าไม่จริง จะไปฟ้องทำไม เรื่องมันไม่ใช่ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น”

ทั้งนี้ นายอนุทินยังเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายมณเฑียรเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ผ่านกลุ่มไลน์ร่วมกัน ยอมรับว่าอีกฝ่ายมีความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งเข้ารับตำแหน่งก็ต้องมาเจอปัญหาใหญ่

ท้ายที่สุด นายอนุทินย้ำว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อผิดพลาดด้านวิศวกรรมและโครงสร้างอาคาร ส่วนประเด็นการทุจริตหรือฮั้วประมูล เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งกำลังดำเนินการควบคู่กันไป

“นี่คือเรื่องเศร้า และเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าทำไมถึงเกิดขึ้น และไม่มีทางที่ผมจะช่วยใครให้ผิดเป็นถูกได้เด็ดขาด” นายอนุทินกล่าวทิ้งท้าย

ผู้ว่า สตง. แจงปมเก้าอี้ตัวละ 9 หมื่น ยันมีแค่ระดับชุดผู้บริหาร เจ้าหน้าที่นั่งหมื่นต้นๆ

(30 เม.ย. 68) นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ชี้แจงกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงในการก่อสร้างสำนักงานใหม่ ที่ถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยระบุว่าโครงการยังอยู่ในขั้นตอนออกแบบ ซึ่งการระบุราคาครุภัณฑ์เป็นการประเมินเบื้องต้น ไม่ใช่การจัดซื้อจริง และสามารถปรับลดราคาได้ตามความเหมาะสม

กรณีเก้าอี้ราคาตัวละ 90,000 บาทนั้น นายมณเฑียรยืนยันว่า เป็นเพียงเก้าอี้สำหรับประธานและกรรมการในห้องประชุมผู้บริหาร ส่วนเจ้าหน้าที่ทั่วไปกว่า 80% ใช้เก้าอี้ราคาปกติหมื่นต้น ๆ และไม่มีการจัดซื้อเก้าอี้ราคาแพงสำหรับทุกคนในองค์กรตามที่ถูกเข้าใจผิด

ในเรื่องฝักบัวราคาแพง ผู้ว่า สตง. ชี้แจงว่าเกิดจากการรวมแบบฝักบัวสองรูปแบบเข้าด้วยกันในระหว่างขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งอาจทำให้ราคาดูสูง แต่ยังไม่ใช่ราคาที่จะนำไปจัดซื้อจริง ทั้งนี้ สตง.มีหน้าที่ตรวจสอบความเหมาะสมของราคาและแหล่งอ้างอิง ไม่ใช่เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อโดยตรง

สำหรับข้อวิจารณ์เรื่องห้องฉายภาพยนตร์ในอาคาร สตง. นายมณเฑียรระบุว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะห้องที่กล่าวถึงเป็นห้องประชุมที่ออกแบบในรูปแบบ 'classroom' และ 'theater' ซึ่งเป็นเพียงชื่อเรียกลักษณะการจัดวางที่นั่ง ไม่ใช่ห้องสำหรับฉายภาพยนตร์แต่อย่างใด

สุดท้าย ผู้ว่า สตง. ยืนยันว่าโครงการยังสามารถปรับแบบและงบประมาณได้ตามหลักเกณฑ์ของราชการ พร้อมเปิดเผยว่าระดับผู้บริหารของ สตง. มีสถานะเทียบเท่ารัฐมนตรี จึงมีการออกแบบอุปกรณ์สำนักงานให้สอดคล้องกับตำแหน่งตามที่กฎหมายกำหนด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top