Sunday, 19 May 2024
ภารกิจออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ทำงานเสริม หรือทำภารกิจออนไลน์ ฝากผู้ปกครองหมั่นตรวจสอบพฤติกรรมของลูกหลาน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอฝากเตือนมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ทำงานเสริม หรือทำภารกิจออนไลน์ ดังนี้

ในช่วงที่ผ่านมาปรากฏเป็นเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำงาน หรือทำภารกิจออนไลน์ต่างๆ เพื่อหารายได้เสริมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงจ้างให้กดไลก์ (Like) กดแชร์ (Share) ดูคลิปวิดีโอจากยูทูบ (YouTube) กดรับออร์เดอร์สินค้า หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มิจฉาชีพออกอุบายประกาศ เชิญชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok เป็นต้น หรือผ่านทางการส่งความสั้น (SMS) ให้เหยื่อกดลิงก์เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ เช่น ประกาศรับสมัครด่วนงานดูคลิป YouTube จำนวน 10 คลิป 400 บาท 20 คลิป 800 บาท แต่ต้องมีค่าเงินประกัน 100 บาท หรือให้กดไลก์ กดแชร์เพจ เพิ่มระดับเลเวลเพื่อที่จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม แต่ต้องโอนเงินเข้าไปในระบบก่อน หรือเชิญชวนให้ทำภารกิจกดรับออเดอร์สินค้า โดยเริ่มจากสินค้าหลักร้อยและเพิ่มสูงขึ้นไปตามระดับภารกิจ แต่จะบอกว่าเราทำผิดขั้นตอน ให้โอนเงินไปเพิ่ม เป็นต้น

การหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว จะเห็นได้ว่าต้องมีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพ หรือเติมเงินเข้าไปในระบบที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาเสียก่อนเสมอ โดยในช่วงแรกๆ เราจะได้เงินกลับคืนมาจริง แต่หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะออกอุบายต่างๆ เพื่อให้เหยื่อเติม หรือโอนเงินเพิ่ม เช่น อ้างว่ายอดเงินในระบบไม่เพียงพอ อ้างว่าเป็นค่าเอกสาร ค่าปิดบัญชี ค่าภาษี เป็นต้น เมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็จะปิดการติดต่อหลบหนีไป ยกตัวอย่างคดีอุทาหรณ์ เช่น ในกรณีนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหาค่าคอมมิชชั่นจากการทำงานกดรับออเดอร์สินค้า เป็นเหตุให้เครียดและทำอัตวินิบาตกรรม กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับรวมกว่า 9 ราย ส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายในเวลาต่อมาตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานในด้านการป้องกันปราบปราม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนให้ทำภารกิจ หรือทำงานออนไลน์เพื่อหารายได้เสริม โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ทำให้มิจฉาชีพเหล่านี้ไม่มีจุดยืนในสังคม เพราะถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เสียหายที่ยังเป็นเด็ก เยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อาจจะส่งผลกระทบโดยไม่คาดคิด 

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) วรรคท้าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยดูจากพฤติการณ์แต่ละกรณีมาประกอบ ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว หากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

‘ผู้ช่วยฯสมพงษ์-ศปอส.ตร.’เตือน 3 กลโกงล่าสุด หลอกขายนม-กดลิงก์บริษัทประกันปลอม

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) หัวหน้าอำนวยการด้านประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ./หัวหน้าด้านข่าวสารและประชาสัมพันธ์ , พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบช.ศปก.ตร./หัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ศปอส.ตร. , พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ฯ ปฏิบัติหน้าที่ ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก./รองหัวหน้าฝ่ายแถลงข่าวและประสานงานสื่อมวลชน ร่วมกันเปิดเผยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารการรับแจ้งความออนไลน์ ศปอส.ตร. และ บช.สอท. พบอาชญากรรมออนไลน์ที่ต้องเฝ้าระวัง และแจ้งเตือนประชาชน คือ หลอกขายนมไทยเดนมาร์ก , หลอกให้กดลิงก์บริษัท ไทยประกันชีวิตปลอม และหลอกให้ลงทุนเล่นพนันออนไลน์ เป็นต้น
สำหรับการหลอกขาย 'นมไทยเดนมาร์ก' นั้น ขั้นตอนการหลอกลวงคนของคนร้าย คือ

- สร้างเพจ Facebook ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ รูปโปรไฟล์ รูปปก ที่อยู่ ข้อความแนะนำ ใกล้เคียงกับเพจไทยเดนมาร์ค
- สร้างเป็นเพจ Facebook หรือซื้อโฆษณาเพจเพื่อให้คนเห็นได้จากระบบอินเตอร์เน็ต
เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อ เพจจะใช้หลักจิตวิทยาเพื่อให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน เมื่อถึงวันรับสินค้า เหยื่อจะส่งข้อมูลไปสอบถาม  แต่ก็จะอ้างเลื่อนการส่งด้วยมีเหตุต่างๆ สุดท้ายปิดเพจหนีหรือเปลี่ยนชื่อเพจเป็นชื่อ

ข้อควรระวัง คือ ตรวจสอบเพจ Facebook ให้แน่ใจก่อนซื้อ โดยกด 'เกี่ยวกับ' 'ความโปร่งใส' ก็จะเห็นว่าเปิดมานานเท่าใด ผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทยหรือไม่(อยู่ต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยง) และดูช่องกดไลก์ ดูโพสต์เป็นหลัก อย่าดูด้านใต้ชื่อเพียงอย่างเดียว เพราะสามารถซื้อ 'ไลก์' ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top