Sunday, 19 May 2024
ฟิตเนส

‘ตำรวจ ดส.’ บุกทลาย!! ฟิตเนสซาวน่าย่านรัชดา พบแอบเปิดมั่วเซ็กซ์ชายรักชาย ซากถุงยางเกลื่อนพื้น

(8 ก.ค.66) ตำรวจ ดส. นำชายกว่า 36 คน ซักถามหลังจากบุกเข้าตรวจค้นสถานบริการฟิตเนสและอบซาวน่าแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา ถนนรัชดาภิเษก ก่อนถึงแยกมไหสวรรค์ กรุงเทพฯ 

พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สารวัตร กก.ดส. เผยว่า ได้รับคำสั่งจาก พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่า สถานบริการดังกล่าวแอบเปิดให้บริการลูกค้ากลุ่มชายรักชายเข้ามามีเพศสัมพันธ์ จึงส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปสืบทราบว่ามีการแจกจ่ายถุงยางอนามัยหลังเสียค่าบริการ 200 บาท จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวช่วงเวลา 22.00 น. พบว่าบริเวณชั้น 1 เป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับลูกค้า ชั้น 2 เป็นห้องฟิตเนส ส่วนชั้น 3 ชั้น 4 มีลักษณะถูกแบ่งเป็นห้องเล็กๆ พบบางส่วนอยู่ภายในห้อง มีถุงยางอนามัยที่ผ่านการใช้ตกที่พื้นและในถังขยะ ส่วนชั้น 5 เป็นห้องอบซาวน่า พบมีผู้ใช้บริการจำนวน 31 คน พนักงาน 4 คน และ เจ้าของสถานบริการ 1 คน  

จากการซักถามส่วนใหญ่ยอมรับว่า เข้ามาใช้สถานที่เพื่อหาคู่มีเพศสัมพันธ์จริง จึงลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากไม่พบหลักฐานการค้าประเวณี พร้อมตรวจหาสารเสพติด ซึ่งทั้ง 31 คนไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนพนักงาน 4 คน เจ้าของสถานบริการ พิจารณาข้อกล่าวหาเป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติคดีพบว่า 1 ในผู้มาใช้บริการมีหมายจับของ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ในข้อหาฉ้อโกง จึงประสานให้ สภ.เมืองสมุทรสงครามมารับตัวไปดำเนินคดี 

รายงานข่าวแจ้งว่าฟิตเนสดังกล่าว เปิดให้บริการลูกค้าชายที่มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน โดยเก็บค่าเข้าใช้บริการคนละ 200 บาท ซึ่งพนักงานประจำเคาน์เตอร์ จะมีกุญแจตู้ล็อกเกอร์เก็บเสื้อผ้า และมีสายรัดข้อมือให้คนละ 1 เส้น โดยเป็นที่รู้กันว่า ลูกค้ารายใดที่มีรสนิยมเป็นฝ่ายรุก ก็จะนำสายรัดข้อมือรัดไว้ที่ข้อมือข้างขวา ส่วนผู้ที่เป็นฝ่ายรับจะนำสายรัดข้อมือรัดไว้ที่ข้อมือข้างซ้าย หากลูกค้าถูกใจกันก็จะเปิดห้องพักเพื่อมีเพศสัมพันธ์

'นศ.มหิดล' แจ้งความเอาผิดคู่กรณี หลังถูกชกในฟิตเนส แค่ขอใช้เครื่อง ด้านอีกฝ่าย เผย!! มีปมสะสม บวกคนถูกชกชอบพูดกดดัน จึงเดือด

เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.67) มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายนนท์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.กิจจพัฒน์ จิตติราช พนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับชายรายหนึ่ง ที่ก่อเหตุชกใบหน้าของตนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในห้องฟิตเนสของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยบ้านตั้งสิน ถนนศาลายา-นครชัยศรี หมู่ที่ 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 17.45 น. นายนนท์เป็นลูกบ้านในคอนโดมิเนียมดังกล่าว เข้าใช้บริการห้องฟิตเนส โดยขอใช้เครื่องเล่นที่มีชายรายหนึ่ง สวมเสื้อยืดสีดำ สวมสร้อยทอง สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ผิวขาว รูปร่างผอมสูง และวางของอยู่ ชายคนดังกล่าวได้ลุกขึ้นจากเครื่องเล่นแล้วพูดว่า "หาเรื่องเหรอ" ก่อนชกต่อยนายนนท์ ได้รับบาดเจ็บ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายจนถึงที่สุด และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด

สำหรับชายหัวร้อนคนดังกล่าวได้แก่ ธนานนท์ อินทองสุข นักแข่งรถชื่อดังที่คนในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตรู้จักกันดี เพราะเจ้าตัวเป็นนักซิ่งที่ฝีมือดีมากๆ คนหนึ่ง ลงแข่งมาแล้วหลายรายการ เช่น ศึก IDEMITSU SUPER ENDURANCE ซึ่งเขาแข่งขันในภายใต้สังกัด EXOL TOYOTA PATTAYA 1998

รวมถึงการเป็นตัวแทนประเทศไทย ภายใต้ Team RAAT Thailand ในฐานะตัวแทนของประเทศ ร่วมเข้าชิงชัยในการแข่งขัน FIA Motorsport Games 

หรือจะเป็นการแข่งขันอี-สปอร์ต ของวงการแข่งรถ ธนานนท์ อินทองสุข ก็เคยเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขัน FIA MOTORSPORT GAMES ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี มาแล้ว 

ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุอื้อฉาวดังกล่าว (4 มี.ค.66) ธนานนท์ เปิดใจกับสื่อมวลชน ยอมรับว่า ตนได้ทำลงไปจริง ๆ ซึ่งมูลเหตุมาจากเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ขณะที่ตนกำลังออกกำลังกายอยู่ภายในฟิตเนส ปรากฏว่า ผู้เสียหายคนนี้กับเพื่อน มาพยายามที่จะออกกำลังกายข้าง ๆ ตนเพื่อกดดันที่จะใช้อุปกรณ์ต่อจากตน พร้อมกับพูดสบถกับเพื่อน

โดยพยายามที่จะให้ตนได้ยินประมาณว่า “แม่งมีคนใช้อุปกรณ์อยู่ กูไม่เล่นก็ได้” ซึ่งวันนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตนก็จำไว้ในใจว่า “อย่าให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งและกัน”

กระทั่งเมื่อวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายมาเล่นดัมเบลข้าง ๆ ตน ในลักษณะของการกดดันและถือเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ก่อนจะมาพูดกับตนว่า “กำลังใช้อุปกรณ์อยู่ป่าว ถ้าไม่ใช้ก็ลุก” เลยทำให้ตนเกิดอารมณ์ร้อนขึ้นมา เนื่องจากมีทุนเก่าเดิมอยู่แล้ว แม้ว่าตัวเขาจะพูดแบบมีหางเสียงก็ตาม

ทั้งนี้ ตัวผู้เสียหายเอง ตนก็เจอเป็นประจำและเห็นว่ามีนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว คือชอบกดดันคนอื่นที่กำลังเล่นอุปกรณ์อยู่ เพราะต้องการจะเล่นอุปกรณ์นั้นให้ได้

อย่างไรก็ตาม ธนานนท์ ยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป แต่ก็อยากให้ฝั่งผู้เสียหายขอโทษตนเองในเรื่องที่ไม่มีมารยาทกับตนก่อน โดยที่ตนยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วจะต่อสู้ในคดีในชั้นศาลต่อไป

สำหรับข้อหาที่ ธนานนท์ ถูกแจ้งข้อหา ได้แก่ ข้อหาใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top