Saturday, 10 May 2025
พาสปอร์ต

ราชการไทยยุคใหม่ แก้ไขความล่าช้า เชื่อมโยงให้บริการประชาชน ใจกลางเมืองหลวง

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก แม่บ้านแคนาดา ได้โพสต์ข้อความถึง ระบบราชการไทยยุคใหม่ ที่ให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว โดยได้ระบุว่า ...

วันนี้ตั้งใจไปทำพาสปอร์ตใหม่ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน (MBK) ชั้น 5 โซน A แต่บัตรประจำตัวประชาชนเราหมดอายุเจ้าหน้าที่เลยบอกให้เราไปจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service)

ซึ่งอยู่ติดกัน เราก็กังวลเพราะไม่มีเอกสารอะไรติดมาด้วยเลย มีแค่พาสปอร์ตอันเก่าและบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ

แต่ๆๆๆๆ เขาใช้แค่บัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุเรากับพาสปอร์ตเล่มเก่าเราแค่นั้นก็ทำบัตรประชาชนใบใหม่ได้แล้ว แถมรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดีมาก
เสียค่าปรับไป 100 บาท 

พอได้บัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่เราก็กลับมาทำพาสปอร์ตต่อ เราจองออนไลน์มา ได้คิวเลย ทำแปปเดียวก็จ่ายเงินค่าพาสปอร์ต 10 ปี 1,500 บาท และค่าจัดส่ง EMS 40 บาท

วันนี้ประทับใจมากในการใช้บริการทั้งสองที่  กะไปทำแค่พาสปอร์ตแต่ได้ทำตั้งสองอย่างเลยในเวลาไม่ถึง30นาที เริ่ดเด้อ!!

เผื่อใครกลับมาไทยแล้วอยากทำเอกสาร ลองไปที่นี้ดูนะคะ

‘ไทย’ คว้าอันดับ 63 ‘พาสปอร์ตทรงอิทธิพล’ 2024 อันดับดีขึ้นจากปีก่อน ส่วนอันดับ 1 ครองร่วม 6 ชาติ

(11 ม.ค. 67) ‘ประเทศไทย’ ติดอันดับ 63 ในการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ (Henley Passport Index) ประจำปี 2567 โดยขยับขึ้นจากอันดับ 64 ในปี 2566 และ 70 ในปี 2565

โดยปัจจุบันพาสปอร์ตของไทยสามารถใช้เดินทางสู่จุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ทั้งสิ้น 82 จุดหมายปลายทาง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย ตุรกี อิรัก และบราซิล ซึ่งเพิ่มจาก 79 ประเทศในปีที่แล้ว

ขณะที่อันดับ 1 ในปีนี้เป็นการครองอันดับร่วมกันถึง 6 ประเทศด้วยกันคือ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 4 ประเทศ ได้แก่ ‘ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน’ ซึ่งครองอันดับหนึ่งร่วมกับ ‘ญี่ปุ่น’ และ ‘สิงคโปร์’ ขึ้นแท่นพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

พลเมืองของประเทศเหล่านี้สามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้มากถึง 194 แห่งจาก 227 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะญี่ปุ่นและสิงคโปร์นั้น ครองอันดับ 1 ในดัชนีดังกล่าวมา 5 ปีแล้ว

ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวจัดอันดับหนังสือเดินทางทั่วโลก โดยประเมินตามจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือหนังสือเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

ทางด้านเจ้าของสมญานามเสือเอเชียอย่าง ‘เกาหลีใต้’ ตามมาเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ ‘ฟินแลนด์’ และ ‘สวีเดน’ ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า 193 แห่ง

ส่วนอีก 4 ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปอย่าง ออสเตรีย เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ครองอันดับ 3 โดยสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ ได้ 192 แห่ง

ขณะที่อันดับที่เหลือใน 10 อันดับแรกส่วนใหญ่ตกเป็นของประเทศในแถบยุโรป โดยพาสปอร์ตของ ‘สหราชอาณาจักร’ ไต่ขึ้นสองอันดับมาอยู่ที่อันดับ 4 ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 191 แห่ง เทียบกับเพียง 188 แห่งในปีที่แล้ว

ผู้ถือหนังสือเดินทางของ ‘ออสเตรเลีย’ และ ’นิวซีแลนด์’ ต่างไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 6 ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 189 แห่ง ส่วนหนังสือเดินทางของ ‘สหรัฐ’ ยังรั้งอันดับ 7 โดยสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้ 188 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่า

ทั้งนี้ นับมาเป็นเวลาถึงหนึ่งทศวรรษแล้วนับตั้งแต่ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐร่วมกันครองอันดับ 1 ในดัชนีดังกล่าวเมื่อปี 2557

สำหรับ 10 ชาติในกลุ่มประเทศ ‘อาเซียน’ นั้น นำโดยสิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน ไทย และอินโดนีเซีย 

‘สื่ออาวุโส’ แชร์ประสบการณ์ทำพาสปอร์ตหายกลางกรุงปารีส ปลื้ม!! ‘สถานทูตไทยฯ’ ทำพาสปอร์ตฉุกเฉินให้รวดเร็วและฟรี

(7 มิ.ย. 67) เถกิง สมทรัพย์ สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณี ‘พาสปอร์ตหล่นหายในสนามบินปารีส’ โดยระบุว่า…

“สวัสดีบัดดี้ ได้เวลาเขียนบทความกันล่ะ..คราวนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่มีพาสปอร์ตมาเลยทีเดียว..ที่พาสปอร์ตหาย

พี่กับคณะเดินทางมาถึงสนามบินปารีส แล้วออกจากจุดประทับตราจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง...เสียบพาสปอร์ตไว้ในกระเป๋ากางเกงที่ช่องกว้าง ๆ ลืมเก็บใส่กระเป๋าสะพาย

พอมาถึงเรือล่องแม่น้ำเซน...พาสปอร์ต ไม่มาด้วย
.
โชคดีที่ ‘อุ๋ย’ น้องในทีมรู้จักเจ้าหน้าที่ในสถานทูตไทยปารีส เลยทราบข้อมูลในการทำเอกสารชั่วคราว เราเลยยกโขยงไปที่นั่น ..ทำพาสปอร์ตฉุกเฉิน Emergency Travel Document. เพียงชั่วโมงเดียวก็เรียบร้อย

เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยบอกว่า “พี่มาถึงปารีส แล้ว..”

พี่ก็เห็นจริงดังว่า เพราะห้องทำ ETD นี่มีงานเยอะมาก คือ คนไทยมีกรณีพาสปอร์ตหายเป็นประจำ

ดังนั้น เวลามาต่างประเทศ ต้องมีก๊อปปี้พาสปอร์ต/วีซ่า สำรองเอาไว้ รวมทั้ง บัตรประชาชนไทยด้วยก็ดี
ทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลทำเล่มชั่วคราวให้เราได้ทันที

และถ้าจะให้ดี พอผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยให้ถ่ายภาพ ‘ตราประทับวันเข้าเมือง’ เอาไว้ด้วยเลย  .
ถ้าบางแห่งไม่มีสถานทูต จะต้องแจ้งตำรวจก็จะได้มีเอกสารอ้างอิงให้ค้นข้อมูลได้

แต่พี่ไม่ได้ทำไว้สักอย่าง… ‘อุ๋ย’ แกมีเพราะดูแลเรื่องทำวีซ่าพาสปอร์ตให้กับลูกค้าของ Around the world. 

มานั่งคิดก็ขำ ๆ เพราะตอนออกจากไทยไปถือพาสปอร์ตถ่ายภาพกับป้าย Passport Control ซะโก้เก๋..หายจริง ๆ

ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในปารีส ที่ช่วยบริการรวดเร็ว และเป็นบริการฟรีเสียด้วย..

บัดดี้รู้ไหมว่าพาสปอร์ตหายในปารีสนี่ไม่น่ากังวลเลย เพราะเรามีสถานทูตมานานนับร้อย ๆ ปีให้บริการดูแลคนไทยที่นี่

พี่เคยทำพาสปอร์ตหายใน อุรุมุฉี ซินเกียง ต้องขังตัวเองในโรงแรมจนกว่าจะหาเจอถึงจะออกมาเดินเที่ยวได้ เพราะสมัยโน้นถ้าเดินไปไหนมาไหนในอุรุมุฉีแล้วมีคนตรวจไม่เจอพาสปอร์ตพกมาด้วย  อาจโดนกักขังก่อนค่อยทำพาสปอร์ตใหม่จึงจะได้ออกมาเที่ยว..

ป้ายโฆษณาภาษาจีนขนาดใหญ่ ใจกลางถนนรัชดา ‘ขายพาสปอร์ตย้ายประเทศ’ ระบุหลายชาติ ‘อินโดนีเซีย-วานูอาตู-กัมพูชา-ตุรกี’ บิ๊กตำรวจชี้!! ทำได้ ไม่ผิด

(22 ก.ค.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ถูกติดตั้งอยู่ตรงสี่แยกห้วยขวาง ตรงข้ามกับเทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง ย่านที่คนจีนพลุกพล่าน ด้วยความสงสัยว่า เป็นโฆษณาอะไรจึงใช้แอปฯ ในการช่วยแปลจนพอสรุปได้ว่า นี่คือป้ายโฆษณาขายหนังสือเดินทางตรวจคนเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแปลงสัญชาติ

พร้อมกันนั้นยังมีการระบุราคาพาสปอร์ตประเทศต่าง ๆ โดยที่ยังไม่ทราบหน่วย ดังเช่น อินโดนีเซีย ราคา 30,000 ,วานูอาตู ราคา 70,000 ,กัมพูชา ราคา 1 แสน และตุรกีราคา 1.5 แสน

ด้านชาวเน็ตได้แชร์โพสต์ดังกล่าวไปจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ ป้ายใหญ่มากใครอนุญาตให้ติดตั้ง พร้อมถามหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาอธิบาย

ขณะที่ทางเพจเรื่องเล่าเช้านี้ ได้อัปเดตความคืบหน้ากรณีป้ายขนาดใหญ่เป็นภาษาจีน โฆษณาซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ ติดตั้งย่านรัชดาภิเษก กทม. โดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ยืนยันว่าสามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่การโฆษณาว่าจะเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทยนั้น ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 3 รายงานว่า มีคนงานขึ้นไปปลดป้ายดังกล่าวออกแล้ว หลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

‘เศรษฐา’ บุก!! สน.ห้วยขวาง สั่งตรวจสอบ ป้ายโฆษณา ‘ขายพาสปอร์ต’ กำชับ!! จับ ‘จีนเทา-หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด’ หากทำผิด ต้องรีบดำเนินการ

(22 ก.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อติดตามกรณีการขึ้นป้ายโฆษณาที่ประกาศขายพาสปอร์ตและให้สัญชาติ เป็นภาษาจีน โดยติดอยู่บริเวณแยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ และต่อมาได้มีการถอดป้ายดังกล่าวออกไปแล้ว

โดยนายกฯ ยังได้กำชับผกก.สน.ห้วยขวาง เรื่องทุนจีนสีเทา รวมไปถึงเรื่องปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม ที่วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 

ซึ่งก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะได้เดินทางออกไปนั้น ก็ยังได้สั่งให้มีการตรวจสอบถึงที่มาที่ไปการขึ้นป้ายโฆษณาดังกล่าวและหากมีความผิดตามกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกระบวนการ นอกจากนั้น ยังสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้มงวด ในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเขตห้วยขวางมีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจของชาวจีนจำนวนมาก จึงอยากให้มีการเข้มงวดตรวจสอบทุกอย่างต้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดเรื่องของยาเสพติดและเรื่องหนี้นอกระบบในพื้นที่ ที่รับผิดชอบด้วย

'อนุทิน' สั่ง!! ‘กรมการปกครอง’ จัดการเด็ดขาด หากพบขบวนการขึ้นโฆษณา 'ขายพาสปอร์ตผิดกฎหมาย'

(24 ก.ค. 67) ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) ถนนพระราม 6 กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีป้ายโฆษณาทำพาสปอร์ตหลายสัญชาติ ที่มีกระแสข่าวเบื้องหลังขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า การสอบสวนเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะนี้การตำตรวจสอบก็เป็นไปตามขั้นตอน เมื่อวานได้มอบนโยบายให้กรมการปกครอง ว่าป้ายลักษณะเช่นนี้ได้มีการตั้งมาตรฐานแล้ว หากเป็นป้ายโฆษณาให้ไปทำพาสปอร์ตของประเทศใดก็ตามถือว่าผิด ประเทศไทยไม่ใช่เป็นที่ที่ใครจะมาอยู่แล้วทำสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ใช่ว่าไม่ได้ขายพาสปอร์ตไทยแล้วจะไม่ผิด เรื่องนี้ถือเป็นสามัญสำนึกที่ต้องรู้ว่าพาสปอร์ตไม่สามารถขายได้ และเมื่อรู้ว่าการกระทำนั้นผิดก็ต้องหยุดเสีย นั่นคือสิ่งที่เราได้ดำเนินการไปแล้ว

เมื่อถามว่า มีมาตรการอย่างไรในการรายงานผลความคืบหน้าความเคลื่อนคดีป้ายดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานอยู่แล้วมองว่า ขณะนี้คงไม่ต้องรายงานแล้ว เพราะได้ไล่ปลดป้ายลงทั้งหมดแล้ว แต่ไม่พอแค่นั้น กรมการปกครองที่มีภารกิจเกี่ยวข้องในการออกวีซ่า และการตรวจคนเข้าเมืองของต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย ต้องไปร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบสวนถึงขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเครือข่ายอะไรที่ทำเช่นนี้อยู่หรือไม่นั้น หากทราบที่มาก็ให้ไปกำจัดแค่นั้น

"อย่าไปใส่ความเครียดอะไรมาก ๆ ให้กับสังคม ให้กับประชาชน เรื่องบางเรื่องเมื่อเราไปจัดการก็จะจบไป" นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า คนส่วนใหญ่กลัวว่าไทยจะเป็นมณฑลไท่กั๋ว เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของจีน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก ประเทศไทยเรามีอธิปไตย อย่างที่ตนเคยบอกไป เราไม่รังเกียจคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย ตามสัมมาอาชีพ ซึ่งดีซะอีก เพราะบางอาชีพได้ขายของเอารายได้เข้าประเทศ พวกเราทุกคนก็เป็นต่างชาติทั้งนั้น

"ท่านชาดา ต่างชาติไหมล่ะ ก๋งผม อาม่าผม ก็คนต่างชาติทั้งนั้น ทุกคนก็ทำตามครรลอง มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร และสร้างเนื้อสร้างตัวในประเทศไทย ถ้าใครทำผิดกฎหมายก็คงอยู่เมืองไทยไม่ได้ ก็แค่นั้นเอง" รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top